โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ความผยองอำนาจของรัฐบาลของแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน ภายไต้การค้ำจุนของรัฐตำรวจไร้ขอบเขต พยายามแทรกซึม สอดรู้สอดเห็นการสื่อสารของประชาชนผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ กลายเป็นความเสือก อันเป็นผลจากความหวาดผวาว่าจะต้องมีอันเป็นไป สิ้นอำนาจวาสนา หมดโอกาสโกงบ้านกินเมือง
บอกได้เลยว่าช่วงนี้เป็นการเริ่มต้นของการนับถอยหลังจนถึงวันสิ้นสุดของยุคชั่วร้ายของบักเหลี่ยมและขี้ข้า ทรยศหักหลังประชาชน เนรคุณแผ่นดิน ดังนั้นการใช้อำนาจผ่านตำรวจแทรกซึมและกุมอำนาจในองค์กรต่างๆ จึงเป็นการดิ้นรนรักษาสภาพ จัดการศัตรูคู่แข่ง มองชาวบ้านเป็นภัยต่อความมั่นคง
หลงทึกทักเอาว่าบ้านเมืองนี้เป็นของโคตรเหง้าตระกูลกังฉินของบักเหลี่ยมและเครือข่ายญาติโกโหติกา คิดจะจัดการทรัพย์สินแผ่นดิน เอามาจัดสรรปันส่วนโกงกินอะไรก็ได้ มองประชาชนเป็นเพียงนกกา ไม่อยู่ในสายตา
การใช้อำนาจควบคุม จัดการความคิดเห็น การแสดงออกของประชาชนโดยหน่วยงานขี้ข้าบักเหลี่ยม ทำตัวเป็นทรราช เป็นรูปแบบของสภาวะของการใกล้สูญเสียอำนาจของทรราชทุกแห่ง เกิดขึ้นในหลายประเทศ เมื่อควบคุมการสื่อสารไม่ได้ ก็จะรุกคืบไปปิดกั้น คุกคามด้วยกฎหมาย ตามด้วยอิทธิพล อำนาจเถื่อน ก่อนใช้กำลังเข่นฆ่า อุ้มหาย ก่อนโดนโค่นล้มหนีตายไปเมืองนอก
เห็นได้ชัดว่าบักเหลี่ยมใช้วิธีซ่อนกล เล่นเกม ทั้งยื้อเวลาหาเงินไว้เป็นทุน สร้างกลุ่ม องค์กร กรรมการต่างๆ มาเพื่อเป็นตัวขวางกั้น เบี่ยงเบนประเด็นวิกฤติที่ตัวเองเผชิญอยู่ โดยหวังว่าประชาชนคนโง่งมจะตกเป็นเหยื่อเล่ห์กล
นี่ก็เป็นการดิ้นรนของทรราชชั่ว ภายไต้หน้าฉาก คราบประชาธิปไตยโดยระบบรัฐสภาขี้ข้าทาสน้ำเงิน! เห็นได้ชัดว่าลีลาเล่ห์ล่าสุดคือการเกณฑ์กลุ่มผุ้สูงอายุ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นปฏิกูล ซากสัปรังเคทางการเมือง และขี้ข้าขบวนการบักเหลี่ยมต่างกรรมต่างวาระ หาโอกาสมาสุมหัวกัน โดยมีเพียงเป้าหมายเดียว
นั่นคือการประชุม พ่นน้ำลาย แลกเปลี่ยนความคิดหลุดยุค เพียงเพื่อให้ขบวนการบักเหลี่ยมและนางโพยปูโพรกเน่าในจะได้เดินเด้งหน้าเด้งหลัง ผลาญเงินแผ่นดินด้วยโครงการท่องเที่ยวต่างประเทศ หาประสบการณ์ส่วนตัว
ล่าสุดพยายามใช้เงินหาความสุขเกินค่าความเป็นคน ตั้งงบซื้อรถยนต์ราคากว่า 30 ล้านบาท 2 คัน ซื้อเครื่องบินใหม่ เอาไว้บินร่อนไปมา จนกว่าจะครบทุกประเทศ ขณะที่ชาวบ้านคนเสียภาษีอยู่ในสภาพอกไหม้ไส้ขมทุกข์เข็ญ
ขบวนการประชาชนชุมนุมอยู่ในสวนลุมพินีแม้จะมีคนร่วมไม่มากนัก ถึงระดับหมื่นก็ตาม แต่เป็นไปในลักษณะน้ำซึมบ่อทราย สะสมไว้ หรือเป็นเหมือนไฟสุมขอนร้อนระอู ก่อนระเบิด สร้างความหายนะล้มล้างขบวนการบักเหลี่ยม
