ASTVผู้จัดการรายวัน - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานถุงยังชีพ 5,000 ชุด ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจันทบุรี ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเมืองจันทบุรี บางส่วนเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำเริ่มลดลง ด้าน ปภ.เตือน 13 จังหวัดภาคเหนือ ระวังน้ำป่าไหลหลาก-ดินถล่ม ขณะที่อุตุฯเตือนซ้ำรับมือพายุเข้าอีก 5 ส.ค.นี้
วานนี้ (25 ก.ค.) ที่หอประชุมเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ อ.เมืองจันทบุรี รศ.ดร.พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ฯประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพประทาน และเป็นประธานในการมอบถุงยังชีพประทานให้กับพระภิกษุสงฆ์ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย
ทั้งนี้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันตกพัดผ่านประเทศไทยและหย่อมความกดอากาศกำลังแรงในทะเลจีนใต้ทำให้เกิดอากาศแปรปรวนในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ส่งผลให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุทกภัยพื้นที่ จ.จันทบุรี เป็นบริเวณกว้าง การนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวดี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงโปรดให้ รศ.ดร.พิชิต สุวรรณประกร เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ฯ ประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทานและเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยจำนวนรวมทั้งสิ้น 5,000 ถุง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดเริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เช่นเดียวกับที่ จ.จันทบุรี เริ่มคลี่คลายคลายเบาบางลง พื้นที่ประสบภัยบางส่วนระดับน้ำเริ่มลดลงจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลจันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี ภายหลังจากในพื้นที่มีฝนตกลงมาเล็กน้อย ประกอบกับพื้นที่ตอนเหนือไม่มีปริมาณน้ำสะสม ไม่มีปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน รวมทั้งทางจังหวัดได้สั่งการให้เจาะคลองบายพาสเพื่อเร่งช่วยระบายน้ำออกอีกทางหนึ่ง จึงทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนบริเวณวงเวียนตลาดน้ำพุ พื้นที่เศรษฐกิจใจกลางเมืองจันทบุรี ระดับน้ำลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ทางเทศบาลเมืองจันทบุรี นำรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกันเร่งฉีดน้ำทำความสะอาดล้างสิ่งปฏิกูล ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณหมู่บ้านจัดสรร พื้นที่ ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี ระดับน้ำลดลงเหลือเพียง 1 เมตรเศษ ประชาชนสามารถเดินลุยน้ำสัญจรเข้าออกได้บ้างแล้ว
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงวันที่ 25 - 26 ก.ค.56 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงต่อเนื่อง ประกอบกับร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัย 13 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ และ จ.น่าน จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที
ด้านนายประวิทย์ แจ่มปัญญา ผอ.ส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในวันที่ 25-27 ก.ค.56 จะมีปริมาณฝนลดลงยกเว้นภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งจะยังมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ขณะที่ จ.ตราด และจันทบุรี จะมีฝนตกน้อยลง แต่ขอให้เป็นบริเวณเฝ้าระวังไปจนหมดฤดูฝน เนื่องอาจเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นอีกได้
"จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา มีความเป็นไปได้ที่จะพบพายุโซนร้อนบริเวณอ่าวตังเกี๋ย และส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักมากในช่วงหลังวันที่ 5 ส.ค.แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% คงต้องรอหลังวันที่ 29 กรกฎาคม เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง"
วานนี้ (25 ก.ค.) ที่หอประชุมเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ อ.เมืองจันทบุรี รศ.ดร.พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ฯประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพประทาน และเป็นประธานในการมอบถุงยังชีพประทานให้กับพระภิกษุสงฆ์ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย
ทั้งนี้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันตกพัดผ่านประเทศไทยและหย่อมความกดอากาศกำลังแรงในทะเลจีนใต้ทำให้เกิดอากาศแปรปรวนในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ส่งผลให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุทกภัยพื้นที่ จ.จันทบุรี เป็นบริเวณกว้าง การนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวดี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงโปรดให้ รศ.ดร.พิชิต สุวรรณประกร เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ฯ ประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทานและเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยจำนวนรวมทั้งสิ้น 5,000 ถุง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดเริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เช่นเดียวกับที่ จ.จันทบุรี เริ่มคลี่คลายคลายเบาบางลง พื้นที่ประสบภัยบางส่วนระดับน้ำเริ่มลดลงจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลจันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี ภายหลังจากในพื้นที่มีฝนตกลงมาเล็กน้อย ประกอบกับพื้นที่ตอนเหนือไม่มีปริมาณน้ำสะสม ไม่มีปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน รวมทั้งทางจังหวัดได้สั่งการให้เจาะคลองบายพาสเพื่อเร่งช่วยระบายน้ำออกอีกทางหนึ่ง จึงทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนบริเวณวงเวียนตลาดน้ำพุ พื้นที่เศรษฐกิจใจกลางเมืองจันทบุรี ระดับน้ำลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ทางเทศบาลเมืองจันทบุรี นำรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกันเร่งฉีดน้ำทำความสะอาดล้างสิ่งปฏิกูล ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณหมู่บ้านจัดสรร พื้นที่ ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี ระดับน้ำลดลงเหลือเพียง 1 เมตรเศษ ประชาชนสามารถเดินลุยน้ำสัญจรเข้าออกได้บ้างแล้ว
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงวันที่ 25 - 26 ก.ค.56 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงต่อเนื่อง ประกอบกับร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัย 13 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ และ จ.น่าน จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที
ด้านนายประวิทย์ แจ่มปัญญา ผอ.ส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในวันที่ 25-27 ก.ค.56 จะมีปริมาณฝนลดลงยกเว้นภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งจะยังมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ขณะที่ จ.ตราด และจันทบุรี จะมีฝนตกน้อยลง แต่ขอให้เป็นบริเวณเฝ้าระวังไปจนหมดฤดูฝน เนื่องอาจเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นอีกได้
"จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา มีความเป็นไปได้ที่จะพบพายุโซนร้อนบริเวณอ่าวตังเกี๋ย และส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักมากในช่วงหลังวันที่ 5 ส.ค.แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% คงต้องรอหลังวันที่ 29 กรกฎาคม เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง"
