เหิมเกริมไม่หวั่นคมมีด ตามคิวที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ตัดสินใจเข็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของ "วรชัย เหมะ" ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นไปเสียบในปฏิทินการพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 7 สิงหาคม หลังจาก ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ยังติดขัดในรายละเอียดตามที่คณะกรรมาธิการฯ กล่าวอ้าง
ส่งผลให้อุณหภูมิการเมืองเดือนสิงหาคมนี้เดือดปุดๆ ขึ้นมาทันที ตามที่หลายฝ่ายกะเก็งกันเอาไว้ในกรณีหากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล้าวัดใจหยิบเผือกร้อนอย่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณา
ซึ่งในช่วงวัน ว. เวลา น. ที่ถือฤกษ์การพิจารณาอย่างวันที่ 7 สิงหาคม ดันบังเอิญหรือจงใจล้อวัน “เสียงปืนแตก”ที่ครั้งหนึ่งพรรคคอมมิวนิสต์ เคยถล่มยิงรัฐบาลไทยในขณะนั้น และยังเป็นวันที่มวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยถูกคนที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนทำร้ายอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่หน้ารัฐสภามาในอดีต
** เร้าอารมณ์การเมืองให้สู่จุดเดือดปรอทแตกได้ไม่ยาก !!
ยิ่งดูจังหวะฝ่ายต้านที่จ้องตาเขม็งงวดนี้ อย่างไรก็คงไม่ยอมให้องคาพยพเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ดันทุรังเสกกฎหมายล้างผิดออกมาง่ายๆ
แม้แกะเนื้อหาของ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับดังกล่าวมาดู จะมีการนิรโทษกรรมทุกคน ยกเว้นแกนนำ และผู้มีอำนาจสั่งการ จนทำให้ดูเหมือนรัฐบาลมีความจริงใจช่วยเหลือประชาชน
แต่การล้างผิดแบบเหมาเข่งเทครัวแบบนี้ เท่ากับปล่อยผู้ต้องหาในคดีร้ายแรงให้ออกมาเดินหน้าสลอนได้ โดยเฉพาะพวกคดีอุกฉกรรจ์ที่ไม่สมควรให้อภัย อาทิ ผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 112 พวกที่ยิงวัดพระแก้ว ตลอดจนเผาห้างสรรพสินค้า
**พวกนี้ลอยหน้าลอยหน้าออกมาแน่!!
และการที่อวดอ้างสวมบท "พ่อพระ" ว่าทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่แกนนำ ก็เป็นเพียงแค่ลมปากเหม็นหึ่ง เพราะต้องไม่ลืมว่า แม้กฎหมายจะมีการร่างกันมาเสร็จสรรพ แต่ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ และการพิจารณาในวาระ 2 สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้แบบฟรีสไตล์ ตามเสียงข้างมาก
แล้วใครจะรับประกันว่าจะไม่ใส่เนื้อหาที่เอื้อให้ “พ่อแม้ว”พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาในคดีทุจริตได้รับอานิสงส์ด้วย
ยิ่งพวกลิ่วล้อและจอมเชลียร์ในพรรคเพื่อไทยมีเยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว งานนี้ใครเสนอหน้าลุกขึ้นแปรญัตติ หรือเล่นแร่แปรธาตุ เปลี่ยนเนื้อหาในชั้นกรรมาธิการให้ “นายใหญ่”เห็น คงปลื้มรีบตกรางวัล เชื่อขนมกินได้
ดังนั้น หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านวาระ 1 ไปได้ ต้องจับตาอย่ากระพริบ อย่าเชื่อคำโจรเป็นอันขาด !!
เพราะคนอย่าง “ทักษิณ” ถึงอย่างไรตัวเองก็ต้องมาก่อน การจะปล่อยตัวประกันออกจากคุกโดยที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์นั้น ไม่มีทาง
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ หากปล่อยมวลชนออกไป วันข้างหน้า“ทักษิณ”จะใช้อะไรมาอ้างในการออกกฎหมายล้างผิดให้ตัวเอง ในเมื่อตัวประกันอย่างมวลชนคนเสื้อแดงได้รับอิสรภาพออกไปหมดแล้ว
คิวนี้หมากเลยมีสองหน้า คือ ไม่ไปเปลี่ยนเนื้อหาในช่องที่เปิดให้ ก็เป็นแค่การหลอกต้มรักษาอารมณ์มิตรรักแฟนคลับ ที่ระยะหลังชักระอา แล้วปล่อยกฎหมายคาสภา ในวาระ 2 และ 3 จากนั้นเข้าสูตรเดิม อ้างว่าโดนขวางอีกรอบ