การชุมนุมช่วงนี้คือการใช้เวลา สร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือ ให้ความรู้ประชาชนว่าทางเลือกที่จะล้มล้างระบบทรราชเอ๋อ หน้าฉากบักเหลี่ยมร้าย คือการเดินขบวนขับไล่ ลุกฮือทั่วประเทศ ถ้าขบวนการศาลหรือระบบองค์กรอิสระไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากปัญหาความกล้าหาญ
วันไหนที่ขบวนการบักเหลี่ยมหวาดผวา ประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง หรือใช้กฎหมาย อิทธิพลในรูปแบบต่างคุกคามกลุ่มม็อบสวนลุมฯ เมื่อไหร่ นั่นแสดงความความหวาดกลัวอยู่ในระดับขี้ขึ้นหัว เป็นเฮือกสุดท้ายของลมหายใจ
น่าเสียดาย มวลชนสวนลุมพินีไม่มีทีวีสำหรับถ่ายทอดสดเต็มเวลา หรือบางช่วงที่มีความสำคัญ หลายฝ่ายยังมองว่าจำนวนคนยังไม่มากพอ! นั่นก็เกิดคำถามว่า ถ้าไม่ใช้สื่อกระตุ้น โอกาสที่จะชักชวนคนอื่นๆ ให้เข้าร่วมก็ยิ่งล่าช้า
แน่นอน การต่อสู้เพื่อล้มล้างทรราชนั้นไม่ง่าย มีทั้งความหวาดหวั่นต่อการถูกข่มขู่คุกคามโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมวลชนถ่อย! แม้แต่องค์กรเช่นศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือองค์กรอื่นๆ ก็ล้วนถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง โดยเฉพาะตำรวจไม่ใส่ใจให้ความคุ้มครอง
นั่นเป็นเพราะตำรวจและม็อบถ่อยเสื้อแดง รัฐบาล เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นรัฐซ้อนรัฐ มีทั้งอำนาจกฎหมาย อำนาจเถื่อน อำนาจมืด และการคุกคามอย่างเปิดเผย ประเทศไทยเป็นอาณาจักรแห่งความกลัว ขณะที่ผู้นำมีปัญหาทางจิต
การปักหลักในสวนลุมพินี แสดงออกให้เห็นความจริงจัง จะสำเร็จได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าร่วม ขณะนี้เป็นแสงริบหรี่ซึ่งรอวันแห่งการลุกโชน! รัฐบาลยังดูแบบหมิ่นแคลน ไร้ศักยภาพ โดยลืมไปว่าการล้มรัฐบาลมักเริ่มต้นโดยจำนวนคนเพียงหยิบมือ หรือเพียงหนึ่งคนเท่านั้น และต้องใช้เวลา
เมื่อองค์กรที่สามารถพึ่งพาได้ เช่นพลังข้าราชการ กองทัพ อยู่ในสภาพสิ้นหวัง ประชาชนไม่ให้ความน่าเชื่อถือ ก็ต้องพึ่งพาตนเอง! การต่อสู้เพื่อคุณธรรม ความถูกต้อง ผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เคยมีใครต่อสู้ให้ หรือหยิบยื่นให้โดยพลังอื่นๆ! มีแต่พวกรอตีกิน แสวงหาประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น
เราได้เห็นคนในเครื่องแบบ มีพลัง แต่ไร้จิตสำนึกต่อสู้เพื่อความมั่นคงของบ้านเมือง แต่ละวันแสดงให้เห็นจิตสำนึกมืดบอด ไร้ความรับผิดชอบ! หนักข้อคือพวกเนรคุณแผ่นดินเกิด ไม่หวั่นว่าลูกหลานประณามว่าเป็นพวกจัญไร
ถ้ามองว่าตัวเองเป็นคนดี แต่ไม่ทำอะไร ก็เป็นจัญไรแผ่นดินเช่นกัน!
