ASTV ผู้จัดการรายวัน - "คำรณวิทย์" แจง 5 ข้อสงสัยทนายสุวัตร เกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของ"เอกยุทธ อัญชันบุตร" ยันสืบสวนครบถ้วนทุกกระบวนความ อ้างขั้นตอนอยู่ในชั้นอัยการ
วานนี้ (27 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร และ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง คนขับรถพร้อมพวกฆาตกรรมเสียชีวิต ยื่นเอกสารให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตรวจสอบข้อสงสัย 5 ข้อ เกี่ยวกับประเด็นผู้จ้างวานและการกลับคำให้การรับสารภาพของนายสันติภาพ
โดยทาง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตั้งแต่จับกุมตัวนายสันติภาพ ทางตำรวจได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนและคลี่คลายคดีได้ตามข้อสงสัยทุกอย่างแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวว่า ประเด็นที่อดีตทนายความของนายเอกยุทธยื่นให้ตรวจสอบนั้น ทางฝ่ายสืบสวนได้แบ่งงานลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงตามข้อสงสัยทีละข้อแล้ว ซึ่งประเด็นที่ 1-3 ก็คลี่คลายไป โดยนายสมชาย จิตปรีดากร ก็เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมกับยืนยันว่านายบอลเคยมาสมัครทำงานที่บริษัทจริง แต่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่เคยรู้จักสนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือนักการเมืองคนใด และไม่เคยเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปกับนายสันติภาพ
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับฮาร์ดดิสก์ ได้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คือนายเอ็กซ์ ซึ่งเป็นพี่เขยพร้อมด้วยแฟนสาว ก็ได้ให้การว่านายสันติภาพ เดินทางไปหาเพื่อให้ช่วยเอาศพนายเอกยุทธไปฝัง แต่ทั้งสองคนอ้างว่ากลัวผี จึงไม่ยอมร่วมมือ นอกจากนี้ยังเห็นว่านายสันติภาพนำฮาร์ดดิสก์และโทรศัพท์มือถือไปทุบทำลายที่บริเวณข้างบ้าน เรื่องการนำไปฝังนั้นไม่มี
พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่อดีตทนายความของนายเอกยุทธระบุว่า นายสันติภาพให้การว่ามีรถนำขบวนในการนำศพนายเอกยุทธไปฝังที่จ.พัทลุง นั้น ตนได้มอบหมายให้พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่นายสันติภาพให้การไว้ ไม่พบว่ามีรถนำขบวนแต่อย่างใด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่มีหลุด หากทำแล้วเกิดความเสียหาย ตกหล่นหรือทำให้ผู้ต้องหาหลุดในชั้นศาล ถือว่าตลอดชีวิตการทำงานนั้นใช้ไม่ได้ สำหรับนายสมชาย จิตปรีดากร ก็ทราบมาว่าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุวัตร และน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทีมทนายความของนายสุวัตร เพราะเขาคิดว่าโดนใส่ร้าย
เมื่อถามว่ากรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนออกมาระบุผลการชันสูตรศพของนายเอกยุทธ ว่าไม่พบบาดแผลการถูกรัดคอ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ผลสรุปของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ทางตำรวจยังไม่ได้รับเอกสารอะไรเลย ทางออกที่ดีที่สุดให้คณะกรรมการสิทธิฯ หรือใครก็ได้ที่อยากจะเป็นข่าว นำเอกสารผลสรุปการชันสูตรศพมาพบพล.ต.ต.อนุชัย เพื่อสอบปากคำเป็นพยานตามขั้นตอน
