xs
xsm
sm
md
lg

ใต้ป่วนไม่เลิก ยิงชาวบ้าน นักข่าวสาหัส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "ยิ่งลักษณ์"เรียกฝ่ายความมั่นคง เข้ารายงานสถานการณ์ใต้ ผลการเจรจาบีอาร์เอ็น "ประชา-เลขาสมช." ระบุตรงกัน โดยรวมดีขึ้น "จารุพงศ์" ยันทำหนังสือประท้วงบีอาร์เอ็น ที่ผนวกพื้นที่ อ.สะเดา เข้าไปอยู่ในกรอบเจรจาแล้ว ด้าน "มาร์ค" เตือนบีอาร์เอ็นเหิมเกริม คิดผนวกพื้นที่ จ.สตูล เข้าในแผนหยุดยิง สำนักข่าวอิศรา ระบุสะเดาเป็นด่านชายแดนมูลค่าค้าขายกว่า 5 แสนล้าน ป่วนไม่เลิก! ยิงชาวบ้านดับ 2 ราย แถมคนร้ายไล่ยิงนักข่าวสาหัส จนท.เชื่อเหตุเสนอข่าว

เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (16ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงคณะเล็ก โดยมีพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมหารือ จากนั้นเวลา 09.30 น. ทั้งหมดได้เข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อรายงานสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ประชา กล่าวรายงานสถานการณ์ว่า ช่วงเดือนรอมฎอนรอบ 6 วันที่ผ่านมา หากเทียบกับสถิติตั้งแต่ปี 52 เป็นต้นมา เกิดคดีน้อยมาก มีเพียงครั้งเดียว การสูญเสียก็ไม่มี บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 2 คน

เมื่อถามว่าฝ่ายที่พูดคุยกับเรา มีความจริงใจแค่ไหน พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็น่าจะมีความจริงใจในระดับหนึ่ง ส่วนเงื่อนไขนั้น ก็ต้องดูว่า เงื่อนไขอะไรที่เราทำได้ ทำไม่ได้ อย่างถ้าจะให้เราถอนกำลังออกโดยสิ้นเชิงนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องดูแลความปลอดภัยประชาชน แต่อาจจะลดบทบาทในด้านยุทธวิธีมาเป็นด้านพัฒนา อันนี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่เขาไม่ก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอน เพราะเป้าหมายของเราอยู่ที่ความอยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นการใช้กำลังเราก็ต้องมียุทธศาสตร์ในเชิงนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแถลงของผู้อำนวยความสะดวก ระบุพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เพิ่มเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่จะลดความรุนแรง ทั้งที่ไม่เคยถูกระบุมาก่อนนั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า จะเพิ่มพื้นที่ อ.สะเดา หรือที่ไหนไปไม่ได้ ข้อเท็จจริงมันหนีความจริงไม่พ้น ซึ่งก็คงต้องคุยกันก่อนว่าเขามีเหตุผลอย่างไร

**ความรุนแรงลดแสดงว่าคุยBRNได้ผล

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.) กล่าวว่า หากเหตุการณ์ความรุนแรงในปีนี้ลดลง แสดงว่า กระบวนการพูดคุยสันติภาพประสบความสำเร็จ และเป็นนโยบายยุทธศาสตร์หลักที่ต้องดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่า จะทำหนังสือประท้วงแถลงการณ์ของกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ระบุ อ.สะเดา จ.สงขลา เข้าไปเป็นพื้นที่เสี่ยงด้วยหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า นัยของบีอาร์เอ็น ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยง แต่ในข้อเท็จจริงทางฝ่ายขบวนการมองว่า พื้นที่ดังกล่าวมีพี่น้องชาวไทยข้ามไปอยู่ฝั่งมาเลเซียเป็นจำนวนมาก แล้วจะมีการเดินทางกลับมาในช่วงปลายเดือนรอมฎอน เป็นจำนวนแสนๆคน โดยผ่านจุดนี้ เขาจึงมีความกังวล โดยให้เราดูแลความปลอดภัยและการอำนวยสะดวกต่างๆให้ เฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น นัยมีแค่นี้ ไม่ใช่พื้นที่อันตรายอะไร

**ยันไม่ให้พื้นที่ อ.สะเดาอยู่ในกรอบเจรจา

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการรวมพื้นที่ อ.สะเดา เข้าไปด้วยว่า ได้รับรายงานจากผวจ.สงขลา ตั้งแต่วันแรกที่มีการประกาศแล้ว และได้มีการประสานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. รวมทั้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งจังหวัดสงขลาและประชนในพื้นที่ ต่างไม่เห็นด้วยกับการที่จะนำพื้นที่ อ.สะเดาไปรวม และไม่มีเหตุการณ์ที่จะนำชื่อดังกล่าวมารวมอยู่ในกรอบการเจรจา โดยได้ทำหนังสือประท้วงไปยังบีอาร์เอ็นแล้ว

** ติงอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเจรจาได้ผล

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ควรเร่งสรุปกรณีมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน ว่า เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ควรประเมินว่า เป็นผลจากการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่รับปากว่าจะยุติความรุนแรง เพราะการที่จะทำอะไรนำร่อง หรือทดสอบต้องมีวิธีการ และหลักเกณฑ์ประเมินร่วมกัน

** หวั่น BRNผนวกพื้นที่ลามถึงสตูล

นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี และเลขาฯ สมช. ออกมาแสดงจุดยืน ปฏิเสธบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับบีอาร์เอ็น ที่มีการผนวกเอา อ.สะเดา ของ จ.สงขลา รวมเข้าไปในพื้นที่ที่ก่อความไม่สงบด้วย เนื่องจากจะส่งผลผูกพันถึงการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดน หรือเขตปกครองพิเศษ ที่เป็นจุดหมายของบางฝ่าย