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ความผยองอำนาจของรัฐบาลของแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน ภายไต้การค้ำจุนของรัฐตำรวจไร้ขอบเขต พยายามแทรกซึม สอดรู้สอดเห็นการสื่อสารของประชาชนผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ กลายเป็นความเสือก อันเป็นผลจากความหวาดผวาว่าจะต้องมีอันเป็นไป สิ้นอำนาจวาสนา หมดโอกาสโกงบ้านกินเมือง
บอกได้เลยว่าช่วงนี้เป็นการเริ่มต้นของการนับถอยหลังจนถึงวันสิ้นสุดของยุคชั่วร้ายของบักเหลี่ยมและขี้ข้า ทรยศหักหลังประชาชน เนรคุณแผ่นดิน ดังนั้นการใช้อำนาจผ่านตำรวจแทรกซึมและกุมอำนาจในองค์กรต่างๆ จึงเป็นการดิ้นรนรักษาสภาพ จัดการศัตรูคู่แข่ง มองชาวบ้านเป็นภัยต่อความมั่นคง
หลงทึกทักเอาว่าบ้านเมืองนี้เป็นของโคตรเหง้าตระกูลกังฉินของบักเหลี่ยมและเครือข่ายญาติโกโหติกา คิดจะจัดการทรัพย์สินแผ่นดิน เอามาจัดสรรปันส่วนโกงกินอะไรก็ได้ มองประชาชนเป็นเพียงนกกา ไม่อยู่ในสายตา
การใช้อำนาจควบคุม จัดการความคิดเห็น การแสดงออกของประชาชนโดยหน่วยงานขี้ข้าบักเหลี่ยม ทำตัวเป็นทรราช เป็นรูปแบบของสภาวะของการใกล้สูญเสียอำนาจของทรราชทุกแห่ง เกิดขึ้นในหลายประเทศ เมื่อควบคุมการสื่อสารไม่ได้ ก็จะรุกคืบไปปิดกั้น คุกคามด้วยกฎหมาย ตามด้วยอิทธิพล อำนาจเถื่อน ก่อนใช้กำลังเข่นฆ่า อุ้มหาย ก่อนโดนโค่นล้มหนีตายไปเมืองนอก
เห็นได้ชัดว่าบักเหลี่ยมใช้วิธีซ่อนกล เล่นเกม ทั้งยื้อเวลาหาเงินไว้เป็นทุน สร้างกลุ่ม องค์กร กรรมการต่างๆ มาเพื่อเป็นตัวขวางกั้น เบี่ยงเบนประเด็นวิกฤติที่ตัวเองเผชิญอยู่ โดยหวังว่าประชาชนคนโง่งมจะตกเป็นเหยื่อเล่ห์กล
นี่ก็เป็นการดิ้นรนของทรราชชั่ว ภายไต้หน้าฉาก คราบประชาธิปไตยโดยระบบรัฐสภาขี้ข้าทาสน้ำเงิน! เห็นได้ชัดว่าลีลาเล่ห์ล่าสุดคือการเกณฑ์กลุ่มผุ้สูงอายุ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นปฏิกูล ซากสัปรังเคทางการเมือง และขี้ข้าขบวนการบักเหลี่ยมต่างกรรมต่างวาระ หาโอกาสมาสุมหัวกัน โดยมีเพียงเป้าหมายเดียว
นั่นคือการประชุม พ่นน้ำลาย แลกเปลี่ยนความคิดหลุดยุค เพียงเพื่อให้ขบวนการบักเหลี่ยมและนางโพยปูโพรกเน่าในจะได้เดินเด้งหน้าเด้งหลัง ผลาญเงินแผ่นดินด้วยโครงการท่องเที่ยวต่างประเทศ หาประสบการณ์ส่วนตัว
ล่าสุดพยายามใช้เงินหาความสุขเกินค่าความเป็นคน ตั้งงบซื้อรถยนต์ราคากว่า 30 ล้านบาท 2 คัน ซื้อเครื่องบินใหม่ เอาไว้บินร่อนไปมา จนกว่าจะครบทุกประเทศ ขณะที่ชาวบ้านคนเสียภาษีอยู่ในสภาพอกไหม้ไส้ขมทุกข์เข็ญ
ขบวนการประชาชนชุมนุมอยู่ในสวนลุมพินีแม้จะมีคนร่วมไม่มากนัก ถึงระดับหมื่นก็ตาม แต่เป็นไปในลักษณะน้ำซึมบ่อทราย สะสมไว้ หรือเป็นเหมือนไฟสุมขอนร้อนระอู ก่อนระเบิด สร้างความหายนะล้มล้างขบวนการบักเหลี่ยม
