ASTVผู้จัดการรายวัน-กูว่าแล้ว! “มาร์ค-เทือก” ทิ้งมวลชนกลับบ้านใครบ้านมัน หลังนำม็อบปาหี่หนุนประชาธิปัตย์ ต้านกฎหมายนิรโทษ เผย "ผู้กองปูเค็ม" ถูกตำรวจจับขังแล้ว กองทัพประชาชนรอกำหนดท่าที "ปู" มาสภา 5 นาที ก่อนวิ่งแจ้นกลับทำเนียบ อัดรัฐบาลปิดกั้นสื่อ งดถ่ายทอดสด สุดอึ้ง "จ่าประสิทธิ์" ทำตัวถ่อย ถอดรองเท้าวางบนโต๊ะ ฟาก ปชป. เล่นเกมยื้อ ประท้วงวุ่น แต่สุดท้ายเจอพวกมากลากไป
เวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานกีฬาใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ ตลอดหัวค่ำของวันที่ 6 ส.ค. เรื่อยมาจนถึงช่วงเช้าวานนี้ (7 ส.ค.) แกนนำได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และคณะ โดยประชาชนที่มาร่วมชุมนุม ยืนยันจะเดินขบวนไปส่ง ส.ส. เข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนเคลื่อนขบวนว่า การเคลื่อนไหวเดินเท้าเข้าสภาของ ส.ส. และประชาชน เป็นเพียงเดินทางไปส่ง ส.ส. เข้าทำงานในรัฐสภา ไม่มีเจตนาที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการแสดงให้รัฐบาลเห็นว่าเราผนึกกำลังกันต่อต้านกฎหมายที่เป็นอันตรายต่อระบบกฎหมายของประเทศ แม้แต่องค์กรสากลก็ตำหนิว่าไม่ควรทำ เพราะเป็นการล้างความผิดให้คนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน จะสร้างแบบอย่างว่าการต่อสู้ทางการเมืองใช้ความรุนแรงได้ ซึ่งเราแสดงออกในรูปแบบของกฎหมายโดยต้องการเพียงอย่างเดียว คือ รัฐบาลนี้ต้องยกเลิกกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ และเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายมาพูดกันว่าการเดินหน้าประเทศต้องเดินหน้าอย่างไร (ดูรายละเอียดนาทีต่อนาทีในล้อมกรอบ)
**ปชป.ยุติมวลชนสั่งแยกย้ายกลับบ้าน
เวลาประมาณ 11.45 น. นายสุเทพ ขึ้นเวทีบนรถขยายเสียง ก่อนที่จะเดินเท้าเข้าสู่รัฐสภา โดยประกาศขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ และร่วมแสดงพลังคัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยระบุว่า ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินเข้าไปในพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงได้ จึงขอให้ยุติการชุมนุมและแยกย้ายกลับบ้าน ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดจะเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน แต่ต้องการเข้าไปทำหน้าที่อภิปราย เพื่อไม่ให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านไปอย่างง่ายดาย
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มผู้สนับสนุน แสดงให้เห็นถึงความเป็นพลเมืองที่เคารพกฎหมาย ซึ่งการต่อสู้เพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้ จะต้องใช้เวลา และต้องทำอย่างมีสติ
**"ชวน"ย้ำ ปชป.ไม่ร่วมวงปฏิรูป
เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง เปรยว่า “โอ๊ย จะเป็นลม” ส่วน น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ถึงกับบอกโอดครวญว่า ไม่ไหวแล้วรองเท้ากัด แต่นายชวน กลับไม่ได้แสดงสีหน้าเหน็ดเหนื่อยและให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอแนวคิดปฏิรูปการเมือง ก็ต้องดูว่า ใครสั่งหรือเขียนให้พูด และนายกฯ รู้เรื่องนั้นหรือไม่ เพราะหลายเรื่องที่นายกฯ พูด สวนทางกับการปฏิบัติ นายกฯ บอกว่าปรองดอง แต่คนของตัวเองกลับก่อปัญหาทุกเรื่อง ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวคิดที่จะให้ส.ส.ลาออก เหมือนที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้