**มุกเก่าๆ ใช้มาแล้วไม่รู้กี่หน คนเสื้อแดงก็เชื่อง่ายๆ !!
อย่างไรก็ตาม การผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคเพื่อไทยหนนี้ ดูเหมือนจะมีกำไรติดมานิดๆ จากฝ่ายต้านขาประจำอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่งวดนี้ดูเหมือนจะ "เพลี่ยงพล้ำ" แบบง่ายๆ
โดยเฉพาะกรณีที่ “เดอะมาร์ค”นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกแอ็กชั่นเร็วไปหน่อย รีบยกมือหนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาน.ส.กมนเกด หรือ น้องเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553
ตามเจตนาในใจหวังจะคว้านไส้คว้านพุงพรรคเพื่อไทย และ “นายใหญ่”ออกมาให้เสื้อแดงเห็นว่า แท้จริงแล้วทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อมวลชน
เพราะขนาดร่างประชาชนแท้ๆ ยังไม่สนับสนุน แต่ “เดอะมาร์ค”ก็พลาดเข็มขัดสั้นไปนิดว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ “แม่น้องเกด”มีการนิรโทษกรรมให้กับผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 ผู้ต้องหาในคดีวางเพลิงสถานที่ราชการ และไม่ได้นิรโทษกรรมคลอบคลุมประชาชนกลุ่มสีอื่นๆ
จนทำให้ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เห็นเข้าถึงกับสะดุ้ง จนต้องออกมาสะกิดถามจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตกลงยืนยันหนุนร่างฉบับดังกล่าวจริงหรือไม่ ?
ท้ายที่สุด “เดอะมาร์ค”และองคาพยพ เลยแถสีข้าง รีบออกมาแก้ลำกันใหม่ให้ดูสละสลวย โดยขอให้ถอนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับก่อนๆ ออกมาให้หมด แล้วมาคุยกันว่า จะนิรโทษกรรมใครบ้างในรายละเอียด ปรับปรุงจุดที่ยังคลางแคลงใจ หากทำครอบคลุมแล้ว ถึงจะมาเสนอร่วมกัน
เอาเป็นว่าช็อตนี้ปิดท้าย พรรคเพื่อไทยเห็นเข้าก็หัวเราะชอบใจ เพราะเข้าตีนเต็มๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยเองก็ท้าเหยงๆ อยู่แล้วให้พรรคประชาธิปัตย์ เสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมมาประกบ ดีกว่ามาค้านเย้วๆ
**มาคราวนี้ได้จังหวะ พรรคประชาธิปัตย์ หลงเกมเดินเข้าสู่กับดักที่พรรคเพื่อไทยรอมานานแสนนาน งานนี้เลยก็เข้าทางโจร !!
เพราะหลังจากนี้พรรคเพื่อไทย จะอ้างได้ว่า เวลานี้ทุกพรรคการเมืองเห็นชอบว่า ควรจะต้องมีแล้ว แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ที่ค้านมานาน ก็ยังเอาด้วย
แล้วก็ตามเนื้อผ้าหากมีการเสนอกฎหมายประกบ เวลาพิจารณาในสภา แรงเสียดทานภายนอกจะเบาลงทันที การที่พรรคประชาธิปัตย์ จะออกมาด่ามาเขวี้ยงแฟ้มบินแทบไม่มีความหมาย
**เพราะตัวเองก็เอากับเขาด้วย !!
แน่นอนว่า หากถึงเวลานั้น แม้จะมีร่างของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดีแสนดีแค่ไหน แต่จำนวนเสียงในสภาเมื่อเทียบกับร่างของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็แพ้ยับเยิน
แล้วความชอบธรรมในการออกกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จะมีเยอะเสียด้วย !!
อย่างไรก็ดี การพลั้งพลาดของ “เดอะมาร์ค”หนนี้ นอกจากการขาดความรอบคอบในการสอดส่องรายละเอียดกฎหมายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดแบบไม่น่าให้อภัยก็คือ การมองข้ามเบื้องหลังกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับ “แม่น้องเกด”ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นคนร่าง นี่คือสิ่งที่ต้องควานหาตัว เพราะมันจะบ่งบอกได้ว่า แท้จริงแล้วจุดประสงค์ในครั้งนี้คือ ต้องการช่วยเหลือประชาชนจริงๆ หรือเป็นเพียงเกม ลับ ลวง พราง จากฝั่งตรงข้ามที่ส่งตัวละครมา หลอกล่อ