การชุมนุมช่วงนี้คือการใช้เวลา สร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือ ให้ความรู้ประชาชนว่าทางเลือกที่จะล้มล้างระบบทรราชเอ๋อ หน้าฉากบักเหลี่ยมร้าย คือการเดินขบวนขับไล่ ลุกฮือทั่วประเทศ ถ้าขบวนการศาลหรือระบบองค์กรอิสระไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากปัญหาความกล้าหาญ
วันไหนที่ขบวนการบักเหลี่ยมหวาดผวา ประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง หรือใช้กฎหมาย อิทธิพลในรูปแบบต่างคุกคามกลุ่มม็อบสวนลุมฯ เมื่อไหร่ นั่นแสดงความความหวาดกลัวอยู่ในระดับขี้ขึ้นหัว เป็นเฮือกสุดท้ายของลมหายใจ
น่าเสียดาย มวลชนสวนลุมพินีไม่มีทีวีสำหรับถ่ายทอดสดเต็มเวลา หรือบางช่วงที่มีความสำคัญ หลายฝ่ายยังมองว่าจำนวนคนยังไม่มากพอ! นั่นก็เกิดคำถามว่า ถ้าไม่ใช้สื่อกระตุ้น โอกาสที่จะชักชวนคนอื่นๆ ให้เข้าร่วมก็ยิ่งล่าช้า
แน่นอน การต่อสู้เพื่อล้มล้างทรราชนั้นไม่ง่าย มีทั้งความหวาดหวั่นต่อการถูกข่มขู่คุกคามโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมวลชนถ่อย! แม้แต่องค์กรเช่นศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือองค์กรอื่นๆ ก็ล้วนถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง โดยเฉพาะตำรวจไม่ใส่ใจให้ความคุ้มครอง
นั่นเป็นเพราะตำรวจและม็อบถ่อยเสื้อแดง รัฐบาล เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นรัฐซ้อนรัฐ มีทั้งอำนาจกฎหมาย อำนาจเถื่อน อำนาจมืด และการคุกคามอย่างเปิดเผย ประเทศไทยเป็นอาณาจักรแห่งความกลัว ขณะที่ผู้นำมีปัญหาทางจิต
การปักหลักในสวนลุมพินี แสดงออกให้เห็นความจริงจัง จะสำเร็จได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าร่วม ขณะนี้เป็นแสงริบหรี่ซึ่งรอวันแห่งการลุกโชน! รัฐบาลยังดูแบบหมิ่นแคลน ไร้ศักยภาพ โดยลืมไปว่าการล้มรัฐบาลมักเริ่มต้นโดยจำนวนคนเพียงหยิบมือ หรือเพียงหนึ่งคนเท่านั้น และต้องใช้เวลา
เมื่อองค์กรที่สามารถพึ่งพาได้ เช่นพลังข้าราชการ กองทัพ อยู่ในสภาพสิ้นหวัง ประชาชนไม่ให้ความน่าเชื่อถือ ก็ต้องพึ่งพาตนเอง! การต่อสู้เพื่อคุณธรรม ความถูกต้อง ผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เคยมีใครต่อสู้ให้ หรือหยิบยื่นให้โดยพลังอื่นๆ! มีแต่พวกรอตีกิน แสวงหาประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น
เราได้เห็นคนในเครื่องแบบ มีพลัง แต่ไร้จิตสำนึกต่อสู้เพื่อความมั่นคงของบ้านเมือง แต่ละวันแสดงให้เห็นจิตสำนึกมืดบอด ไร้ความรับผิดชอบ! หนักข้อคือพวกเนรคุณแผ่นดินเกิด ไม่หวั่นว่าลูกหลานประณามว่าเป็นพวกจัญไร
ถ้ามองว่าตัวเองเป็นคนดี แต่ไม่ทำอะไร ก็เป็นจัญไรแผ่นดินเช่นกัน!