ส่วนกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อให้ฝ่ายค้านและหลายฝ่ายมาร่วมกันบริหารประเทศเพื่อความปรองดอง นายชวนย้อนถามว่า ไม่ทราบว่าชาติไหน เพราะความขัดแย้งมาจากคนของรัฐบาล ฝ่ายค้านไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหา
**"ผู้กองปูเค็ม"ถูกตำรวจจับขัง
อีกด้านบริเวณแยกขัตติยานี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ “ผู้กองปูเค็ม" อดีตนายทหารนอกราชการ ในชุดทหารลายพรางเต็มยศ พร้อมมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางเรียกร้องให้รัฐสภา อนุญาตให้สื่อมวลชนมีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา
เวลา 13.10น. ผู้กองปูเค็มได้ฝ่าวงล้อม แต่ถูกตำรวจ ปจ. ควบคุมตัวมาสอบปากคำบริเวณจุดอำนวยการ ติดกับสวนสัตว์ดุสิต จากนั้นได้ควบคุมตัวพรรคพวกอีก 4 คน ไปควบคุมไว้ที่ ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี ข้อหาผิด พ.ร.บ.ความมั่นคง ประกอบไปด้วย 1.ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล (ผู้กองปูเค็ม) 2. นายพันธพงษ์ แซ่เจ็ง 3.นางนันทากร ฉายสร 4.นายปิยวัฒน์ เปรี้ยวขำ และ 5.นายทองหล่อ นิจทอง
**มติกองทัพประชาชนยกเลิกเคลื่อนไหว
ในส่วนการชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่สวนลุมพินี มีการเรียกรวมพลมวลชนตั้งแถวหน้าเวทีตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อทำการประเมินสถานการณ์
พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบนเวที ยอมรับว่ากำลังประชาชนที่สวนลุมพินีขณะนี้ ไม่เพียงพอที่จะสร้างความได้เปรียบ จึงต้องประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และขอยืนยันจะไม่ใช่กำลังประชาชนเดินหน้า หากไม่ประสบความสำเร็จ และยอมเสียหน้าเสียตาให้ถูกต่อว่า แต่จะไม่ยอมเอาชีวิตประชาชนไปทิ้งอย่างเด็ดขาด จึงขอให้รอในที่ตั้งก่อนแล้วทุกอย่างจะดีเอง
นายไทกร พลสุวรรณ กล่าวว่า แกนนำมีมติให้ติดตามการประชุม ร่างพ.ร.บ.นิรโทษ อย่างใกล้ชิด และให้ปักหลักชุมนุมสวนลุมพินีต่อเพื่อสะสมกำลัง ส่วนเหตุผลที่ไม่เคลื่อนตัว เพราะเกรงว่าประชาชนจะได้รับอันตราย
**ศอ.รส. อ้างพบม็อบพกอาวุธ
ส่วนบรรยากาศรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล มีการเพิ่มกำลังเป็น 21 กองร้อย ส่วนที่รัฐสภา บริเวณสี่แยกราชวิถี สวนสัตว์เขาดิน มีการส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 และกองกำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจภูธร จ.เลย มาเสริมรวมจำนวน 2 กองร้อย
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. กล่าวว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา การชุมนุมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 และกลุ่มผู้ชุมนุมเวทีผ่าความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์ ใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย พบกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการพกพาอาวุธ รวมถึงสิ่งเทียมอาวุธ อาทิ หัวน็อต ไม้ปลายแหลม น้ำมัน ไม้หน้าสาม ซึ่งสิ่งดังกล่าว สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และหากมีการพกพาเข้าไปในพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ล่าสุด ศอ.รส.ยังได้เสนอไปยังอธิบดีอัยการ เพื่อขอถอนประกันของ นายไทกร พลสุวรรณ และนายพิเชฏฐ พัฒนโชติ แกนนำฯ ที่ฝ่าฝืนคำสั่งปลุกระดมประชาชน
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมผ่านระบบกล้องซีซีทีวี ที่ศูนย์ควบคุมระบบกล้องวงจรปิด ศาลาว่าการกทม.
