ASTVผู้จัดการรายวัน-"แม้ว"โพสต์เฟซบุ๊ก สอนมวยพาณิชย์ บอกอิรักเลิกประมูลซื้อข้าวไทย เพราะไม่มั่นใจในคุณภาพ เฉ่งเซอเวเยอร์ห่วยแตก ไม่จริงใจรักษาจริยธรรมในวิชาชีพ ด้านชาวนายื่นราคาจำนำ ต้องตันละ 1.5 หมื่นบาท แต่ยอมถอยขอแค่ปีละครั้ง ไม่เกินครัวเรือนละ 4 แสนบาท "พาณิชย์"เสียงอ่อยรับลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "Thaksin Shinawatra" ว่า เมื่อ2วันก่อน มีเพื่อนต่างชาติคนหนึ่งโทรมาหาผม บอกว่า อิรักยกเลิกการประมูลข้าวจากไทย เพราะไม่มั่นใจในคุณภาพ เหตุเกิดเนื่องมาจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เขาซื้อข้าวไทย ข้าวขาวชั้นดีแล้วส่งมอบข้าวคุณภาพต่ำให้เขา ผมก็เลยเชิญเขามาพบเพื่อเล่าข้อเท็จจริงให้ฟัง เขาตำหนิ Surveyors ของไทยที่ไม่จริงจังในการตรวจสอบคุณภาพของที่จะส่งมอบตามที่ตกลงกันไว้ แต่เขายังซื้อข้าวหอมมะลิต่อไป เพราะการควบคุมคุณภาพที่ส่งมอบไม่มีปัญหา
อิรักซื้อข้าวไทยปีละ 1 ล้านตัน ทำให้ตลาดหายไปดื้อๆ เขาบอกผมว่า ไทยไม่ต้องมาตัดราคาขายข้าวถูกๆ แล้วเอาของไม่ดีให้เขา เขาพร้อมจ่าย premium เพราะข้าวไทยรสชาติดีกว่าของข้าวเวียดนาม เขาไม่แคร์ที่จะจ่ายเพิ่ม เพราะประเทศเขารวยแล้ว คนของเขาควรได้กินข้าวมีคุณภาพจากไทย ก็เลยรีบบอกไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้ไปรับรองกับทางการอิรักเลย เขาพร้อมจะซื้อในราคาสูงกว่าตลาดโลกด้วยซ้ำ
ผมเล่าให้ฟัง มี 3 เรื่องที่อยากจะบอกกับผู้ติดตาม FB ผม คือ
1.อิรัก ถึงแม้จะมีเหตุการณ์อยู่บ้าง แต่ไม่มากเกิน เขารวยแล้ว และพร้อมจะใช้เงิน premium ในการซื้อของคุณภาพ เป็นตลาดที่สำคัญที่หากเอกชนน่าจะลองเจาะดูตลาดนี้ นอกจากอาหาร ก็อาจมีพวกอะไหล่รถยนต์ และการบริการด้านต่างๆ
2.การขายของ ขอให้ซื่อสัตย์กับลูกค้า ถ้าตกลงอย่างไร ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องหวังผลระยะยาว ไม่เห็นแก่ประโยชน์อันใกล้ ตีหัวเข้าบ้าน จะทำให้การค้าไม่ยั่งยืน ไม่เจริญ
3.บริษัทที่เป็นมืออาชีพที่ถูกจ้างเข้ามา เช่น Surveyors ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้ตรวจสอบคุณภาพ เป็นต้น ต้องรักษาจริยธรรมในวิชาชีพของตัวเอง ไม่เช่นนั้นท่านก็พัง ผู้ใช้บริการของท่านก็พัง
อย่างกรณีที่เกิดขึ้น Surveyors ข้าวบางรายนี้ ถึงกับทำให้ตลาด 1 ล้านตันเสียหาย ทั้งๆ ที่เขาส่งออกปีละ 7-8 ล้านตันเท่านั้น จึงนับเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง ถ้าไม่รู้จักกันไม่เชื่อคำพูดกัน ก็จะเอาตลาดคืนไม่ได้
สรุปก็คือ ต้องเข้าใจคำว่า Professionalism ซึ่งหมายถึงว่าคุณต้องมีความรู้และการศึกษาในสาขาวิชาชีพนั้นๆ และที่สำคัญทุกสาขาวิชาจะมีจริยธรรมแห่งอาชีพนั้น (code of ethic) ซึ่งคุณจะต้องเคารพและปฏิบัติโดยเคร่งครัด ถ้าไม่เช่นนั้นถือว่าไม่ใช่ Professionalism ครับ