**การผลีผลามหนนี้เพียงเพราะในหัวมีแต่คิดจะเสี้ยมศัตรูให้แตกคอ จึงเกือบซวยกันทั้งพรรค !!
**จากนี้เลยต้องจับตาค่ายสีฟ้าจะปรับกระบวนท่าอย่างไร.
ส่งผลให้อุณหภูมิการเมืองเดือนสิงหาคมนี้เดือดปุดๆ ขึ้นมาทันที ตามที่หลายฝ่ายกะเก็งกันเอาไว้ในกรณีหากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล้าวัดใจหยิบเผือกร้อนอย่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณา
ซึ่งในช่วงวัน ว. เวลา น. ที่ถือฤกษ์การพิจารณาอย่างวันที่ 7 สิงหาคม ดันบังเอิญหรือจงใจล้อวัน “เสียงปืนแตก”ที่ครั้งหนึ่งพรรคคอมมิวนิสต์ เคยถล่มยิงรัฐบาลไทยในขณะนั้น และยังเป็นวันที่มวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยถูกคนที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนทำร้ายอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่หน้ารัฐสภามาในอดีต
** เร้าอารมณ์การเมืองให้สู่จุดเดือดปรอทแตกได้ไม่ยาก !!
ยิ่งดูจังหวะฝ่ายต้านที่จ้องตาเขม็งงวดนี้ อย่างไรก็คงไม่ยอมให้องคาพยพเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ดันทุรังเสกกฎหมายล้างผิดออกมาง่ายๆ
แม้แกะเนื้อหาของ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับดังกล่าวมาดู จะมีการนิรโทษกรรมทุกคน ยกเว้นแกนนำ และผู้มีอำนาจสั่งการ จนทำให้ดูเหมือนรัฐบาลมีความจริงใจช่วยเหลือประชาชน
แต่การล้างผิดแบบเหมาเข่งเทครัวแบบนี้ เท่ากับปล่อยผู้ต้องหาในคดีร้ายแรงให้ออกมาเดินหน้าสลอนได้ โดยเฉพาะพวกคดีอุกฉกรรจ์ที่ไม่สมควรให้อภัย อาทิ ผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 112 พวกที่ยิงวัดพระแก้ว ตลอดจนเผาห้างสรรพสินค้า
**พวกนี้ลอยหน้าลอยหน้าออกมาแน่!!
และการที่อวดอ้างสวมบท "พ่อพระ" ว่าทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่แกนนำ ก็เป็นเพียงแค่ลมปากเหม็นหึ่ง เพราะต้องไม่ลืมว่า แม้กฎหมายจะมีการร่างกันมาเสร็จสรรพ แต่ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ และการพิจารณาในวาระ 2 สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้แบบฟรีสไตล์ ตามเสียงข้างมาก
แล้วใครจะรับประกันว่าจะไม่ใส่เนื้อหาที่เอื้อให้ “พ่อแม้ว”พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาในคดีทุจริตได้รับอานิสงส์ด้วย
ยิ่งพวกลิ่วล้อและจอมเชลียร์ในพรรคเพื่อไทยมีเยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว งานนี้ใครเสนอหน้าลุกขึ้นแปรญัตติ หรือเล่นแร่แปรธาตุ เปลี่ยนเนื้อหาในชั้นกรรมาธิการให้ “นายใหญ่”เห็น คงปลื้มรีบตกรางวัล เชื่อขนมกินได้
ดังนั้น หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านวาระ 1 ไปได้ ต้องจับตาอย่ากระพริบ อย่าเชื่อคำโจรเป็นอันขาด !!
เพราะคนอย่าง “ทักษิณ” ถึงอย่างไรตัวเองก็ต้องมาก่อน การจะปล่อยตัวประกันออกจากคุกโดยที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์นั้น ไม่มีทาง
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ หากปล่อยมวลชนออกไป วันข้างหน้า“ทักษิณ”จะใช้อะไรมาอ้างในการออกกฎหมายล้างผิดให้ตัวเอง ในเมื่อตัวประกันอย่างมวลชนคนเสื้อแดงได้รับอิสรภาพออกไปหมดแล้ว
คิวนี้หมากเลยมีสองหน้า คือ ไม่ไปเปลี่ยนเนื้อหาในช่องที่เปิดให้ ก็เป็นแค่การหลอกต้มรักษาอารมณ์มิตรรักแฟนคลับ ที่ระยะหลังชักระอา แล้วปล่อยกฎหมายคาสภา ในวาระ 2 และ 3 จากนั้นเข้าสูตรเดิม อ้างว่าโดนขวางอีกรอบ