มีรายงานว่า คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้ยกเลิกการเรียนการสอนด้านสัตวแพทย์ ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 7-9 ส.ค. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ออกประกาศงดกิจกรรมนักศึกษาทุกประเภท 7-8 ส.ค.เช่นกัน
**"ปู"มาสภา 5 นาที กลับไปดี๊ด้าทำเนียบ
ช่วงเช้า เวลา 08.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปเป็นประธานการจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ ที่โรงเรียน ณ ดรุณ ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง เป็นโรงเรียนที่ น้องไปป์ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย โดยปฏิเสธตอบคำถาม ก่อนเดินทางไปยัง สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เพื่อบันทึกเทปโทรทัศน์กล่าวคำอาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายกฯ ได้เดินทางเข้าอาคารรัฐสภาเพื่อเข้าไปรับประทานอาหารกลางวัน โดยได้ใช้เวลาอยู่ที่สภาจนกระทั่งเวลา 12.55 น. และได้เดินทางออกจากสภาและเดินทางมายังที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ประธานสภาจะกดออด เปิดประชุมสภาเพียง 5 นาที
เวลา14.20น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันแลปราบปรามยาเสพติด ได้เดินจากตึกไทยคู่ฟ้า ไปยังตึกบัญชาการ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ครั้งที่ 3/2556 มีสีหน้าแจ่มใส อารมณ์ดี เดินช้าๆ เพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ โดยกล่าวอย่างอารมณ์ดีถึงม๊อบว่า “ไม่มีก็ไม่ต้องทำข่าวแล้ว ไปทำข่าวสภาดีกว่า”
**รัฐตั้งเป้า 299 เสียงหนุนวาระแรก
นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ได้หารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อตกลงเกี่ยวกับกรอบเวลาในการอภิปราย โดยตั้งเป้าว่าจะต้องมีเสียงรับหลักการในวาระที่ 1 ถึง 299 เสียง จากนั้นจะดำเนินการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณารายละเอียด
**รัฐบาลเพื่อไทยปิดกั้นสื่อถ่ายทอดสด
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เพราะเชื่อว่าไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรฯ ตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง เพราะหากขัดต่อ พ.ร.บ.จริง ทีวีและวิทยุรัฐสภาก็ไม่สามารถถ่ายทอดสดได้
นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ยืนยันว่า ประธานฯ วินิจฉัยแล้วว่าจะไม่มีการถ่ายทดสดการประชุมสภาฯ เนื่องจากที่ผ่านมา ในการประชุมสภาเพื่อพิจารณากฎหมายในวันพุธ ก็ไม่เคยมีการถ่ายทอดทางช่อง 11 อยู่แล้ว
เวลา 13.00 น.นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวหนังสือพิพม์แห่งประเทศไทย และนายวิสุทธิ์ คมวัชรพงษ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้เข้ายื่นหนังสือและแสดงการณ์ร่วมองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ต่อนายวิสุทธิ์ เพื่อขอให้ดำเนินการถ่ายทอดสดการประชุมสภาผู้แทนราษฏร
** “จ่าประสิทธิ์”ถ่อยวางรองเท้าบนโต๊ะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฏร เริ่มเวลา 13.00น. มีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฏร เป็นประธานการประชุม โดยทันทีที่เริ่มต้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือกรณีการปิดกั้นการทำงานของส.ส. และสื่อมวลชน เพราะผู้ช่วยส.ส. และสื่อมวลชนที่ติดตามรายงานข่าว ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสภา โดยนายสมศักดิ์อ้างว่าเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง และยืนยันว่าวันนี้เป็นการพิจารณาร่างกฎหมายตามปกติ จึงไม่จำเป็นต้องมีการถ่ายทอด แต่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พากันประท้วงเพื่อขอความเป็นธรรม และขอหารือเรื่องปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้นายสมศักดิ์ใช้อำนาจดุลพินิจประธานสั่งให้ดำเนินการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ขณะที่นายวรชัยเริ่มอ่านรายงานร่างพ.ร.บ. ปรากฏว่าส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างพากันตะโกนประท้วงด้วยความไม่พอใจ จนนายสมศักดิ์ต้องยอมให้ส.ส.ประชาธิปัตย์ หารือข้อเดือดร้อน แต่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังคงทวงถามให้มีการถ่ายทอดสด
หลังจากถกเถียงกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง นายสมศักดิ์ได้สั่งให้ส.ส.ฝ่ายค้านหารือถึงความเดือดร้อนของประชาชนโดยทั้งหมดใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนจะตัดเข้าสู่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
