กระแสข่าวเรื่องปรับ ครม.เป็นประเด็นลับๆ ล่อๆ ผลุบๆ โผล่ๆ 4-5 วัน ใช้ตีกินกลบเรื่องฉาวอื่นๆ ได้ ในที่สุด ครม.ปู 5 ขี้ข้าบักเหลี่ยม คนหนีคุกก็เปิดโฉมหน้าเป็นทางการ ยืนเข้าแถวถ่ายภาพหน้าทำเนียบไทยคู่ฟ้า มีฝนปรอยๆ พรมให้ฉ่ำชุ่มชื่นมื่น! ใครบอกว่าเป็นน้ำมนต์ น้ำตาฟ้า หรือน้ำลายเทวดาถุยใส่ทุรชนกังฉิน ก็สุดแล้วแต่จะเลือกคิด
มีหน้าเก่า หน้าใหม่ ไร้ “เฉลิม อยู่แรงงาน” ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน หรือยังทำใจไม่ได้ เข้าหน้าคนอื่นๆ ไม่ติดหลังจากเปิดฉากละเลงน้ำลายฉะดะวันก่อน เปิดโปงว่าหัวหน้ารัฐบาลปู 1-4 ลอยตัว เอาตัวรอด มาโดยตลอด ทั้งหูเบาฟัง “ไอ้แมงดา” เพ็ดทูล
“เฉลิม” จะเล่นบทหอกข้างแคร่เพื่อความสะใจ หรือยังมีลวดลายลีลาเด่นอะไรสำหรับต่อรองกับบักเหลี่ยมหรือไม่ ถ้าไม่แอ่นอกรับศึกแทนแม่นางโพยในสภาฯ เท่ากับว่า “เฉลิม” ไร้ความหมาย ถูกเก็บเอาไว้เพื่อไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ปักอกพวกเดียวกัน
เริ่มต้นเดือนใหม่ ครม.ใหม่ จุดน่าสนใจคือแม่นางโพย ซีอีโอประเทศ ทรงอิทธิพลอาจหาญชาญชัย นั่งควบเก้าอี้นายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ว่าเป็นผู้หญิงคนแรกอีกเช่นกันที่ได้เป็นใหญ่ควบคุมสั่งการผู้บังคับบัญชา 3 เหล่าทัพเต็มขั้น
วันเข้ารับตำแหน่ง ท่านรัฐมนตรีกลาโหมหญิงจะเดินด้วยมาดน่าเกรงขาม ย่างสามขุม ตรวจแถวให้บรรดานายพลทั้งหลายยืนตะเบ๊ะพึ่บพั่บกันหรือไม่! ทำให้อดนึกถึงยุคพ่อค้า อาเสี่ยต่างๆ แต่งกายชุดทหารกำมะลอ โดนแซวว่าเป็นกองพันพุงโร
ที่ผ่านมา เป็นนายกฯ ก็สร้างความอับอายขายหน้าให้ชาวบ้านเป็นประจำ นี่จะสร้างวิบัติอะไรอีก ในเมื่อไม่เข้าร่วมประชุมหน่วยงานที่ตัวเองเป็นประธาน แม้จะไปเป็นไม้ประดับสั่งการแค่ให้รู้ว่าใครเป็นนาย แต่ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบวางแผนก็ตาม
ซีอีโอประเทศจะรับงานไหวเรอะ? หรือนั่งเก้าอี้เป็นพิธีเท่านั้น เมื่อมีรัฐมนตรีช่วยกลาโหมคอยดูแลแทน ตัวเองจะเล่นบทสำคัญเมื่อพิจารณารายชื่อโยกย้ายทหารระดับนายพลขึ้นไปช่วงเดือนสิงหา-กันยา สร้างฐานอำนาจตามคำชี้แนะของคนหนีคุก
น่าสนใจว่าบรรดาแม่ทัพนายกองระดับรองจากตัวเป้งๆ จะคิดอย่างไร เมื่อเห็นการบริหารงานรัฐบาลช่วง 2 ปี ทำให้บ้านเมืองใกล้สู่จุดพังพินาศอยู่รอมร่อ โดยเฉพาะเรื่องข้าว โครงสร้างพืชหลักของชาติอยู่ในสภาพล่มสลายทั้งการผลิต คุณภาพข้าว การค้าภายในประเทศ การส่งออก ข้าวเน่าเต็มโกดังทั่วประเทศรอไฟไหม้
เคยมีคนกล่าวว่าการรัฐประหารทุกครั้ง แม่ทัพบกและพวกไม่เคยเล็งผลเพื่อบ้านเมือง แต่จะยอมไม่ได้ ถ้าตัวเองถูกโยกย้ายไปนั่งตบยุง หรือตำแหน่งด้อยกว่าก่อนเกษียณอายุ! ช่วงหลังๆ แม่ทัพแก้มยุ้ย ตาวาว กลายเป็นผู้มีบุคลิกอ่อนละมุน เลิกคำรามชั่วคราว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไร ถ้าโดนโยกไปนั่งเก้าอี้ ผบ.สูงสุด
