00 ไม่น่าเชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯหรือ" กม.ตบตา" ล้างความผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร กับพวกขี้ข้าส่วนตัวฉบับนี้ คนภายนอกหรือต่างประเทศจะรู้รายละเอียดมากกว่าคนไทยเสียอีก โดยเฉพาะ"คนเสื้อแดง" ที่ออกมาเคลื่อนไหวจนเสียชีวิตบาดเจ็บหลายสิบคนนั้น เอาเข้าจริงกลับไม่ทราบรายละเอียดในเนื้อหาสาระสำคัญของกม.ฉบับนี้เท่าที่ควร หรือถ้าบอกว่ารู้ดี ก็ต้องตั้งคำถามว่า "จิตใจและระบบคิด" ของคนพวกนี้ทำไมถึงพิลึกพิลั่นเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ รู้หรือไม่ว่าหาก กม.ฉบับนี้ผ่านสภา ทั้ง ทหาร ตำรวจ รวมไปถึง "ชายชุดดำ" ที่เป็น"คนเหนี่ยวไก" ยิงคนเสื้อแดง จะพ้นความผิดไปด้วย แม้ว่ายังไม่มีพิสูจน์แน่ชัด แต่เมื่อร่างกม.ผ่าน นั่นก็หมายความว่า "การพิสูจน์หาความจริงต้องยุติลง" ทันที และเป็นไปได้สูงยิ่งว่าในขั้นตอนแปรญัตติในวาระสอง เป้าหมายจะลบล้างความผิดให้ ทักษิณ กันแบบสุดซอยไปเลย เพราะเขาคือ"นายทุนใหญ่" ลงทุนลงแรงมา ทุกอย่างที่ผ่านมาก็เพื่อการนี้แหละ
00 แต่ก็แปลก ก็คือเรื่องแบบนี้คนเสื้อแดงส่วนใหญ่กลับเฉย ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ก่อนหน้านี้มีแค่ นางพะเยาว์ อัคฮาด กับคณะไม่กี่คนในฐานะแกนนำญาติคนเสื้อแดงเคยโวยวาย คัดค้าน กับร่างกม.นิรโทษฯ ฉบับวรชัย เหมะ มาแล้วอ้างว่าทนไม่ได้ที่ "เหมาเข่ง" มีการฮึดฮัด ทำท่าเสนอ ร่าง กม.ฉบับประชาชน จะให้ประกอบเข้าไป แต่เอาเข้าจริงก็เงียบ ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่โวยวายเสียงดัง และรู้ทันกว่าใครดันเป็นต่างประเทศเสียอีก ก่อนหน้านี้เป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนกลุ่ม "ฮิวส์เเมนไรท์วอช" ที่ออกแถลงการณ์คัดค้าน ล่าสุดสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ก็ออกคำแถลงคัดค้านกม.ฉบับดังกล่าวในทำนองเดียวกัน และเรียกร้องให้ถอนออกมาจากสภา มาทบทวนใหม่ ซึ่งมันก็น่างงงวยและน่าสมเพชเวทนาก็คือ แทนที่จะเป็นคนเสื้อแดงที่สูญเสีย แต่กลับเงียบและสนับสนุนโดยไม่มีข้อแม้
00 นอกจากนี้ที่พิลึกก็คือ ในเมื่อรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ"ระบอบทักษิณ" มักอ้างว่า"เป็นนักประชาธิปไตย" มาจากประชาธิปไตย บูชาในเรื่อง "สิทธิเสรีภาพ" ของประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร แต่กลายเป็นว่า ในการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญฉบับนี้กลับมีการ "ปิดหูปิดตา" ชาวบ้าน รวมทั้งคนเสื้อแดงไม่ให้รับฟังข้อมูลการอภิปราย ทำราวกับว่า "กลัวความแตก" เป็นการประจานความจริงออกมาให้เห็น เพราะไม่มีเหตุผลที่จะมีการปิดกั้นการถ่ายทอดสดทางทีวี ทุกประเภท ทั้ง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และรองประธานสภา เจริญ จรรย์โกมล อย่ามาอ้างว่ามีทีวีรัฐสภา ถ่ายทอดอยู่แล้ว และเป็นช่วงของการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง อยู่ในความควบคุม แต่หากปิดกั้นแบบนี้ถือว่่า "โคตรเผด็จการ" ปากบอกว่านักประชาธิปไตย แต่ความจริงที่เห็นมันฟ้องให้เห็นอยู่โต้งๆ
00 มีหลายคนสงสัยว่าในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ ทักษิณ ชินวัตร แอบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ยังอยู่ที่ดูไบ หรือเปล่า เพราะมีไม่น้อยเชื่อว่าเขาต้องแอบมาบัญชาการอยู่ใกล้ๆ แถวนี้แหละ แต่คราวนี้อาจจะผิดแผกไป คงไม่กล้าย่องเข้าเขมร เพราะล่าสุดสถานการณ์ของ "ฮุนเซน" เริ่มไม่ชัวร์ อาจพังเอาง่ายๆ ก็ได้ ดังนั้นความเป็นไปได้ก็น่าจะเป็น สิงคโปร์ มากที่สุด ขณะที่มาเลเซีย หลังจากเจอ"คลิปอัลกออิดะห์" ขู่ฆ่า คงแหยงไม่กล้าเหยียบที่นั่นแล้วก็ได้
00 ที่จริงก็ไม่อยากพูด หรือวิจารณ์อะไรมากนักกับวิธีการของพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตั้งเวที "ผ่าความจริงโต้รุ่ง" ปลุกเร้ามวลชนกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการให้เดินทางมาส่ง ส.ส.ชักแถวเข้าสภาไปคัดค้านร่างนิรโทษฯ ของรัฐบาล แล้วปล่อยให้มวลชนแยกย้ายกันกลับบ้านไปรอฟังข่าวเฉย ยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุร้ายขึ้นหลังจากนั้น และแน่นอนว่า ไม่ว่าจะป่วน จะยื้ออย่างไรในสภา แต่ผลที่ออกมามันก็เสียท่า พ่ายแพ้วันยังค่ำ แต่ถึงอย่างไรก็โล่งใจที่พี่น้องไม่เป็นอันตราย !!
