00 อย่างที่จั่วหัวเอาไว้ว่านับจากนี้ไป ถ้าเปรียบเหมือนทางเดินก็ต้องบอกว่า "ทางเริ่มแคบ" เริ่มเบียดเสียดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ได้เห็นตัวตนของแต่ละคนที่อยู่ใกล้ๆกันได้ชัดเจนมากขึ้น ถ้าเปรียบให้เห็นภาพก็น่าจะเห็นได้จากการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ปรองดองนี่แหละ ที่เวลานี้บรรดาญาติของคนเสื้อแดงที่สูญเสียจากการชุมนุมคงจะได้เห็น "สันดาน" ธาตุแท้จากคนที่ตัวเองเคยไว้วางใจ เคยเชื่อถือจนออกมาเสียสละต่อสู้แบบไม่ลังเล
00 ถ้าฟังคำพูดและอาการของ นางพะเยาว์ อัคฮาด ที่เป็นตัวแทนของบรรดาญาติของคนเสื้อแดงผู้สูญเสีย ก็คงจะเริ่ม "ตาสว่าง" มากขึ้นแล้วว่า แท้ที่จริงตัวเองถูกต้มและถูกจับเป็นตัวประกันมาตลอด ในตอนแรกคงจะไม่รู้ความจริง หากไม่มีการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับประชาชน เข้ามาประกบเข้าไปอีกร่างหนึ่ง มีเนื้อหาชัดเจนว่าต้องการนิรโทษฯให้เฉพาะมวลชนจริงๆ ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบและเกิดความจริงปรากฏให้เห็นเจตนาของพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงว่า ทำไมถึงได้สนับสนุนร่างนิรโทษฯ ฉบับที่เสนอโดย วรชัย เหมะ กับพวก เพราะนอกจากมี "เจตนาซ่อนเร้นหลายชั้น" นั่นคือ อำพรางเอาไว้สำหรับรอแปรญัตติเปลี่ยนถ้อยคำให้ครอบคลุมให้กว้างไกลในวันหน้าในวาระที่ 2 และ 3 และต้องไม่ลืมว่าการพิจารณาในวันที่ 7 ส.ค.ที่กำหนดเอาไว้นั้น เป็นการพิจารณาในวาระแรกเท่านั้น ซึ่งในเบื้องต้นเหมือนกับว่าเป็นการ "มัดจำ" มวลชนเอาไว้ก่อนเท่านั้น เส้นทางข้างหน้าอีกยาวไกล เพราะนอกจากผ่านสภาผู้แทนฯแล้ว ยังต้องผ่านวุฒิสภาอีก ไม่หมู และถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าเนื้อหาจะผิดเพี้ยนแค่ไหน หรืออาจมีการ "ยำรวม" ทุกร่างเป็นร่างเดียวก็เป็นไปได้สูง
00 สำหรับกลุ่มญาติคนเสื้อแดง อย่างน้อยก็ในกลุ่มของ นางพะเยาว์ คงจะได้รับรู้ความจริง เป็นการยืนยันให้เห็นธาตุแท้กันได้ชัดเจนก็คราวนี้แหละ และที่น่าจับตาก็คือ มีการด่าทอจากฝ่ายหัวโจกชนิดเรียงหน้าเข้ามาถล่มกันอย่างเสียหาย เล่นกันแรงทีเดียว แต่ก็อย่างว่าแหละฝ่ายพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร คงจะประเมินแล้วคนพวกนี้มีแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น บวกลบคูณหารแล้วคงไม่สะเทือน รักษาพวกหัวโจกมีชื่ออย่างพวก จตุพร พรหมพันธุ์ พวกนี้เอาไว้ก่อนดีกว่า แต่สำหรับแดงอีกกลุ่มที่เป็นพวกญาติที่สูญเสียก็น่าจะได้เห็นสันดานธาตุแท้ก็คราวนี้แหละ !!