วันเดียวกันนี้ นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย ได้ประชุมเสวนาระดมความคิดเห็นเรื่อง “ตอบโจทย์ชาวนา ตอบโจทย์ประชาชน” โดยระบุว่า ขณะนี้กลุ่มตัวแทนชาวนาและกรมการค้าภายในมีข้อสรุปอย่างไม่เป็นทางการที่จะกำหนดราคารับจำนำข้าวข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% ฤดูกาลผลิต 2556/57 ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท แต่จำกัดเพดานวงเงินรับจำนำไว้ที่ 4 แสนบาทต่อครัวเรือน และสามารถนำข้าวเข้าโครงการได้เพียงรอบเดียว จากปกติที่เข้าโครงการได้ทุกเมล็ด เนื่องจากต้องการลดภาระการคลังของรัฐบาล ส่วนข้าวที่เกิน 4 แสนบาท ก็ให้ไปขายในตลาดปกติ ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่ยอมรับได้ แต่ทั้งนี้ จะต้องนำข้อสรุปไปหารือกับสมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย สมาคมชาวนาไทยและเกษตรกรไทย อีกครั้งว่าเห็นด้วยหรือไม่
ส่วนความเคลื่อนไหวของกระทรวงพาณิชย์ พบว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้เรียกตัวแทนจากสภาเกษตรกรแห่งชาติมาหารือถึงแนวทางการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2556/57 ซึ่งสภาเกษตรกรแห่งชาติได้เสนอให้รัฐบาลคงราคารับจำนำตันละ 1.5 หมื่นบาท แต่อาจปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์บางอย่าง เพื่อให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณ ซึ่งนายนิวัฒน์ธำรงได้รับข้อเสนอดังกล่าวไว้ และมีแผนที่จะเรียกกลุ่มเกษตรกรอื่นๆ มาหารือเพื่อรับฟังข้อเสนอ ก่อนที่จะสรุปราคารับจำนำข้าวเปลือกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "Thaksin Shinawatra" ว่า เมื่อ2วันก่อน มีเพื่อนต่างชาติคนหนึ่งโทรมาหาผม บอกว่า อิรักยกเลิกการประมูลข้าวจากไทย เพราะไม่มั่นใจในคุณภาพ เหตุเกิดเนื่องมาจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เขาซื้อข้าวไทย ข้าวขาวชั้นดีแล้วส่งมอบข้าวคุณภาพต่ำให้เขา ผมก็เลยเชิญเขามาพบเพื่อเล่าข้อเท็จจริงให้ฟัง เขาตำหนิ Surveyors ของไทยที่ไม่จริงจังในการตรวจสอบคุณภาพของที่จะส่งมอบตามที่ตกลงกันไว้ แต่เขายังซื้อข้าวหอมมะลิต่อไป เพราะการควบคุมคุณภาพที่ส่งมอบไม่มีปัญหา
อิรักซื้อข้าวไทยปีละ 1 ล้านตัน ทำให้ตลาดหายไปดื้อๆ เขาบอกผมว่า ไทยไม่ต้องมาตัดราคาขายข้าวถูกๆ แล้วเอาของไม่ดีให้เขา เขาพร้อมจ่าย premium เพราะข้าวไทยรสชาติดีกว่าของข้าวเวียดนาม เขาไม่แคร์ที่จะจ่ายเพิ่ม เพราะประเทศเขารวยแล้ว คนของเขาควรได้กินข้าวมีคุณภาพจากไทย ก็เลยรีบบอกไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้ไปรับรองกับทางการอิรักเลย เขาพร้อมจะซื้อในราคาสูงกว่าตลาดโลกด้วยซ้ำ
ผมเล่าให้ฟัง มี 3 เรื่องที่อยากจะบอกกับผู้ติดตาม FB ผม คือ
