xs
xsm
sm
md
lg

SCCปรับเป้ารายได้4.37แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ปูนซิเมนต์ปรับเป้ารายได้ปีนี้โตเพิ่มเล็กน้อยแค่ 2 พันล้านบาท เป็น 4.37 แสนล้านบาท หลังประเมินปลายปีนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกระทบการรับรู้รายได้จากต่างประเทศ โดยครึ่งปีหลังคาดว่ามีรายได้ดีกว่า6 เดือนแรกปีนี้ โดยไตรมาส2/56 กำไรพุ่ง 132% เฉียด1 หมื่นล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 5.5 บาท/หุ้น ส่วนปัญหาเมืองไทยช่วงนี้คาดผ่านพ้นด้วยดี

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC)เปิดเผยว่า บริษัทฯเป้าหมายรายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2 พันล้านบาทเป็น 4.37 แสนล้านบาท จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ 4.35 แสนล้านบาท เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้นในปลายปีนี้ ส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัทฯ โดยเงินบาทแข็งค่า 1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะกระทบรายได้บริษัทฯปีละ 1.2 พันล้านบาท
แต่บริษัทฯได้มีการทำประกันความเสี่ยง (เฮดจิ้ง) ไว้ 75%ของรายได้ต่างประเทศสุทธิ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทำเฮดจิ้งค่าเงินสกุลบาท แต่หากเป็นการลงทุนในต่างประเทศก็ยังมีความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินได้
“เดิมบริษัทฯคาดว่าปีนี้จะมีรายได้โตขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 4.4 แสนล้านบาท แต่จากค่าเงินบาทสกุลต่างประเทศที่บริษัทฯไปลงทุนทั้งด่อง และรุเปียะห์ บริษัทไม่ได้ทำเฮดจิ้งไว้ เพราะไม่คุ้ม ทำให้เป็นปัจจัยเสี่ยง ดังนั้นในปีนี้รายได้เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 4.37 แสนล้านบาท”
นายกานต์ กล่าวว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 /2556 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 1.06 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในประเทศและสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น แต่ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ 9.92 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 132%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวจากธุรกิจเคมีภัณฑ์และจากเงินปันผลรับที่ได้จากธุรกิจเอสซีจี การลงทุน
โดยไตรมาส 2 /2556 กลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ มีรายได้จากการขาย 5.23 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปริมาณการขายโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 2.64 พันล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาสก่อน แม้ว่าไตรมาส 2นี้จะการบันทึกขาดทุนจากสต็อกสินค้าไป 800 ล้านบาทก็ตามส่วนธุรกิจเอสซีจี เปเปอร์ มีรายได้จากการขาย 1.43 หมื่นล้านบาท ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศลดลง รวมทั้งกระดาษพิมพ์เขียนชะลอตัวด้วย ทำให้ไตรมาสนี้มีกำไร 1.03 พันล้านบาท ลดลง 6 %เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 4.21 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้จากกิจการเซรามิกในเวียดนาม และมีกำไร 3.38 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 2.15 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1.87 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในครึ่งปีแรก2556 หุ้นละ 5.50 บาท มีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 29 ส.ค.นี้
นายกานต์ กล่าวว่าไตรมาส 3 นี้คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานดีกว่าไตรมาส2/2556 หากไม่รวมรายได้จากเงินปันผลการลงทุน เนื่องจากมาร์จินธุรกิจปิโตรเคมีในปลายไตรมาส 3 น่าจะดีขึ้น เนื่องจากไม่มีซัปพลายใหม่เข้ามา และความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ยังดีต่อเนื่อง แต่ธุรกิจกระดาษยังไม่ค่อยดีเนื่องจากการส่งออกที่ชะลอตัวลงทำให้ครึ่งปีหลัง 2556 คาดว่ามีรายได้สูงกว่าครึ่งปีแรก แม้ว่าจะมีความเสี่ยงค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ซึ่งจะกระทบกับการรับรู้รายได้ของบริษัทฯที่มีการลงทุนในอาเซียนคิดเป็นสัดส่วน 9%ของรายได้รวม และปลายปีนี้โรงมาบตาพุด โอเลฟินส์จะมีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ 45 วันด้วยซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้ มองว่าเศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานแข็งแกร่งอยู่แม้ว่าGDP โตไม่ถึง 5%ก็ตาม คงต้องให้ภาครัฐมีการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานออกมาแม้ว่าจะล่าช้าไปบ้างก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มวิตกปัญหาการเมืองไทยในช่วงเดือนส.ค.นี้เพราะเกิดกิจกรรมทางการเมืองทั้งในและนอกสภา ซึ่งคาดว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และไทยก็เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น