เมื่อเวลา 08.15 น. วานนี้ (7ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางมาร่วมกิจกรรม เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคมและกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ ที่โรงเรียน ณ ดรุณ ซ.สถานทูตลาว ซึ่งด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยนายกรัฐมนตรี สวมชุดผ้าไหมสีฟ้าอ่อน กระโปรงสีดำ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมหยอกล้อผู้สื่อข่าวว่า "มีเนื้อที่ให้วันแม่บ้างนะคะ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีการจัดซุ้มและจัดนิทรรศการ "แม่ของแผ่นดิน" ที่แสดงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และนิทรรศการ "เล่าเรื่องราว...เรารักแม่" ที่ให้นักเรียนนำภาพถ่ายร่วมกับแม่มาบรรยายถึงควาวมรู้สึก โดยหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องราวของน้องไปป์ หรือ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร ที่เขียนว่า
"นี่คือรูปของไปป์กับคุณแม่ในงานวันแม่ปีที่แล้ว ที่โรงเรียน ณ ดรุณ ไปป์รู้สึกอบอุ่นและซึ้งใจ ไปป์มีความสุขมาก ไปป์รู้สึกซึ้งใจเพราะคุณแม่มีภารกิจเยอะ แต่ก็ยังสละเวลามาร่วมในงานวันแม่นี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณแม่เห็นความสำคัญของผม ที่จริงไปป์ก็แสดงความรักต่อคุณแม่ทุกวันอยู่แล้ว โดยการกอดทุกรอบที่เราเจอกัน ไปป์รักคุณแม่ครับ"
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ พร้อมตรวจวัดความดัน ที่โรงพยาบาลพระราม 9 มาตั้งซุ้มให้บริการตรวจสุขภาพมารดา และผู้ปกครองของนักเรียน โดยผลตรวจวัดความดันนายกรัฐมนตรี อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 116-76 ชีพจร 91 ครั้งต่อนาที
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และตัวแทนนักเรียนนำกล่าวอาเศียรวาท ถวายพระพรเพื่อถวายความจงรักภักดี และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สดุดีมหาราชา กลุ่มนักเรียนมอบพวงมาลัยดอกไม้ ก่อนจะมีการแสดงจินตลีลาของนักเรียน โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ได้มอบเกียรติบัตรให้แก่คุณครู และผู้ปกครองที่ได้ทำคุณประโยชน์และร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนเป็นเวลานาน
พร้อมกันนี้ น้องไปป์ ได้นำพวงมาลัยดอกมะลิ มากราบเท้าแม่พร้อมกล่องแทนใจ เขียนข้อความ พร้อมรูปภาพ ก่อนสวมกอดทำให้นายกฯ ถึงกับย้ำตาคลอ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวมกอดและหอมแก้มน้องไปป์ ก่อนที่จะร่วมถ่ายภาพร่วมครู และกับบุคลากรของโรงเรียน ณ ดรุณ
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จพิธิการ น้องไปป์ ได้มอบเรียงความที่เขียนด้วยลายมือของตัวเองให้กับนายกรัฐมนตรี ได้อ่าน โดยระบุว่าเขียนเสร็จเมื่อคืนนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีได้อ่านก็ถึงกับน้ำตาคลออีกครั้ง ก่อนจะสวมกอดบุตรชาย โดยเนื้อหาในเรียงความมีใจความว่า
