ASTVผู้จัดการรายวัน- เผยประมูลข้าวเปลือกทำข้าวนึ่ง 2 แสนตันสุดกร่อย มีแค่ 5 รายมายื่นซอง “พาณิชย์”เตรียมเจรจาต่อรองวันนี้ วงการข้าวเผยสู้ราคาได้แค่ตันละ 8 พันถึงหมื่นบาท จับตาล้มประมูล หลังเงื่อนไขไม่ชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า การยื่นซองเสนอราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% จากโครงการจำนำข้าวเปลือกรอบ 2 ปี 2555/56 ปริมาณ 2 แสนตัน เพื่อทำเป็นข้าวนึ่งส่งออก เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยในช่วงเช้าจนถึงเที่ยง ไม่มีเอกชนรายใดมายื่นซองประมูล และมีมายื่นในช่วงบ่ายก่อนปิดรับซองประมูลในเวลา 16.30 น. จำนวน 5 ราย
โดยเอกชนทั้ง 5 ราย ได้แก่ บริษัท นครหลวงค้าข้าว บริษัท ไชยพร ไรซ แอนด์ ฟู้ด โปรดักส์ บริษัท เอเชีย โกลเด้นไรซ์ บริษัท กมลกิจ และบริษัท รอยัลริชชี่ไรซ์ ซึ่งนางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานระบายข้าวจะเปิดซองเพื่อต่อรองราคาในวันนี้ (31 ก.ค.)
แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว กล่าวว่า ผู้ส่งออกที่เข้าร่วมประมูลข้าวนึ่งในครั้งนี้ คาดว่าจะเสนอราคาซื้อข้าวเปลือกเจ้าตั้งแต่ตันละ 8,000 บาท ถึง 1 หมื่นบาท เพราะราคาส่งออกข้าวนึ่ง 100% ของไทยปัจจุบันขายอยู่ที่ตันละ 520-530 เหรียญสหรัฐ คิดทอนกลับมาเป็นเงินบาทอยู่ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท เมื่อทอนเป็นต้นทุนข้าวเปลือกจะอยู่ที่ตันละ 11,000 บาท การเสนอซื้อข้าวเปลือกจากรัฐบาลจึงต้องเสนอราคาต่ำกว่าตลาด เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงข้าวเพื่อส่งออก
ทั้งนี้ ผู้ส่งออกยังต้องแข่งขันด้านราคากับประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเจ้าตลาดข้าวนึ่ง ที่ขายอยู่ที่ตันละ 420 เหรียญสหรัฐ หากจะส่งออกให้แข่งขันได้ ราคาไทยจะต้องต่างจากอินเดียไม่เกินตันละ 50 เหรียญสหรัฐ โดยราคาดังกล่าวอาจจะทำให้รัฐบาลขาดทุนประมาณ 5,000-7,000 บาท เนื่องจากต้นทุนรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าของรัฐบาลอยู่ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกคาดว่า กรมการค้าต่างประเทศอาจจะล้มประมูลข้าวเปลือกเพื่อไปทำข้าวนึ่งในครั้งนี้ เพื่อปรับปรุงเงื่อนไขการประมูล ก่อนเปิดประมูลใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ผู้ส่งออกได้ท้วงติงถึงเงื่อนไขในการประมูลที่มีปัญหาในทางปฏิบัติหลายอย่าง เพราะในทีโออาร์ระบุว่าประมูลข้าวนึ่ง แต่ไม่บอกคุณภาพและเกรดข้าว ทำให้อาจจะเกิดปัญหาระหว่างผู้ส่งออกและโรงสีได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า การยื่นซองเสนอราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% จากโครงการจำนำข้าวเปลือกรอบ 2 ปี 2555/56 ปริมาณ 2 แสนตัน เพื่อทำเป็นข้าวนึ่งส่งออก เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยในช่วงเช้าจนถึงเที่ยง ไม่มีเอกชนรายใดมายื่นซองประมูล และมีมายื่นในช่วงบ่ายก่อนปิดรับซองประมูลในเวลา 16.30 น. จำนวน 5 ราย
โดยเอกชนทั้ง 5 ราย ได้แก่ บริษัท นครหลวงค้าข้าว บริษัท ไชยพร ไรซ แอนด์ ฟู้ด โปรดักส์ บริษัท เอเชีย โกลเด้นไรซ์ บริษัท กมลกิจ และบริษัท รอยัลริชชี่ไรซ์ ซึ่งนางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานระบายข้าวจะเปิดซองเพื่อต่อรองราคาในวันนี้ (31 ก.ค.)
แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว กล่าวว่า ผู้ส่งออกที่เข้าร่วมประมูลข้าวนึ่งในครั้งนี้ คาดว่าจะเสนอราคาซื้อข้าวเปลือกเจ้าตั้งแต่ตันละ 8,000 บาท ถึง 1 หมื่นบาท เพราะราคาส่งออกข้าวนึ่ง 100% ของไทยปัจจุบันขายอยู่ที่ตันละ 520-530 เหรียญสหรัฐ คิดทอนกลับมาเป็นเงินบาทอยู่ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท เมื่อทอนเป็นต้นทุนข้าวเปลือกจะอยู่ที่ตันละ 11,000 บาท การเสนอซื้อข้าวเปลือกจากรัฐบาลจึงต้องเสนอราคาต่ำกว่าตลาด เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงข้าวเพื่อส่งออก
ทั้งนี้ ผู้ส่งออกยังต้องแข่งขันด้านราคากับประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเจ้าตลาดข้าวนึ่ง ที่ขายอยู่ที่ตันละ 420 เหรียญสหรัฐ หากจะส่งออกให้แข่งขันได้ ราคาไทยจะต้องต่างจากอินเดียไม่เกินตันละ 50 เหรียญสหรัฐ โดยราคาดังกล่าวอาจจะทำให้รัฐบาลขาดทุนประมาณ 5,000-7,000 บาท เนื่องจากต้นทุนรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าของรัฐบาลอยู่ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกคาดว่า กรมการค้าต่างประเทศอาจจะล้มประมูลข้าวเปลือกเพื่อไปทำข้าวนึ่งในครั้งนี้ เพื่อปรับปรุงเงื่อนไขการประมูล ก่อนเปิดประมูลใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ผู้ส่งออกได้ท้วงติงถึงเงื่อนไขในการประมูลที่มีปัญหาในทางปฏิบัติหลายอย่าง เพราะในทีโออาร์ระบุว่าประมูลข้าวนึ่ง แต่ไม่บอกคุณภาพและเกรดข้าว ทำให้อาจจะเกิดปัญหาระหว่างผู้ส่งออกและโรงสีได้