00 การเสนอร่างกฎหมายเที่ยวนี้ยังทำท่าป่วนไปถึงพรรคประชาธิปัตย์อีกด้วย จากเดิมในตอนแรกที่ด่วนหนุนร่างของ กลุ่มนางพะเยาว์ อัคฮาด หลายคนมองว่านี่คือแผน "หวังผลทางการเมือง" ฉวยโอกาสแทรกเข้าไประหว่างกลางของคนเสื้อแดง กับพรรคเพื่อไทย หรืออย่างน้อยก็แยกแดงออกมาได้สักส่วนหนึ่งก็ยังดี แต่ถึงอย่างไรประชาธิปัตย์ก็ย่อมเป็นประชาธิปัตย์วันยังค่ำ ยังคงมี "ลีลา" น่าเวียนหัว และในที่สุดก็ทำท่าฟัดกันเองจนได้ เท่าที่เห็นสัญญาณเวลานี้ก็มีการออกมาถล่ม อลงกรณ์ พลบุตร ที่พยายามแหวกออกมาเสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ที่มีเนื้อหาและหลักการ ต้องการนิรโทษฯให้กับชาวบ้าน ซึ่งก็น่าจะคล้ายกับฉบับญาติคนเสื้อแดง เพียงแต่ระบุให้ชัดเจนว่า ไม่คลุมถึงพวก"ล้มเจ้า" พวกทำผิดคดีอาญาร้ายแรง อ้างว่าเห็นเหมือนกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่พอจะเดินหน้าก็ไปไม่ได้ อ้างว่าขัดกับมติและหลักการของพรรคเสียอีก เวร !!
00 อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นก็คือ งานนี้ได้เห็นอาการของคนหลายคนออกมาพร้อมๆกัน เพราะหากไปพิจารณาจากกำหนดการของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 7-8 ส.ค. ปรากฏว่าเธอต้องมีอันต้องไปราชการที่หัวหินพอดี แต่ความหมายก็คือ "ชิ่ง" กลัวว่าจะมีผลทางกฎหมายในเรื่อง"ผลประโยชน์ทับซ้อน" หากในวันหน้าเนื้อหาในร่างนิรโทษฯ ฉบับวรชัย เหมะ ถูกยำรวมมีเนื้อหาครอบคลุมไปช่วย ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย จึงต้องหาทางเลี่ยง"ไม่ร่วมโหวต" ใช่หรือเปล่า !!
00 ถ้าฟังคำพูดและอาการของ นางพะเยาว์ อัคฮาด ที่เป็นตัวแทนของบรรดาญาติของคนเสื้อแดงผู้สูญเสีย ก็คงจะเริ่ม "ตาสว่าง" มากขึ้นแล้วว่า แท้ที่จริงตัวเองถูกต้มและถูกจับเป็นตัวประกันมาตลอด ในตอนแรกคงจะไม่รู้ความจริง หากไม่มีการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับประชาชน เข้ามาประกบเข้าไปอีกร่างหนึ่ง มีเนื้อหาชัดเจนว่าต้องการนิรโทษฯให้เฉพาะมวลชนจริงๆ ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบและเกิดความจริงปรากฏให้เห็นเจตนาของพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงว่า ทำไมถึงได้สนับสนุนร่างนิรโทษฯ ฉบับที่เสนอโดย วรชัย เหมะ กับพวก เพราะนอกจากมี "เจตนาซ่อนเร้นหลายชั้น" นั่นคือ อำพรางเอาไว้สำหรับรอแปรญัตติเปลี่ยนถ้อยคำให้ครอบคลุมให้กว้างไกลในวันหน้าในวาระที่ 2 และ 3 และต้องไม่ลืมว่าการพิจารณาในวันที่ 7 ส.ค.ที่กำหนดเอาไว้นั้น เป็นการพิจารณาในวาระแรกเท่านั้น ซึ่งในเบื้องต้นเหมือนกับว่าเป็นการ "มัดจำ" มวลชนเอาไว้ก่อนเท่านั้น เส้นทางข้างหน้าอีกยาวไกล เพราะนอกจากผ่านสภาผู้แทนฯแล้ว ยังต้องผ่านวุฒิสภาอีก ไม่หมู และถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าเนื้อหาจะผิดเพี้ยนแค่ไหน หรืออาจมีการ "ยำรวม" ทุกร่างเป็นร่างเดียวก็เป็นไปได้สูง