"ความรู้สึก...เมื่อนึกถึงแม่ หนึ่งเดียวในชีวิตของผม คือคุณแม่ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต และความรักนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง ผมรู้สึกภูมิใจในตัวของคุณแม่มากๆ คุณแม่ทำงานหนักทุกวัน แต่ก็ยังพยายามหาเวลาให้ไปป์ คุณแม่เปรียบเหมือนเพชรงามๆ เม็ดหนึ่ง ที่มีความแข็งแกร่ง เหมือนคุณแม่ในการทำงาน และอดทนเสมอเมื่อมีปัญหา คุณแม่มีความงดงามเหมือนกับเพชรในเรื่องของความมีน้ำใจ คุณแม่มักจะไม่สบายใจ เมื่อเห็นคนเดือดร้อน คุณแม่มีคุณค่าเหมือนกับเพชร เพราะคุณแม่คือคนสำคัญของไปป์ และคุณพ่อ ไปป์ขอขอบคุณแม่สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ไปป์ ดีใจที่เกิดมาเป็นลูกชายของคุณแม่ จากไปป์ ลูกชายแม่ปู "
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้มีความสุขมาก และชื่่นใจ ตอนนี้ลูกก็โตขึ้นแล้ว ภูมิใจในตัวลูกที่เขาได้แสดงความรู้สึก และได้เขียนถึงความรักของแม่ และที่สำคัญพัฒนาการเขาก็ถือว่าดีขึ้น อยากให้เขาได้รับความรู้เรื่องของภาษาไทย และวัฒนธรรมไทยให้มากขึ้น ซึ่งก็ภูมิใจที่วันนี้เขาทำได้ดี
"เวลาที่เหนื่อยหรือมีปัญหา น้องไปป์ ก็จะเข้ามาแสดงความรู้สึก บางครั้งก็มากอดแม่ จะกอดกันทุกวันและก็จะบอกว่าแม่รักลูก" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามว่าถือว่าวันนี้ลูกเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานใช่ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็เป็นส่วนสำคัญในการให้กำลังใจ ถ้าเราไม่มีความกังวลในเรื่องของลูก เราก็จะไม่กังวลในการทำงานมาก
ด้าน ด.ช.ศุภเสกข์ กล่าวถึงการให้กำลังใจแม่เวลาที่เจอปัญหามากๆจากการทำงาน ว่า เวลาแม่เหนื่อย ก็จะเข้าไปกอดไปคุยด้วย และลูบหลังแม่ เมื่อถามว่าอยากให้แม่ออกจากการเมืองหรือไม่ เวลาเห็นแม่เหนื่อยหรือไม่สบายใจมาก ๆ น้องไปป์ กล่าวว่า ก็ไม่มี แต่ก็ขอให้แม่ผ่านอุปสรรคไปได้
"เวลาที่แม่เหนื่อยจากการทำงาน พอกลับถึงบ้าน ไปป์ก็จะเข้าไปโถมกอดแม่ เพื่อให้กำลังใจ สำหรับวันแม่ปีนี้ ก็ได้เขียนเรียงความถึงแม่ และทำกล่องดวงใจเล็กๆ ให้แม่"
เมื่อถามว่า แม่ถือเป็นไอดอล และโตขึ้นอยากจะเป็นนักการเมืองหรือไม่ น้องไปป์ ส่ายหัว พร้อมบอกว่า "ไม่เอาครับ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีการจัดซุ้มและจัดนิทรรศการ "แม่ของแผ่นดิน" ที่แสดงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และนิทรรศการ "เล่าเรื่องราว...เรารักแม่" ที่ให้นักเรียนนำภาพถ่ายร่วมกับแม่มาบรรยายถึงควาวมรู้สึก โดยหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องราวของน้องไปป์ หรือ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร ที่เขียนว่า
"นี่คือรูปของไปป์กับคุณแม่ในงานวันแม่ปีที่แล้ว ที่โรงเรียน ณ ดรุณ ไปป์รู้สึกอบอุ่นและซึ้งใจ ไปป์มีความสุขมาก ไปป์รู้สึกซึ้งใจเพราะคุณแม่มีภารกิจเยอะ แต่ก็ยังสละเวลามาร่วมในงานวันแม่นี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณแม่เห็นความสำคัญของผม ที่จริงไปป์ก็แสดงความรักต่อคุณแม่ทุกวันอยู่แล้ว โดยการกอดทุกรอบที่เราเจอกัน ไปป์รักคุณแม่ครับ"
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ พร้อมตรวจวัดความดัน ที่โรงพยาบาลพระราม 9 มาตั้งซุ้มให้บริการตรวจสุขภาพมารดา และผู้ปกครองของนักเรียน โดยผลตรวจวัดความดันนายกรัฐมนตรี อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 116-76 ชีพจร 91 ครั้งต่อนาที