คงตกลงอะไรกันเรียบร้อย ถ้อยทีประสานผลประโยชน์ อยากซื้ออาวุธอะไรก็จัดให้ ทั้งเฮลิคอปเตอร์ 6 ลำจากสหรัฐฯ รถรบและรถถังที 84 จากยูเครนหลายสิบคัน ทำเอากองทัพบกไทยใกล้จะเป็นกองทัพยูเครน เมื่อรับโละของตกค้างจากอดีตรัฐของโซเวียต
จะคำรามก็เมื่อผู้สื่อข่าวถามไม่ถูกใจ หรือโดนจุดเปราะบางเท่านั้น! จากนี้ไปจะเห็นจังหวะของการพิสูจน์ว่ากองทัพจากเงินภาษีของประชาชนยังรักษาภารกิจหลักเพื่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์หรือไม่! หรือเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณไปด้วยเช่นกัน
เห็นหน้าใหม่ใน ครม.มาจากข้าราชการเกษียณ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจ สร้างแนวคิดให้พวกข้าราชการทั้งหลายได้เห็นช่องทางว่า ถ้าอยากเป็นรัฐมนตรี เสนาบดีไวๆ ต้องเปลี่ยนความคิดจิตใจที่เคยรักชาติ มาทำตัวเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยม แสดงให้เห็นชัดๆ ว่าตัวเองมีศักยภาพสูงไร้ขอบเขต สามารถทำความชั่วได้ตามใจปรารถนาของนายทาส
ถ้าไม่เชื่อก็ดูความสำเร็จแบบก้าวกระโดดของนายชัยเกษม นายยรรยง และนางเบญจาดูก็แล้วกัน! นายยรรยงเพิ่งเกษียณหมาดๆ นางเบญจายอมลาออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร มาเป็นผู้ดูแลกระทรวงการคลัง หลังจากถูกมองว่าเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ให้ตระกูลทักษิณ โดยเฉพาะดูแลเรื่องงานภาษีอากร รถเถื่อนเจ้าปัญหา
คิดแล้วก็แปลก เป็นข้าราชการ กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนมาจนเกษียณอายุ ยังกินบำนาญต่ออีกจนตาย แต่ขอเป็นขี้ข้าคนหนีคุกดีกว่า ได้ผลประโยชน์เป็นกอบเป็นกำ! จะเหลือข้าราชการยอมทุ่มเททำงานรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินสักกี่คน!
วันก่อนรองปลัดคลัง ก็เร่งลงนามสัญญาเงินกู้ 3.49 แสนล้านบาท ไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ทั้งๆ ที่ศาลปกครองสั่งให้ทำประชาพิจารณ์โครงการน้ำเสียก่อนจะผูกมัดตัวเองกับสัญญาเงินกู้ ซึ่งจะต้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปใช้! กล้าเสี่ยงเพื่อมุ่งตอบสนองขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยม รู้ทั้งรู้ว่าผิดหลักธรรมาภิบาล ชาวบ้านบอกกู้เพื่อโกง
สักวันหนึ่งเถอะ จากการเป็นขี้ข้าคนหนีคุก จะได้รับการยกระดับเป็นขี้คุกเสียเอง ถ้าบ้านเมืองเกิดการปฏิรูปหลังจากความพยายามต่อสู้ของประชาชนคนรักชาติสามารถล้มระบอบทักษิณ กำจัดเสี้ยนหนาม พวกกาฝาก กวาดล้างทุรชนหนักแผ่นดินได้สำเร็จ
รัฐบาลจะอยู่รอดนานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกในหน้าที่ ความเร่งด่วนของเรื่อง ซึ่งถูกพิจารณาโดยองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ในระบบตุลาการภิวัฒน์ เมื่อชาวบ้านไม่สามารถพึ่งพาตำรวจ อัยการระดับบังคับบัญชาได้อีกแล้ว