00 แต่ก็แปลก ก็คือเรื่องแบบนี้คนเสื้อแดงส่วนใหญ่กลับเฉย ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ก่อนหน้านี้มีแค่ นางพะเยาว์ อัคฮาด กับคณะไม่กี่คนในฐานะแกนนำญาติคนเสื้อแดงเคยโวยวาย คัดค้าน กับร่างกม.นิรโทษฯ ฉบับวรชัย เหมะ มาแล้วอ้างว่าทนไม่ได้ที่ "เหมาเข่ง" มีการฮึดฮัด ทำท่าเสนอ ร่าง กม.ฉบับประชาชน จะให้ประกอบเข้าไป แต่เอาเข้าจริงก็เงียบ ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่โวยวายเสียงดัง และรู้ทันกว่าใครดันเป็นต่างประเทศเสียอีก ก่อนหน้านี้เป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนกลุ่ม "ฮิวส์เเมนไรท์วอช" ที่ออกแถลงการณ์คัดค้าน ล่าสุดสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ก็ออกคำแถลงคัดค้านกม.ฉบับดังกล่าวในทำนองเดียวกัน และเรียกร้องให้ถอนออกมาจากสภา มาทบทวนใหม่ ซึ่งมันก็น่างงงวยและน่าสมเพชเวทนาก็คือ แทนที่จะเป็นคนเสื้อแดงที่สูญเสีย แต่กลับเงียบและสนับสนุนโดยไม่มีข้อแม้
00 นอกจากนี้ที่พิลึกก็คือ ในเมื่อรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ"ระบอบทักษิณ" มักอ้างว่า"เป็นนักประชาธิปไตย" มาจากประชาธิปไตย บูชาในเรื่อง "สิทธิเสรีภาพ" ของประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร แต่กลายเป็นว่า ในการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญฉบับนี้กลับมีการ "ปิดหูปิดตา" ชาวบ้าน รวมทั้งคนเสื้อแดงไม่ให้รับฟังข้อมูลการอภิปราย ทำราวกับว่า "กลัวความแตก" เป็นการประจานความจริงออกมาให้เห็น เพราะไม่มีเหตุผลที่จะมีการปิดกั้นการถ่ายทอดสดทางทีวี ทุกประเภท ทั้ง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และรองประธานสภา เจริญ จรรย์โกมล อย่ามาอ้างว่ามีทีวีรัฐสภา ถ่ายทอดอยู่แล้ว และเป็นช่วงของการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง อยู่ในความควบคุม แต่หากปิดกั้นแบบนี้ถือว่่า "โคตรเผด็จการ" ปากบอกว่านักประชาธิปไตย แต่ความจริงที่เห็นมันฟ้องให้เห็นอยู่โต้งๆ
00 มีหลายคนสงสัยว่าในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ ทักษิณ ชินวัตร แอบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ยังอยู่ที่ดูไบ หรือเปล่า เพราะมีไม่น้อยเชื่อว่าเขาต้องแอบมาบัญชาการอยู่ใกล้ๆ แถวนี้แหละ แต่คราวนี้อาจจะผิดแผกไป คงไม่กล้าย่องเข้าเขมร เพราะล่าสุดสถานการณ์ของ "ฮุนเซน" เริ่มไม่ชัวร์ อาจพังเอาง่ายๆ ก็ได้ ดังนั้นความเป็นไปได้ก็น่าจะเป็น สิงคโปร์ มากที่สุด ขณะที่มาเลเซีย หลังจากเจอ"คลิปอัลกออิดะห์" ขู่ฆ่า คงแหยงไม่กล้าเหยียบที่นั่นแล้วก็ได้
00 ที่จริงก็ไม่อยากพูด หรือวิจารณ์อะไรมากนักกับวิธีการของพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตั้งเวที "ผ่าความจริงโต้รุ่ง" ปลุกเร้ามวลชนกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการให้เดินทางมาส่ง ส.ส.ชักแถวเข้าสภาไปคัดค้านร่างนิรโทษฯ ของรัฐบาล แล้วปล่อยให้มวลชนแยกย้ายกันกลับบ้านไปรอฟังข่าวเฉย ยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุร้ายขึ้นหลังจากนั้น และแน่นอนว่า ไม่ว่าจะป่วน จะยื้ออย่างไรในสภา แต่ผลที่ออกมามันก็เสียท่า พ่ายแพ้วันยังค่ำ แต่ถึงอย่างไรก็โล่งใจที่พี่น้องไม่เป็นอันตราย !!
