xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"ชวนโปแลนด์หุ้นส่วนธุรกิจ ฝันเส้นทางรถไฟเชื่อมถึงกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (4 ก.ค.) เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล (www.thaigov.go.th)เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.56 เวลา 18.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วยรัฐมนตรี อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ,นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม ,นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงสาธารณรัฐโปแลนด์ในโอกาสเยือนอย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ และแสวงหาลู่ทางการเพิ่มพูนการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ พร้อมเปิดตลาดการค้าการลงทุนกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรปกลาง โดยในวันที่ 4 ก.ค. เวลา 09.00 น. นายกฯมีกำหนดการพบกับผู้แทนภาคเอกชนไทย ที่ลงทุนอยู่ในโปแลนด์ เพื่อรับฟังประสบการณ์ และปัญหาอุปสรรคในการลงทุน รวมถึงมีกำหนดการหารือทวิภาคี กับนายโดนัล ทุสค์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ และร่วมเป็นประธานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 6 ฉบับ
โอกาสนี้ นายกฯ ยังได้นำคณะนักธุรกิจจาก 4 สาขา ได้แก่ สาขาอาหาร สาขาพลังงาน เศรษฐกิจสีเขียว สาขาการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ สาขาการก่อสร้างและอุตสาหกรรมยานยนต์ เดินทางร่วมคณะด้วย เพื่อศึกษาลู่ทางการขยายธุรกิจในโปแลนด์ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรปกลาง รวมทั้งร่วมกิจกรรมการบรรยายสรุป เกี่ยวกับประสบการณ์การลงทุนของภาคเอกชนไทยในโปแลนด์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ก.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับประสบการณ์การลงทุนของภาคเอกชนไทยในโปแลนด์ โดยบริษัท ส. ขอนแก่น และ บริษัท Thai Union Group จำกัด ของไทย ณ โรงแรมเชอราตัน วอร์ซอ พร้อมสรุปภาพรวมการลงทุนของภาคเอกชนไทยในโปแลนด์ว่า ปัจจุบันมีภาคเอกชนไทยไปลงทุนในโปแลนด์ 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท Lucky Union Foods-Euro (ปูเทียมอัดแท่ง) บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ (ไส้กรอก หมูยอ) บริษัท DHA Siamwall บริษัท Indorama (พีอีที โพลีเมอร์) บริษัท SCT (ธุรกิจ outsourcing) ซึ่งกลุ่มบริษัทเหล่านี้ ทำให้สินค้าไทยในปัจจุบันสามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปได้อย่างเป็นทางการ ตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป
โอกาสนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สอบถามผู้แทนภาคเอกชนถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสนับสนุนและช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในการดำเนินธุรกิจด้วย เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในโปแลนด์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น เส้นทางคมนาคม จะช่วงเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจ และอำนวยความสะดวกในการขนส่งด้วย
ต่อมา เวลา 14.30 น. ที่ โรงแรม เชอราตัน กรุงวอซอว์ ประเทศโปแลนด์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานเปิดสัมมนาทางเศรษฐกิจ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจโปแลนด์ รวมถึงนักธุรกิจไทย และโปแลนด์เข้าร่วม
โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า มีความยินดีที่ได้เยือนโปแลนด์อย่างเป็นทางการ เนื่องจากไทยและโปแลนด์ มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน และโปแลนด์เป็นประเทศที่มีความสำคัญในสหภาพยุโรป ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง จนสามารถยืนหยัดผ่านวิกฤตเศรษฐกิจยูโรโซน มาได้ โดยเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตอย่างน่าพอใจ ที่ร้อยละ 2 ในปีที่ผ่านมา จึงเชื่อว่า โปแลนด์มีบทบาทสำคัญในอนาคตของระบบเศรษฐกิจยุโรป
ส่วนอีกด้านหนึ่งของโลก ไทยถือเป็นจุดเชื่อมโยงสู่อาเซียนที่สำคัญ และมีประสบการณ์จากวิกฤตเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีต ที่ขณะนี้ สามารถฟื้นตัว และกำลังเติบโตอย่างมั่นคง ที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 4.5-5 ต่อปี โดยเชื่อว่าโปแลนด์ และไทยจะเป็นคู่พันธมิตรที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีบริษัทไทยที่มาลงทุนอยู่ในโปแลนด์ หลายบริษัท และมีผลกำไรที่ดี ดังนั้น เพื่อเป็นการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ จึงนำนักธุรกิจกว่า 30 ราย จากสาขาต่างๆ ร่วมคณะเดินทางในครั้งนี้ด้วย และหวังว่าจะได้สร้างความเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับนักธุรกิจโปแลนด์
ทั้งนี้ ปัจจัย 2 ประการที่จะช่วยส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกัน คือ การเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ โดยและล่าสุด ระบบขนส่งสินค้าระหว่างเมืองลอดซ์ (Lodz)ของโปแลนด์ และ เมืองเชิงตู (Chengdu)ของจีน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สามารถวิ่งได้เป็นระยะทาง 10,000 ก.ม. ใน 14 วัน และการเชื่อมโยงโปแลนด์กับไทย คือการสร้างทางรถไฟจากจีนสู่อาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ และรัฐบาลไทยกำลังจะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งประกอบไปด้วย รถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพฯไปลาว เมื่อลาวเชื่อมโยงกับจีนได้สำเร็จ ไทยก็จะสามารถเชื่อมกับโปแลนด์ ได้ และ สองการเพิ่มพูนความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ โดยนายกฯ ทั้งสองได้ตกลงที่จะผลักดันมูลค่าการค้าให้เป็น 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2018
พร้อมกันนี้ นายกฯได้กล่าวเชิญชวนภาคเอกชนโปแลนด์ให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าและบริการไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน และรัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนการลงทุนของต่างชาติอย่างต่อเนื่อง และพร้อมต้อนรับชาวต่างชาติจากทุกประเทศ
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวด้วยว่า มีความยินดีที่การเจรจาการค้าเสรีไทย สหภาพยุโรป มีความก้าวหน้าอย่างยิ่ง โดยคาดหวังว่าจะเจรจาได้แล้วเสร็จในปีหน้า และไทยมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับโปแลนด์ในทุกมิติ เพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ไทยและโปแลนด์ก้าวหน้าและแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น