1.อิรัก ถึงแม้จะมีเหตุการณ์อยู่บ้าง แต่ไม่มากเกิน เขารวยแล้ว และพร้อมจะใช้เงิน premium ในการซื้อของคุณภาพ เป็นตลาดที่สำคัญที่หากเอกชนน่าจะลองเจาะดูตลาดนี้ นอกจากอาหาร ก็อาจมีพวกอะไหล่รถยนต์ และการบริการด้านต่างๆ
2.การขายของ ขอให้ซื่อสัตย์กับลูกค้า ถ้าตกลงอย่างไร ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องหวังผลระยะยาว ไม่เห็นแก่ประโยชน์อันใกล้ ตีหัวเข้าบ้าน จะทำให้การค้าไม่ยั่งยืน ไม่เจริญ
3.บริษัทที่เป็นมืออาชีพที่ถูกจ้างเข้ามา เช่น Surveyors ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้ตรวจสอบคุณภาพ เป็นต้น ต้องรักษาจริยธรรมในวิชาชีพของตัวเอง ไม่เช่นนั้นท่านก็พัง ผู้ใช้บริการของท่านก็พัง
อย่างกรณีที่เกิดขึ้น Surveyors ข้าวบางรายนี้ ถึงกับทำให้ตลาด 1 ล้านตันเสียหาย ทั้งๆ ที่เขาส่งออกปีละ 7-8 ล้านตันเท่านั้น จึงนับเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง ถ้าไม่รู้จักกันไม่เชื่อคำพูดกัน ก็จะเอาตลาดคืนไม่ได้
สรุปก็คือ ต้องเข้าใจคำว่า Professionalism ซึ่งหมายถึงว่าคุณต้องมีความรู้และการศึกษาในสาขาวิชาชีพนั้นๆ และที่สำคัญทุกสาขาวิชาจะมีจริยธรรมแห่งอาชีพนั้น (code of ethic) ซึ่งคุณจะต้องเคารพและปฏิบัติโดยเคร่งครัด ถ้าไม่เช่นนั้นถือว่าไม่ใช่ Professionalism ครับ
วันเดียวกันนี้ นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย ได้ประชุมเสวนาระดมความคิดเห็นเรื่อง “ตอบโจทย์ชาวนา ตอบโจทย์ประชาชน” โดยระบุว่า ขณะนี้กลุ่มตัวแทนชาวนาและกรมการค้าภายในมีข้อสรุปอย่างไม่เป็นทางการที่จะกำหนดราคารับจำนำข้าวข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% ฤดูกาลผลิต 2556/57 ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท แต่จำกัดเพดานวงเงินรับจำนำไว้ที่ 4 แสนบาทต่อครัวเรือน และสามารถนำข้าวเข้าโครงการได้เพียงรอบเดียว จากปกติที่เข้าโครงการได้ทุกเมล็ด เนื่องจากต้องการลดภาระการคลังของรัฐบาล ส่วนข้าวที่เกิน 4 แสนบาท ก็ให้ไปขายในตลาดปกติ ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่ยอมรับได้ แต่ทั้งนี้ จะต้องนำข้อสรุปไปหารือกับสมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย สมาคมชาวนาไทยและเกษตรกรไทย อีกครั้งว่าเห็นด้วยหรือไม่
ส่วนความเคลื่อนไหวของกระทรวงพาณิชย์ พบว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้เรียกตัวแทนจากสภาเกษตรกรแห่งชาติมาหารือถึงแนวทางการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2556/57 ซึ่งสภาเกษตรกรแห่งชาติได้เสนอให้รัฐบาลคงราคารับจำนำตันละ 1.5 หมื่นบาท แต่อาจปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์บางอย่าง เพื่อให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณ ซึ่งนายนิวัฒน์ธำรงได้รับข้อเสนอดังกล่าวไว้ และมีแผนที่จะเรียกกลุ่มเกษตรกรอื่นๆ มาหารือเพื่อรับฟังข้อเสนอ ก่อนที่จะสรุปราคารับจำนำข้าวเปลือกต่อไป