ความผยองอำนาจ ท้าทายกฎหมายของคณะแม่นางโพยทำให้ประชาชนทนไม่ไหวเพิ่มแรงกดดัน! ขบวนการหน้ากากขาว และปรปักษ์บักเหลี่ยมเดินหน้ารอวันรุกฆาต ถือสิทธิอันชอบธรรมในการล้มล้างรัฐบาลชั่วร้ายเพื่อรักษาบ้านเมืองให้อยู่รอด
มีหน้าเก่า หน้าใหม่ ไร้ “เฉลิม อยู่แรงงาน” ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน หรือยังทำใจไม่ได้ เข้าหน้าคนอื่นๆ ไม่ติดหลังจากเปิดฉากละเลงน้ำลายฉะดะวันก่อน เปิดโปงว่าหัวหน้ารัฐบาลปู 1-4 ลอยตัว เอาตัวรอด มาโดยตลอด ทั้งหูเบาฟัง “ไอ้แมงดา” เพ็ดทูล
“เฉลิม” จะเล่นบทหอกข้างแคร่เพื่อความสะใจ หรือยังมีลวดลายลีลาเด่นอะไรสำหรับต่อรองกับบักเหลี่ยมหรือไม่ ถ้าไม่แอ่นอกรับศึกแทนแม่นางโพยในสภาฯ เท่ากับว่า “เฉลิม” ไร้ความหมาย ถูกเก็บเอาไว้เพื่อไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ปักอกพวกเดียวกัน
เริ่มต้นเดือนใหม่ ครม.ใหม่ จุดน่าสนใจคือแม่นางโพย ซีอีโอประเทศ ทรงอิทธิพลอาจหาญชาญชัย นั่งควบเก้าอี้นายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ว่าเป็นผู้หญิงคนแรกอีกเช่นกันที่ได้เป็นใหญ่ควบคุมสั่งการผู้บังคับบัญชา 3 เหล่าทัพเต็มขั้น
วันเข้ารับตำแหน่ง ท่านรัฐมนตรีกลาโหมหญิงจะเดินด้วยมาดน่าเกรงขาม ย่างสามขุม ตรวจแถวให้บรรดานายพลทั้งหลายยืนตะเบ๊ะพึ่บพั่บกันหรือไม่! ทำให้อดนึกถึงยุคพ่อค้า อาเสี่ยต่างๆ แต่งกายชุดทหารกำมะลอ โดนแซวว่าเป็นกองพันพุงโร
ที่ผ่านมา เป็นนายกฯ ก็สร้างความอับอายขายหน้าให้ชาวบ้านเป็นประจำ นี่จะสร้างวิบัติอะไรอีก ในเมื่อไม่เข้าร่วมประชุมหน่วยงานที่ตัวเองเป็นประธาน แม้จะไปเป็นไม้ประดับสั่งการแค่ให้รู้ว่าใครเป็นนาย แต่ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบวางแผนก็ตาม
ซีอีโอประเทศจะรับงานไหวเรอะ? หรือนั่งเก้าอี้เป็นพิธีเท่านั้น เมื่อมีรัฐมนตรีช่วยกลาโหมคอยดูแลแทน ตัวเองจะเล่นบทสำคัญเมื่อพิจารณารายชื่อโยกย้ายทหารระดับนายพลขึ้นไปช่วงเดือนสิงหา-กันยา สร้างฐานอำนาจตามคำชี้แนะของคนหนีคุก
น่าสนใจว่าบรรดาแม่ทัพนายกองระดับรองจากตัวเป้งๆ จะคิดอย่างไร เมื่อเห็นการบริหารงานรัฐบาลช่วง 2 ปี ทำให้บ้านเมืองใกล้สู่จุดพังพินาศอยู่รอมร่อ โดยเฉพาะเรื่องข้าว โครงสร้างพืชหลักของชาติอยู่ในสภาพล่มสลายทั้งการผลิต คุณภาพข้าว การค้าภายในประเทศ การส่งออก ข้าวเน่าเต็มโกดังทั่วประเทศรอไฟไหม้
เคยมีคนกล่าวว่าการรัฐประหารทุกครั้ง แม่ทัพบกและพวกไม่เคยเล็งผลเพื่อบ้านเมือง แต่จะยอมไม่ได้ ถ้าตัวเองถูกโยกย้ายไปนั่งตบยุง หรือตำแหน่งด้อยกว่าก่อนเกษียณอายุ! ช่วงหลังๆ แม่ทัพแก้มยุ้ย ตาวาว กลายเป็นผู้มีบุคลิกอ่อนละมุน เลิกคำรามชั่วคราว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไร ถ้าโดนโยกไปนั่งเก้าอี้ ผบ.สูงสุด
คงตกลงอะไรกันเรียบร้อย ถ้อยทีประสานผลประโยชน์ อยากซื้ออาวุธอะไรก็จัดให้ ทั้งเฮลิคอปเตอร์ 6 ลำจากสหรัฐฯ รถรบและรถถังที 84 จากยูเครนหลายสิบคัน ทำเอากองทัพบกไทยใกล้จะเป็นกองทัพยูเครน เมื่อรับโละของตกค้างจากอดีตรัฐของโซเวียต
