วานนี้(8 ก.ค.56) สำนักข่าวอิศรา" www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2556 นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ส่งหนังสือ ที่ พศ 0005/00346 เรื่องยกเลิกและถอนชื่อวัดดอนสวรรค์ ออกจากทะเบียนที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างฯ มายังผู้ว่าราชการ จ.สกลนคร มีข้อความว่า
“ตามหนังสือที่อ้างถึง พศ.ว่าจะพิจารณาทบทวนมติที่ประชุมคณะทำงานเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างในส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 8/2547 วันที่ 8-11 พ.ย.2547 และจะขอให้เจ้าหน้าที่เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีที่ดินวัดดอนสวรรค์ จ.สกลนคร นั้น
พศ.ขอเรียนว่าได้ตรวจสอบหลักฐานจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 27-28 พ.ค.2556 และเอกสารที่ปรากฏในขณะนี้แล้ว พบว่ามติที่ประชุมคณะทำงานเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างดังกล่าวในกรณีวัดดอนสวรรค์ ยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจ ซึ่งจะได้ดำเนินการยกเลิกและถอนชื่อวัดดอนสวรรค์ จ.สกลนคร ออกจากทะเบียนที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างของ พศ.ต่อไป และขอความอนุเคราะห์แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ทราบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ”
นายนพรัตน์ให้สัมภาษณ์กับ "สำนักข่าวอิศรา" www.isranews.org ว่า ได้ส่งหนังสือดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการ จ.สกลนครจริง เพราะจากการตรวจสอบยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอต่อการขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจ อาทิ ไม่มีโฉนด ไม่มีบุคคลยืนยัน ไม่มีหลักฐานทางโบราณคดี ฯลฯ ซึ่งอำนาจในการถอนชื่อวัดดอนสวรรค์ออกจากทะเบียนวัดร้างตกสำรวจเป็นของ พศ.โดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใดๆ อีก อย่างไรก็ตาม การถอนชื่อวัดดอนสวรรค์ออกจากทะเบียนวัดร้างตกสำรวจดังกล่าว ไม่ใช่การตัดสิทธิการขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจในอนาคต เพราะหากพบหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม ก็สามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจได้อีก
เมื่อถามถึงการยื่นให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ นายนพรัตน์ กล่าวว่า ได้ยื่นไปแล้วแต่จะขอถอนเรื่องกลับมา
สำหรับดอนสวรรค์เป็นเกาะในบึงหนองหาร จ.สกลนคร ซึ่งไม่นานมานี้มีคนบางกลุ่มพยายามเข้าครอบครองเกาแห่งนี้ ด้วยวิธีการขอเช่า 30 ปี เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมของมูลนิธิแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากทางราชการ ต่อมาจึงมีความพยายามเข้าครอบครองในรูปแบบใหม่คือการออกโฉนดที่ดิน โดยอ้างว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ ทั้งๆ ที่ไม่เคยปรากฏว่ามีวัดอยู่บนดอนสวรรค์แต่อย่างใด ผู้ว่าราชการ จ.สกลนครคนก่อน จึงสั่งระงับการออกโฉนดที่ดิน เมื่อปี 2555 แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนากลับส่งเรื่องมายัง จ.สกลนคร ให้มีการออกโฉนดบนดอนสวรรค์อีก โดยอ้างว่ามีชื่อติดอยู่ใน “ทะเบียนวัดร้าง” ทำให้ชาวสกลนครจำนวนหนึ่งลุกขึ้นมาคัดค้าน เพราะยืนยันมาตลอดว่าดอนสวรรค์เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่ทุกคนสามารถใช้ ประโยชน์ร่วมกัน และไม่เคยมีวัดมาก่อน
สำหรับผู้ที่พยายามเข้าฮุบที่ดินบนดอนสวรรค์ ชาวสกลนครมองว่า คือคนจากวัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี
“ตามหนังสือที่อ้างถึง พศ.ว่าจะพิจารณาทบทวนมติที่ประชุมคณะทำงานเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างในส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 8/2547 วันที่ 8-11 พ.ย.2547 และจะขอให้เจ้าหน้าที่เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีที่ดินวัดดอนสวรรค์ จ.สกลนคร นั้น
พศ.ขอเรียนว่าได้ตรวจสอบหลักฐานจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 27-28 พ.ค.2556 และเอกสารที่ปรากฏในขณะนี้แล้ว พบว่ามติที่ประชุมคณะทำงานเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างดังกล่าวในกรณีวัดดอนสวรรค์ ยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจ ซึ่งจะได้ดำเนินการยกเลิกและถอนชื่อวัดดอนสวรรค์ จ.สกลนคร ออกจากทะเบียนที่ดินศาสนสมบัติกลางและวัดร้างของ พศ.ต่อไป และขอความอนุเคราะห์แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ทราบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ”
นายนพรัตน์ให้สัมภาษณ์กับ "สำนักข่าวอิศรา" www.isranews.org ว่า ได้ส่งหนังสือดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการ จ.สกลนครจริง เพราะจากการตรวจสอบยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอต่อการขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจ อาทิ ไม่มีโฉนด ไม่มีบุคคลยืนยัน ไม่มีหลักฐานทางโบราณคดี ฯลฯ ซึ่งอำนาจในการถอนชื่อวัดดอนสวรรค์ออกจากทะเบียนวัดร้างตกสำรวจเป็นของ พศ.โดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใดๆ อีก อย่างไรก็ตาม การถอนชื่อวัดดอนสวรรค์ออกจากทะเบียนวัดร้างตกสำรวจดังกล่าว ไม่ใช่การตัดสิทธิการขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจในอนาคต เพราะหากพบหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม ก็สามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนวัดร้างตกสำรวจได้อีก
เมื่อถามถึงการยื่นให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ นายนพรัตน์ กล่าวว่า ได้ยื่นไปแล้วแต่จะขอถอนเรื่องกลับมา
สำหรับดอนสวรรค์เป็นเกาะในบึงหนองหาร จ.สกลนคร ซึ่งไม่นานมานี้มีคนบางกลุ่มพยายามเข้าครอบครองเกาแห่งนี้ ด้วยวิธีการขอเช่า 30 ปี เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมของมูลนิธิแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากทางราชการ ต่อมาจึงมีความพยายามเข้าครอบครองในรูปแบบใหม่คือการออกโฉนดที่ดิน โดยอ้างว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ ทั้งๆ ที่ไม่เคยปรากฏว่ามีวัดอยู่บนดอนสวรรค์แต่อย่างใด ผู้ว่าราชการ จ.สกลนครคนก่อน จึงสั่งระงับการออกโฉนดที่ดิน เมื่อปี 2555 แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนากลับส่งเรื่องมายัง จ.สกลนคร ให้มีการออกโฉนดบนดอนสวรรค์อีก โดยอ้างว่ามีชื่อติดอยู่ใน “ทะเบียนวัดร้าง” ทำให้ชาวสกลนครจำนวนหนึ่งลุกขึ้นมาคัดค้าน เพราะยืนยันมาตลอดว่าดอนสวรรค์เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่ทุกคนสามารถใช้ ประโยชน์ร่วมกัน และไม่เคยมีวัดมาก่อน
สำหรับผู้ที่พยายามเข้าฮุบที่ดินบนดอนสวรรค์ ชาวสกลนครมองว่า คือคนจากวัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี
