xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด กห.คนใหม่ พร้อมปฏิบัติตามบัญชา “ปู” หวังบิ๊ก ผบ.เมตตา จ่อสานงานถกบีอาร์เอ็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
ปลัดกลาโหมประธานพิธียินดีทหารเลื่อนยศนายพล 93 นาย และพิธีรายงานตัวย้ายเข้าสำนักปลัดฯ อีก 36 นาย ยันเดินตามนโยบายเดิม พร้อมปฏิบัติงานตาม “ยิ่งลักษณ์-ยุทธศักดิ์” เคร่งครัด เผยบุกเคาะห้องคารวะบิ๊กท็อปบูตแล้ว หวังได้รับความเมตตาจากพี่ๆ โวเพื่อนบ้านยกหูคุยกันได้ ลั่นตอบแทนคุณมอบเก้าอี้ตามหน้าที่ จ่อขอสานงานจ้อบีอาร์เอ็น



วันนี้ (1 ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประกอบพิธีแสดงความยินดีแก่ทหารสัญญาบัตรที่ได้รับพระราชทานยศ ทหารชั้นนายพล จำนวน 93 นาย ประกอบด้วย พลเอก 17 นาย, พลอากาศเอก 1 นาย, พลโท 22 นาย, พลเรือโท 3 นาย, พลอากาศโท 2 นาย, พลตรี 33 นาย, พลเรือตรี 1 นาย, พลอากาศตรี 6 นาย, พลตรีหญิง 5 นาย, พลเรือตรีหญิง 2 นาย, และพลอากาศตรีหญิง 1 นาย และพิธีรายงานตัวของนายทหารสัญญาบัตรที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ย้ายเข้ามารับราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จำนวน 36 นาย

ทั้งนี้ พล.อ.นิพัทธ์กล่าวให้โอวาทว่า ขอแสดงความยินดีแก่นายทหารสัญญาบัตรที่ได้รับพระราชทานยศให้เป็นทหารชั้นนายพล พร้อมทั้งขอต้อนรับนายทหารสัญญาบัตรใหม่ที่ย้ายเข้ามารับราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ตนขอให้ทุกท่านรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นทหารชั้นนายพล เพราะมีนายทหารบางท่านต้องแรกมาด้วยชีวิตถึงจะได้เป็นนายพล

หลังจากนั้น พล.อ.นิพัทธ์กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะดำเนินการตามนโยบายของ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะถือว่าเป็นปรัชญาในการทำงาน คือ มีวินัย และน้ำใจ ทำอะไรก็สำเร็จ ซึ่งตนได้สั่งฝ่ายเสนาธิการ เตรียมการจัดการแถลงนโยบาย ในวันที่ 7 ต.ค. เวลา 10.30 น.นี้ พร้อมทั้งเรียกประชุมผู้บังคับหน่วยตั้งแต่ยศพันเอกขึ้นไปในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อให้มารับฟังสิ่งที่เป็นเจตนารมณ์ของตน ถือเป็นแผนงานในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ตามตนจะต้องนำเรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พล.อ.นิพัทธ์ยังได้กล่าวถึงการวางตัวต่อสถานการณ์ทางการเมืองว่า เรื่องการรักษาวินัยอยู่ในใจทหารทุกคน ซึ่งตนมีผู้บังคับบัญชาโดยตรงคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและรมว.กลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม สิ่งเหล่านี้แยกขาดจากกันไม่ได้ เพราะ รวม.กลาโหม และปลัดกระทรวงกลาโหม ต้องทำงานควบคู่กันไปอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ นายกฯ ได้แนะนำในการปฏิบัติหน้าที่ว่าควรจะทำอย่างไร ตนได้เดินทางไปคารวะ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สูงสุด, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ., พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ในห้องทำงานของท่าน ในส่วนของ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.ยังติดภารกิจ แต่คาดว่า 1-2 วันจะเดินทางไปพบ

“ผมไปกราบเรียนท่านว่า ท่านเป็นรุ่นพี่ผม ปลัดกระทรวงกลาโหมคนนี้ถือเป็นรุ่นน้อง จะทำหน้าที่ในการประสานงานอำนวยความสะดวก และให้ความเคารพ ในภารกิจของพี่ๆ และขอให้พี่ๆ ใช้งานผม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมได้รับคำแนะนำจากนายกฯ และทางพี่ๆ ได้เมตตา และให้คำแนะนำ บอกว่าจะใช้งานผมให้เป็นประโยชน์ ในงานราชการทั้งปวง ซึ่งผมก็ยินดี และมั่นใจว่าจะสามารถทำงานกับ ผบ.เหล่าทัพได้ ในฐานะที่ผมเป็นน้อง ผมรู้ดีว่าเป็นใคร บทบาทหน้าที่มีแค่ไหน สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีกรอบที่ชัดเจน ผมได้รับความเมตตาจากพี่ๆ ในการให้คำแนะนำและสั่งสอน การอบรมต่างๆ ผมเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะออกมาเป็นบวกและสร้างสรรค์” พล.อ.นิพัทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า ในฐานะที่มีความใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านกังวลหรือไม่ว่าทางรัฐบาลจะอาศัยตรงนี้เพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์ส่วนตัว พล.อ.นิพัทธ์กล่าวว่า ต้นทุนชีวิตของตนคือการทำงานที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่เป็นนายทหารรุ่นพี่และรุ่นเดียวกัน ซึ่งต้นทุนที่มีอยู่จะต้องนำมาใช้ อะไรที่ตนทำได้เพื่อผลประโยชน์ของชาติตนจะทำ รวมถึงการจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ก็ต้องเร่งดำเนินการ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้นมา การพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านในวันนี้ สามารถยกหูคุยกันได้ เราอยากเห็นความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่ง ผบ.สส.ท่านทำหน้าที่นี้อยู่ในฐานะผู้อำนวยการปฏิบัตินโยบายชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของ ผบ.ทบ., ผบ.ทร., ผบ.ทอ. มีความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และสิ่งที่ตนเห็นในขณะนี้คือเพื่อบ้านนิ่งความหวาดระแวงไม่มี นี้คือยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยมีกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดำเนินการ

เมื่อถามว่า เรื่องการตอบแทนบุญคุณส่วนตัวในฐานะที่รัฐบาลได้ให้มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.นิพัทธ์กล่าวว่า เรื่องการตอบแทนบุญคุณ เป็นเรื่องที่ดีที่เป็นมงคลชีวิต ตนจะทำ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแต่ซึ่งต้องอยู่ในขอบเขตของอำนาจหน้าที่ เมื่อถามถึงงานที่เคยรับผิดชอบ ในการมีส่วนร่วมในการพูดคุยสันติภาพกับบีอาร์เอ็น และคดีประสารพระวิหาร จะดำเนินการต่อหรือไม่ พล.อ.นิพัทธ์กล่าวว่า ตนตั้งใจที่จะสานต่อแต่ต้องขออนุมัตินายกฯ ด้วย โดยเฉพาะเรื่องการพูดคุยสันติภาพ บีอาร์เอ็น เราต้องการความต่อเนื่อง เพราะรู้จักตื้นลึกหนาบางที่ได้ขับเคี่ยวกันมา ตนคิดว่าอยากจะทำต่อแต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับนายกฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น