ขณะที่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า สำหรับเอกสารต่างๆของคณะกรรมการสิทธิฯ ทางบช.น.ยังไม่เคยได้รับ ตำรวจพร้อมที่จะนำเอกสารต่างๆมาพิจารณา หากมีความเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ที่จะพิสูจน์ความผิดได้ สำหรับผลการชันสูตรของแพทย์ตรงกันกับเหตุการณ์และสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหา โดยเฉพาะสาเหตุการตาย ตำรวจต้องยึดหลักฐานจากผลการรายงานของแพทย์ที่มาให้ปากคำไว้กับตำรวจ ไม่มีอะไรขัดแย้งกัน
เมื่อถามว่าทางอัยการได้ร้องขอให้มีการสอบปากคำหรือตรวจสอบพยานหลักฐานใดๆเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางอัยการ สิ่งใดที่มีการแนะนำมาเพื่อให้สำนวนของคดีดังกล่าวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น พนักงานสอบสวนก็ปฏิบัติตาม ส่วนการเดินทางเข้าชี้แจงกับคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนของวุฒิสภา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ตอบข้อซักถามและชี้แจงให้คำแนะนำที่ได้รับมา แต่คงให้รายละเอียดมากไม่ได้ เนื่องจากสำนวนการสอบสวนได้ส่งให้อัยการรอส่งฟ้องศาลแล้ว ที่ผ่านมาพล.ต.ท.คำรณวิทย์ และตนรวมทั้งคณะพนักงานสอบสวนหลายชุด ได้เข้าชี้แจงทั้งกับคณะกรรมมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการสิทธิฯ หลายครั้งแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่ายังมีการติดตามทรัพย์สินของนายเอกยุทธที่ยังหาไม่พบอยู่หรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายกว่า 10 รายการ ทางตำรวจสามารถติดตามคืนมาได้มากพอสมควร นับว่าเป็นคดีที่มีการสืบสวนติดตามทรัพย์สินของผู้ตายกลับคืนมาได้เยอะเกือบที่สุดแล้ว ขาดเพียงแค่สร้อยคอทองคำพร้อมพระสมเด็จและนาฬิกาโรเล็กซ์ ซึ่งยังมีการติดตามหาอยู่ มีการออกตำหนิรูปพรรณ และส่งไปที่ฝ่ายสืบจับต่างๆ แต่ก็ต้องให้เวลาเพราะตำรวจก็มีคดีอื่นๆที่ต้องทำด้วย
วานนี้ (27 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร และ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง คนขับรถพร้อมพวกฆาตกรรมเสียชีวิต ยื่นเอกสารให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตรวจสอบข้อสงสัย 5 ข้อ เกี่ยวกับประเด็นผู้จ้างวานและการกลับคำให้การรับสารภาพของนายสันติภาพ
โดยทาง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตั้งแต่จับกุมตัวนายสันติภาพ ทางตำรวจได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนและคลี่คลายคดีได้ตามข้อสงสัยทุกอย่างแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวว่า ประเด็นที่อดีตทนายความของนายเอกยุทธยื่นให้ตรวจสอบนั้น ทางฝ่ายสืบสวนได้แบ่งงานลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงตามข้อสงสัยทีละข้อแล้ว ซึ่งประเด็นที่ 1-3 ก็คลี่คลายไป โดยนายสมชาย จิตปรีดากร ก็เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมกับยืนยันว่านายบอลเคยมาสมัครทำงานที่บริษัทจริง แต่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่เคยรู้จักสนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือนักการเมืองคนใด และไม่เคยเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปกับนายสันติภาพ
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับฮาร์ดดิสก์ ได้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คือนายเอ็กซ์ ซึ่งเป็นพี่เขยพร้อมด้วยแฟนสาว ก็ได้ให้การว่านายสันติภาพ เดินทางไปหาเพื่อให้ช่วยเอาศพนายเอกยุทธไปฝัง แต่ทั้งสองคนอ้างว่ากลัวผี จึงไม่ยอมร่วมมือ นอกจากนี้ยังเห็นว่านายสันติภาพนำฮาร์ดดิสก์และโทรศัพท์มือถือไปทุบทำลายที่บริเวณข้างบ้าน เรื่องการนำไปฝังนั้นไม่มี
พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่อดีตทนายความของนายเอกยุทธระบุว่า นายสันติภาพให้การว่ามีรถนำขบวนในการนำศพนายเอกยุทธไปฝังที่จ.พัทลุง นั้น ตนได้มอบหมายให้พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่นายสันติภาพให้การไว้ ไม่พบว่ามีรถนำขบวนแต่อย่างใด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่มีหลุด หากทำแล้วเกิดความเสียหาย ตกหล่นหรือทำให้ผู้ต้องหาหลุดในชั้นศาล ถือว่าตลอดชีวิตการทำงานนั้นใช้ไม่ได้ สำหรับนายสมชาย จิตปรีดากร ก็ทราบมาว่าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุวัตร และน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทีมทนายความของนายสุวัตร เพราะเขาคิดว่าโดนใส่ร้าย
เมื่อถามว่ากรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนออกมาระบุผลการชันสูตรศพของนายเอกยุทธ ว่าไม่พบบาดแผลการถูกรัดคอ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ผลสรุปของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ทางตำรวจยังไม่ได้รับเอกสารอะไรเลย ทางออกที่ดีที่สุดให้คณะกรรมการสิทธิฯ หรือใครก็ได้ที่อยากจะเป็นข่าว นำเอกสารผลสรุปการชันสูตรศพมาพบพล.ต.ต.อนุชัย เพื่อสอบปากคำเป็นพยานตามขั้นตอน
ขณะที่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า สำหรับเอกสารต่างๆของคณะกรรมการสิทธิฯ ทางบช.น.ยังไม่เคยได้รับ ตำรวจพร้อมที่จะนำเอกสารต่างๆมาพิจารณา หากมีความเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ที่จะพิสูจน์ความผิดได้ สำหรับผลการชันสูตรของแพทย์ตรงกันกับเหตุการณ์และสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหา โดยเฉพาะสาเหตุการตาย ตำรวจต้องยึดหลักฐานจากผลการรายงานของแพทย์ที่มาให้ปากคำไว้กับตำรวจ ไม่มีอะไรขัดแย้งกัน
เมื่อถามว่าทางอัยการได้ร้องขอให้มีการสอบปากคำหรือตรวจสอบพยานหลักฐานใดๆเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางอัยการ สิ่งใดที่มีการแนะนำมาเพื่อให้สำนวนของคดีดังกล่าวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น พนักงานสอบสวนก็ปฏิบัติตาม ส่วนการเดินทางเข้าชี้แจงกับคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนของวุฒิสภา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ตอบข้อซักถามและชี้แจงให้คำแนะนำที่ได้รับมา แต่คงให้รายละเอียดมากไม่ได้ เนื่องจากสำนวนการสอบสวนได้ส่งให้อัยการรอส่งฟ้องศาลแล้ว ที่ผ่านมาพล.ต.ท.คำรณวิทย์ และตนรวมทั้งคณะพนักงานสอบสวนหลายชุด ได้เข้าชี้แจงทั้งกับคณะกรรมมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการสิทธิฯ หลายครั้งแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่ายังมีการติดตามทรัพย์สินของนายเอกยุทธที่ยังหาไม่พบอยู่หรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายกว่า 10 รายการ ทางตำรวจสามารถติดตามคืนมาได้มากพอสมควร นับว่าเป็นคดีที่มีการสืบสวนติดตามทรัพย์สินของผู้ตายกลับคืนมาได้เยอะเกือบที่สุดแล้ว ขาดเพียงแค่สร้อยคอทองคำพร้อมพระสมเด็จและนาฬิกาโรเล็กซ์ ซึ่งยังมีการติดตามหาอยู่ มีการออกตำหนิรูปพรรณ และส่งไปที่ฝ่ายสืบจับต่างๆ แต่ก็ต้องให้เวลาเพราะตำรวจก็มีคดีอื่นๆที่ต้องทำด้วย