การที่ฝ่ายมาเลเซียทำหน้าที่แทนบีอาร์เอ็นในเรื่องนี้ เป็นการผนวกพื้นที่ให้กับเขตปกครองพิเศษ โดยเอาพื้นที่ราชอาณาจักรไทย ไปรวมด้วย ซึ่งข้อกังวลของตนคือ มีการใช้คำว่า หยุดยั้งการปฏิบัติการก้าวร้าวรุกรานทั้งหมดกับฝ่ายไทย ส่วนฝ่ายบีอาร์เอ็น ระบุว่าให้ใช้ดุลพินิจไม่ก่อความรุนแรง เท่ากับกล่าวหาว่า ไทยเป็นผู้ที่ก่อความรุนแรง สอดรับกับสิ่งที่มีการแถลงกล่าวหาไทย ผ่านยูทูปว่า ไทยเป็นนักล่าอาณานิคมชาวสยาม และการใช้ตัวสะกดในพื้นที่ 3 อำเภอแตกต่างจากภาษาอังกฤษ ที่ไทยใช้ คือ จะนะ ใช้คำว่า เชนะ เทพา ใช้คำว่า ติบา และ สะบ้าย้อย ใช้คำว่า เซบาย่า เป็นสิ่งที่พวกตนไม่สบายใจ เพราะเมื่อมองในเชิงลึก ยังมีความพยายามผนวกจังหวัดสตูลในการแบ่งแยกดินแดน หรือกำหนดเป็นเขตปกครองพิเศษด้วย

**ขุมทรัพย์"สะเดา"ค้าขายปีละ 5 แสนล.

ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา ได้เปิดเผยรายงานถึงสาเหตุที่คำแถลงความตกลงยุติเหตุรุนแรงช่วงรอมฎอน 40 วัน ที่ชายแดนใต้ระหว่างรัฐบาลไทย กับบีอาร์เอ็น มีการบรรจุ อ.สะเดา จ.สงขลา เข้ามาด้วย จากการรวบรวมข้อมูลการขนส่งสินค้าผ่านด่านศุลกากรสะเดามีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล สูงที่สุดของด่านชายแดนทุกด่าน ยกเว้นที่กรุงเทพมหานคร เท่านั้น ชนิดสินค้าที่นำเข้าจำนวนมาก จากมาเลเซีย ผ่านด่านแห่งนี้ ก็เช่น ฮาร์ดิสก์ เมมโมรีการ์ด ซีพียู ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ วงจรอิเลกทรอนิกส์ ยางสังเคราะห์ เครื่องสูบลม เป็นต้น

ข้อมูลจากสำนักงานจังหวัดสงขลา ระบุว่า ด่านปาดังเบซาร์ มีมูลค่าสินค้าส่งออกและนำเข้าราว 2 แสนล้านบาทต่อปี เมื่อรวมกับด่านสะเดา หรือที่เรียกว่า "ด่านนอก" จะมีมูลค่ารวมปีละกว่า 5 แสนล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากด่านศุลกากรท่าเรือกรุงเทพฯ เท่านั้น

**ป่วนยิงชาวบ้าน-แขวนป้ายล่อจนท.

สำหรับสถานการณ์ทางภาคใต้ ยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นช่วงเดือนรอมฎอน โดยได้พบศพนายอับดุลรอฮิม งอเล็ง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 5 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ถูกยิงเข้าที่ลำตัวรวม 4 นัด พบศพอยู่ด้านหลังโรงเรียนสาลาลุสดินวิทยา หมู่ 11 ต.สะเตงนอก อีกรายเป็นาย นายมะยาหะรี อาลี ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านบันนังกูแว อ.บันนังสตา อาชีพกรีดยาง ถูกยิงเข้าที่ลำตัวหลายนัด และเสียชีวิตที่รพ.บันนังสตา

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน กลุ่มก่อความไม่สงบ ได้น้ำป้ายผ้าสีขาว เขียนข้อความภาษาไทยด้วยสีแดง ใจความว่า "ทหารออกไป สนับสนุน BRN" 2 จุด ที่ริมถนนในหมู่บ้านลาเวง หมู่ 3 ต.เชิงคีรี จึงไปตรวจสอบและส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษ

***ไล่ยิงนักข่าวสาหัส-จนท.เชื่อเหตุเสนอข่าว

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พ.ต.อ.ยุคล ประสาทนานนท์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสาย 418 ปัตตานี-ยะลา บริเวณ ม.7 บ้านโอง ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้นายปราเมศร์ วงษ์บุตรรอด อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 8 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นนักข่าวอาชญากรรมฉบับหนึ่ง ถูกยิงเข้าที่บริเวณแก้ม บริเวณหน้าท้อง และไล่ขวา เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลอำเภอแม่ลาน

ส่วนประเด็นสาเหตุเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนและสอบสวนว่าจะเกี่ยวกับเหตุความไม่สงบหรือไม่อย่างไรเนื่องจากผู้เสียหายเป็นผู้ที่รู้จักในวงการบ่อนในพื้นที่ ว่ามีการเปิดบ่อนที่ไหนบ้าง อาจเป็นปมเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ และผู้เสียหายยังเป็นนักข่าวท้องถิ่นเกี่ยวกับข่าวอาชญากรรมทั่วไป
กำลังโหลดความคิดเห็น