จะคำรามก็เมื่อผู้สื่อข่าวถามไม่ถูกใจ หรือโดนจุดเปราะบางเท่านั้น! จากนี้ไปจะเห็นจังหวะของการพิสูจน์ว่ากองทัพจากเงินภาษีของประชาชนยังรักษาภารกิจหลักเพื่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์หรือไม่! หรือเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณไปด้วยเช่นกัน
เห็นหน้าใหม่ใน ครม.มาจากข้าราชการเกษียณ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจ สร้างแนวคิดให้พวกข้าราชการทั้งหลายได้เห็นช่องทางว่า ถ้าอยากเป็นรัฐมนตรี เสนาบดีไวๆ ต้องเปลี่ยนความคิดจิตใจที่เคยรักชาติ มาทำตัวเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยม แสดงให้เห็นชัดๆ ว่าตัวเองมีศักยภาพสูงไร้ขอบเขต สามารถทำความชั่วได้ตามใจปรารถนาของนายทาส
ถ้าไม่เชื่อก็ดูความสำเร็จแบบก้าวกระโดดของนายชัยเกษม นายยรรยง และนางเบญจาดูก็แล้วกัน! นายยรรยงเพิ่งเกษียณหมาดๆ นางเบญจายอมลาออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร มาเป็นผู้ดูแลกระทรวงการคลัง หลังจากถูกมองว่าเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ให้ตระกูลทักษิณ โดยเฉพาะดูแลเรื่องงานภาษีอากร รถเถื่อนเจ้าปัญหา
คิดแล้วก็แปลก เป็นข้าราชการ กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนมาจนเกษียณอายุ ยังกินบำนาญต่ออีกจนตาย แต่ขอเป็นขี้ข้าคนหนีคุกดีกว่า ได้ผลประโยชน์เป็นกอบเป็นกำ! จะเหลือข้าราชการยอมทุ่มเททำงานรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินสักกี่คน!
วันก่อนรองปลัดคลัง ก็เร่งลงนามสัญญาเงินกู้ 3.49 แสนล้านบาท ไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ทั้งๆ ที่ศาลปกครองสั่งให้ทำประชาพิจารณ์โครงการน้ำเสียก่อนจะผูกมัดตัวเองกับสัญญาเงินกู้ ซึ่งจะต้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปใช้! กล้าเสี่ยงเพื่อมุ่งตอบสนองขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยม รู้ทั้งรู้ว่าผิดหลักธรรมาภิบาล ชาวบ้านบอกกู้เพื่อโกง
สักวันหนึ่งเถอะ จากการเป็นขี้ข้าคนหนีคุก จะได้รับการยกระดับเป็นขี้คุกเสียเอง ถ้าบ้านเมืองเกิดการปฏิรูปหลังจากความพยายามต่อสู้ของประชาชนคนรักชาติสามารถล้มระบอบทักษิณ กำจัดเสี้ยนหนาม พวกกาฝาก กวาดล้างทุรชนหนักแผ่นดินได้สำเร็จ
รัฐบาลจะอยู่รอดนานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกในหน้าที่ ความเร่งด่วนของเรื่อง ซึ่งถูกพิจารณาโดยองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ในระบบตุลาการภิวัฒน์ เมื่อชาวบ้านไม่สามารถพึ่งพาตำรวจ อัยการระดับบังคับบัญชาได้อีกแล้ว
ความผยองอำนาจ ท้าทายกฎหมายของคณะแม่นางโพยทำให้ประชาชนทนไม่ไหวเพิ่มแรงกดดัน! ขบวนการหน้ากากขาว และปรปักษ์บักเหลี่ยมเดินหน้ารอวันรุกฆาต ถือสิทธิอันชอบธรรมในการล้มล้างรัฐบาลชั่วร้ายเพื่อรักษาบ้านเมืองให้อยู่รอด