แต่เมื่อนายวรชัย เริ่มอ่านหลักการและเหตุผลในร่างอีกครั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างส่งเสียงทักท้วง นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ขอหารือว่า ร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการคืนทรัพย์สิน เป็นกฎหมายการเงิน แต่นายสมศักดิ์ ก็ชี้แจงว่า ไม่เป็น จากนั้นได้ให้นายวรชัยอ่านต่อ ท่ามกลางเสียงประท้วงของฝ่ายค้าน จนในที่สุดนายสมศักดิ์ต้องสั่งพักการประชุม5 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่บรรยากาศในห้องประชุมมีความวุ่นวาย จ.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ยกร้องเท้ามาวางไว้หน้าโต๊ะ จนสื่อทีวีถ่ายภาพได้ระหว่างที่มีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รัฐสภา
**ปชป.เล่นเกมยื้อสุดกำลัง
หลังจากพักการประชุม5นาที ที่ประชุมสภาได้ดำเนินไปอีกครั้ง นายสมศักดิ์ได้เปิดโอกาสให้นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส. ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอญัตติให้เลื่อนวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตรวจเงินแผ่นดินขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่ยังไม่ได้ทันได้ข้อยุติ นายสมศักดิ์ได้ตัดบทให้นายวรชัยลุกขึ้นอ่านหลักการอีกครั้ง แต่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังคงโห่คัดค้าน ทำให้นายวรชัยรีบอ่านจนจบ โดยมีส.ส.พรรคเพื่อไทยปรบมือแสดงความยินดี
แม้นายวรชัยจะอ่านหลักการแล้ว แต่การพิจารณายังไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ โดยยังคงมีการถกเถียงกันระหว่างสองฝ่ายเรื่องปัญหาร่างกฎหมายปรองดองจะเป็นร่างกฎหมายการเงินหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลอ้างว่าประธานได้วินิจฉัยไปแล้วว่าไม่เป็นกฎหมายการเงินก็ควรเคารพต่อคำวินิจฉัยนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ที่ประชุมจะได้สรุปในประเด็นกฎหมายการเงินแล้ว แต่ฝ่ายค้านยังคงหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมาอภิปราย โดยนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายประเด็นของจ.ต.ประสิทธิ์ ที่ยกรองเท้ามาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมได้นำภาพถ่ายของสื่อมวลชนมาแสดง และเรียกร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของจ.ต.ประสิทธิ์
ด้านจ.ต.ประสิทธิ์ ชี้แจงว่าสาเหตุที่ตนถอดรองเท้า เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ในที่ประชุมเริ่มไม่ดี ก็เลยถอดรองเท้าเพื่อเตรียมวิ่งออกจากห้อง แล้วเอารองเท้ามาป้องหน้าไว้เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังถกเถียงกันไปมา จนร่วม3ชั่วโมง ยังไม่สามารถเดินหน้าพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้
**“มาร์ค” วอน "ปู-พท." ถอยกม.นิรโทษกรรม
เวลา 17.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นอภิปรายขอเสนอให้มีการงดเว้นข้อบังคับการประชุมเพื่อให้มีการเลื่อนร่างกฎหมายอื่นขึ้นมาพิจารณาแทนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนไม่ยินยอม โดยยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะจะทำให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัยต้องตกไป
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติใหม่ โดยให้เลื่อนการปรึกษาหรือพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ตามข้อ 47 (5) ออกไปก่อน ซึ่งนายเจริญ ชี้แจงว่า สามารถเสนอได้ แต่ขอให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลอภิปรายฝ่ายละ 1 คน แล้วจะขอลงมติทันที และได้พักการประชุมในเวลา 17.18 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการพักการประชุมนานร่วมชั่วโมง นายเจริญได้เปิดประชุมอีกครั้ง
นายอภิสิทธิ์ได้อภิปรายสรุปใจความได้ว่า ขอให้นายกฯ และพรรคเพื่อไทยเลื่อนการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกไป เพราะมีการท้วงติงทั้งจากองค์กรระหว่างประเทศ และภายในประเทศ และถ้าเลื่อน ก็พร้อมที่จะไปพูดคุยหารือเรื่องอนาคตประเทศไทยทันที
***คว่ำญัตติ “มาร์ค” เดินหน้าลุยกม.ล้างผิด
นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เราได้เสียเวลามามากแล้ว จึงไม่ควรเลื่อนออกไปอีก แต่ควรที่จะเดินหน้า เพราะร่างของนายวรชัยเสมือนการดึงฟืนออกจากกองไฟ
จากนั้นนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้สั่งให้มีการนับองค์ประชุม โดยมีส.ส.ในห้องประชุม 349 คน จากนั้นได้มีการลงมติในญัตติของนายอภิสิทธิ์ ปรากฏว่ามีสมาชิก160 เสียงเห็นด้วย และ 301 เสียง ไม่เห็นด้วย งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน1 เสียง ดังนั้น สรุปได้ว่า ที่ประชุมมีมติให้พิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อไป