00 สำหรับกลุ่มญาติคนเสื้อแดง อย่างน้อยก็ในกลุ่มของ นางพะเยาว์ คงจะได้รับรู้ความจริง เป็นการยืนยันให้เห็นธาตุแท้กันได้ชัดเจนก็คราวนี้แหละ และที่น่าจับตาก็คือ มีการด่าทอจากฝ่ายหัวโจกชนิดเรียงหน้าเข้ามาถล่มกันอย่างเสียหาย เล่นกันแรงทีเดียว แต่ก็อย่างว่าแหละฝ่ายพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร คงจะประเมินแล้วคนพวกนี้มีแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น บวกลบคูณหารแล้วคงไม่สะเทือน รักษาพวกหัวโจกมีชื่ออย่างพวก จตุพร พรหมพันธุ์ พวกนี้เอาไว้ก่อนดีกว่า แต่สำหรับแดงอีกกลุ่มที่เป็นพวกญาติที่สูญเสียก็น่าจะได้เห็นสันดานธาตุแท้ก็คราวนี้แหละ !!
00 การเสนอร่างกฎหมายเที่ยวนี้ยังทำท่าป่วนไปถึงพรรคประชาธิปัตย์อีกด้วย จากเดิมในตอนแรกที่ด่วนหนุนร่างของ กลุ่มนางพะเยาว์ อัคฮาด หลายคนมองว่านี่คือแผน "หวังผลทางการเมือง" ฉวยโอกาสแทรกเข้าไประหว่างกลางของคนเสื้อแดง กับพรรคเพื่อไทย หรืออย่างน้อยก็แยกแดงออกมาได้สักส่วนหนึ่งก็ยังดี แต่ถึงอย่างไรประชาธิปัตย์ก็ย่อมเป็นประชาธิปัตย์วันยังค่ำ ยังคงมี "ลีลา" น่าเวียนหัว และในที่สุดก็ทำท่าฟัดกันเองจนได้ เท่าที่เห็นสัญญาณเวลานี้ก็มีการออกมาถล่ม อลงกรณ์ พลบุตร ที่พยายามแหวกออกมาเสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ที่มีเนื้อหาและหลักการ ต้องการนิรโทษฯให้กับชาวบ้าน ซึ่งก็น่าจะคล้ายกับฉบับญาติคนเสื้อแดง เพียงแต่ระบุให้ชัดเจนว่า ไม่คลุมถึงพวก"ล้มเจ้า" พวกทำผิดคดีอาญาร้ายแรง อ้างว่าเห็นเหมือนกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่พอจะเดินหน้าก็ไปไม่ได้ อ้างว่าขัดกับมติและหลักการของพรรคเสียอีก เวร !!
00 อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นก็คือ งานนี้ได้เห็นอาการของคนหลายคนออกมาพร้อมๆกัน เพราะหากไปพิจารณาจากกำหนดการของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 7-8 ส.ค. ปรากฏว่าเธอต้องมีอันต้องไปราชการที่หัวหินพอดี แต่ความหมายก็คือ "ชิ่ง" กลัวว่าจะมีผลทางกฎหมายในเรื่อง"ผลประโยชน์ทับซ้อน" หากในวันหน้าเนื้อหาในร่างนิรโทษฯ ฉบับวรชัย เหมะ ถูกยำรวมมีเนื้อหาครอบคลุมไปช่วย ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย จึงต้องหาทางเลี่ยง"ไม่ร่วมโหวต" ใช่หรือเปล่า !!