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และตัวแทนนักเรียนนำกล่าวอาเศียรวาท ถวายพระพรเพื่อถวายความจงรักภักดี และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สดุดีมหาราชา กลุ่มนักเรียนมอบพวงมาลัยดอกไม้ ก่อนจะมีการแสดงจินตลีลาของนักเรียน โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ได้มอบเกียรติบัตรให้แก่คุณครู และผู้ปกครองที่ได้ทำคุณประโยชน์และร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนเป็นเวลานาน
พร้อมกันนี้ น้องไปป์ ได้นำพวงมาลัยดอกมะลิ มากราบเท้าแม่พร้อมกล่องแทนใจ เขียนข้อความ พร้อมรูปภาพ ก่อนสวมกอดทำให้นายกฯ ถึงกับย้ำตาคลอ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวมกอดและหอมแก้มน้องไปป์ ก่อนที่จะร่วมถ่ายภาพร่วมครู และกับบุคลากรของโรงเรียน ณ ดรุณ
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จพิธิการ น้องไปป์ ได้มอบเรียงความที่เขียนด้วยลายมือของตัวเองให้กับนายกรัฐมนตรี ได้อ่าน โดยระบุว่าเขียนเสร็จเมื่อคืนนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีได้อ่านก็ถึงกับน้ำตาคลออีกครั้ง ก่อนจะสวมกอดบุตรชาย โดยเนื้อหาในเรียงความมีใจความว่า
"ความรู้สึก...เมื่อนึกถึงแม่ หนึ่งเดียวในชีวิตของผม คือคุณแม่ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต และความรักนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง ผมรู้สึกภูมิใจในตัวของคุณแม่มากๆ คุณแม่ทำงานหนักทุกวัน แต่ก็ยังพยายามหาเวลาให้ไปป์ คุณแม่เปรียบเหมือนเพชรงามๆ เม็ดหนึ่ง ที่มีความแข็งแกร่ง เหมือนคุณแม่ในการทำงาน และอดทนเสมอเมื่อมีปัญหา คุณแม่มีความงดงามเหมือนกับเพชรในเรื่องของความมีน้ำใจ คุณแม่มักจะไม่สบายใจ เมื่อเห็นคนเดือดร้อน คุณแม่มีคุณค่าเหมือนกับเพชร เพราะคุณแม่คือคนสำคัญของไปป์ และคุณพ่อ ไปป์ขอขอบคุณแม่สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ไปป์ ดีใจที่เกิดมาเป็นลูกชายของคุณแม่ จากไปป์ ลูกชายแม่ปู "
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้มีความสุขมาก และชื่่นใจ ตอนนี้ลูกก็โตขึ้นแล้ว ภูมิใจในตัวลูกที่เขาได้แสดงความรู้สึก และได้เขียนถึงความรักของแม่ และที่สำคัญพัฒนาการเขาก็ถือว่าดีขึ้น อยากให้เขาได้รับความรู้เรื่องของภาษาไทย และวัฒนธรรมไทยให้มากขึ้น ซึ่งก็ภูมิใจที่วันนี้เขาทำได้ดี
"เวลาที่เหนื่อยหรือมีปัญหา น้องไปป์ ก็จะเข้ามาแสดงความรู้สึก บางครั้งก็มากอดแม่ จะกอดกันทุกวันและก็จะบอกว่าแม่รักลูก" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามว่าถือว่าวันนี้ลูกเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานใช่ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็เป็นส่วนสำคัญในการให้กำลังใจ ถ้าเราไม่มีความกังวลในเรื่องของลูก เราก็จะไม่กังวลในการทำงานมาก
ด้าน ด.ช.ศุภเสกข์ กล่าวถึงการให้กำลังใจแม่เวลาที่เจอปัญหามากๆจากการทำงาน ว่า เวลาแม่เหนื่อย ก็จะเข้าไปกอดไปคุยด้วย และลูบหลังแม่ เมื่อถามว่าอยากให้แม่ออกจากการเมืองหรือไม่ เวลาเห็นแม่เหนื่อยหรือไม่สบายใจมาก ๆ น้องไปป์ กล่าวว่า ก็ไม่มี แต่ก็ขอให้แม่ผ่านอุปสรรคไปได้
"เวลาที่แม่เหนื่อยจากการทำงาน พอกลับถึงบ้าน ไปป์ก็จะเข้าไปโถมกอดแม่ เพื่อให้กำลังใจ สำหรับวันแม่ปีนี้ ก็ได้เขียนเรียงความถึงแม่ และทำกล่องดวงใจเล็กๆ ให้แม่"
เมื่อถามว่า แม่ถือเป็นไอดอล และโตขึ้นอยากจะเป็นนักการเมืองหรือไม่ น้องไปป์ ส่ายหัว พร้อมบอกว่า "ไม่เอาครับ"