**มุกเก่าๆ ใช้มาแล้วไม่รู้กี่หน คนเสื้อแดงก็เชื่อง่ายๆ !!
อย่างไรก็ตาม การผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคเพื่อไทยหนนี้ ดูเหมือนจะมีกำไรติดมานิดๆ จากฝ่ายต้านขาประจำอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่งวดนี้ดูเหมือนจะ "เพลี่ยงพล้ำ" แบบง่ายๆ
โดยเฉพาะกรณีที่ “เดอะมาร์ค”นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกแอ็กชั่นเร็วไปหน่อย รีบยกมือหนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาน.ส.กมนเกด หรือ น้องเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553
ตามเจตนาในใจหวังจะคว้านไส้คว้านพุงพรรคเพื่อไทย และ “นายใหญ่”ออกมาให้เสื้อแดงเห็นว่า แท้จริงแล้วทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อมวลชน
เพราะขนาดร่างประชาชนแท้ๆ ยังไม่สนับสนุน แต่ “เดอะมาร์ค”ก็พลาดเข็มขัดสั้นไปนิดว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ “แม่น้องเกด”มีการนิรโทษกรรมให้กับผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 ผู้ต้องหาในคดีวางเพลิงสถานที่ราชการ และไม่ได้นิรโทษกรรมคลอบคลุมประชาชนกลุ่มสีอื่นๆ
จนทำให้ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เห็นเข้าถึงกับสะดุ้ง จนต้องออกมาสะกิดถามจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตกลงยืนยันหนุนร่างฉบับดังกล่าวจริงหรือไม่ ?
ท้ายที่สุด “เดอะมาร์ค”และองคาพยพ เลยแถสีข้าง รีบออกมาแก้ลำกันใหม่ให้ดูสละสลวย โดยขอให้ถอนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับก่อนๆ ออกมาให้หมด แล้วมาคุยกันว่า จะนิรโทษกรรมใครบ้างในรายละเอียด ปรับปรุงจุดที่ยังคลางแคลงใจ หากทำครอบคลุมแล้ว ถึงจะมาเสนอร่วมกัน
เอาเป็นว่าช็อตนี้ปิดท้าย พรรคเพื่อไทยเห็นเข้าก็หัวเราะชอบใจ เพราะเข้าตีนเต็มๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยเองก็ท้าเหยงๆ อยู่แล้วให้พรรคประชาธิปัตย์ เสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมมาประกบ ดีกว่ามาค้านเย้วๆ
**มาคราวนี้ได้จังหวะ พรรคประชาธิปัตย์ หลงเกมเดินเข้าสู่กับดักที่พรรคเพื่อไทยรอมานานแสนนาน งานนี้เลยก็เข้าทางโจร !!
เพราะหลังจากนี้พรรคเพื่อไทย จะอ้างได้ว่า เวลานี้ทุกพรรคการเมืองเห็นชอบว่า ควรจะต้องมีแล้ว แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ที่ค้านมานาน ก็ยังเอาด้วย
แล้วก็ตามเนื้อผ้าหากมีการเสนอกฎหมายประกบ เวลาพิจารณาในสภา แรงเสียดทานภายนอกจะเบาลงทันที การที่พรรคประชาธิปัตย์ จะออกมาด่ามาเขวี้ยงแฟ้มบินแทบไม่มีความหมาย
**เพราะตัวเองก็เอากับเขาด้วย !!
แน่นอนว่า หากถึงเวลานั้น แม้จะมีร่างของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดีแสนดีแค่ไหน แต่จำนวนเสียงในสภาเมื่อเทียบกับร่างของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็แพ้ยับเยิน
แล้วความชอบธรรมในการออกกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จะมีเยอะเสียด้วย !!
อย่างไรก็ดี การพลั้งพลาดของ “เดอะมาร์ค”หนนี้ นอกจากการขาดความรอบคอบในการสอดส่องรายละเอียดกฎหมายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดแบบไม่น่าให้อภัยก็คือ การมองข้ามเบื้องหลังกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับ “แม่น้องเกด”ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นคนร่าง นี่คือสิ่งที่ต้องควานหาตัว เพราะมันจะบ่งบอกได้ว่า แท้จริงแล้วจุดประสงค์ในครั้งนี้คือ ต้องการช่วยเหลือประชาชนจริงๆ หรือเป็นเพียงเกม ลับ ลวง พราง จากฝั่งตรงข้ามที่ส่งตัวละครมา หลอกล่อ
**การผลีผลามหนนี้เพียงเพราะในหัวมีแต่คิดจะเสี้ยมศัตรูให้แตกคอ จึงเกือบซวยกันทั้งพรรค !!
**จากนี้เลยต้องจับตาค่ายสีฟ้าจะปรับกระบวนท่าอย่างไร.
