ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-นับเป็นข่าวที่สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่พสกนิกรชาวไทยอยู่ไม่น้อย กับข่าวการสมรสระหว่าง “คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น” พระธิดาองค์โตในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี กับ “เดวิด วีลเลอร์” (David Wheeler) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ที่ทั้งหล่อและสมาร์ท ซึ่งขณะนี้ทั้งสองได้มีพยานรักตัวน้อยนามว่า “แม็กซ์ วีลเลอร์” ที่หล่อไม่แพ้คุณพ่อเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวปรากฏต่อสายตาของสาธารณชนเมื่อมีสื่อออนไลน์หลายสำนักเผยแพร่ภาพชุดงานวิวาห์ของคุณพลอยกับสามีเมื่อปี 2009 พร้อมทั้งเผยโฉมลูกชายหน้าตาน่ารักนัยน์ตาสีฟ้าที่มีชื่อว่า “แม็กซ์” โดยเฉพาะสื่อเสื้อแดงที่พยายามขุดคุ้ยเรื่องราวชีวิตของคุณพลอยไพลินและตั้งคำถามไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องราวความรักของคุณพลอยไพลินนั้นสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า Simple Life Simple Love
ว่ากันความรักระหว่าง “คุณพลอยไพลิน” กับ “เดวิด วีลเลอร์” นั้นเริ่มก่อตัวขึ้นในช่วงที่คุณพลอยไพลิน เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ (MBA) ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจชั้นนำระดับโลก หลังจากจบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก้ (UCSD ซึ่งขณะนั้นเดวิดก็ได้มาศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) เช่นกัน
และที่มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ แห่งนี้เอง คุณพลอยไพลินได้พบรักกับเดวิด วีลเลอร์สามีของเธอ
หลังจบการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ในปี 2550 วารสารศิษย์เก่าของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ฉบับฤดูหนาว 2551ได้ตีพิมพ์ข้อความว่า คุณพลอยไพลินได้ออกเดินทางท่องโลกกับเพื่อนร่วมรุ่นปี 2550 ด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของ “เดวิด วีลเลอร์” ปรากฏอยู่ด้วย
เดวิด วีลเลอร์เป็นชายหนุ่มมากความสามารถ เขาเป็นมืออาชีพทางด้านการเงินการลงทุนที่บริษัท Barclays Capital Inc. สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีนายหน้าตัวแทนในสังกัดมากกว่า 3,950 สาขา โดยเดวิดมีหน้าที่ดูแลด้านธุรกิจการซื้อขายหลักทรัพย์
ด้วยบุคลิกที่อบอุ่นและมีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มร้อย คอยดูแลเอาใจใส่และห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ครั้งยังเป็นเพื่อนนักศึกษา กระทั่งจบออกมาทำงาน ในที่สุดเดวิด วีลเลอร์ก็สามารถเอาชนะใจคุณพลอยไพลินได้ และหลังจากที่คบหากันหลายปี คุณพลอยไพลินและเดวิดตัดก็สินใจจูงมือเข้าพิธีวิวาห์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552บนเกาะฮาวาย ซึ่งเพื่อนที่ไปร่วมงานนั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบรรยากาศในงานวิวาห์วันนั้นเป็นไปอย่างเรียบง่ายเป็นกันเอง
ต่างจากงานของบรรดาผู้ที่มียศศักดิ์ทั่วไปที่มักจัดงานอย่างหรูหราอลังการเพื่ออวดอ้างความมั่งมี โดยงานนี้มีเพียงญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมแสดงความยินดีเท่านั้น แต่ภายในงานล้วนอบอวลไปด้วยอุ่นไอของความรักที่สดใส ขณะที่สายใยความรักของพี่น้องก็มิได้จางหาย เพราะงานนี้ “คุณใหม่” สิริกิติยา เจนเซน น้องสาวคนเล็กของคุณพลอยไพลินเป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าสาวด้วย ซึ่งคุณใหม่นี่เองเป็นผู้โชคดีที่ได้รับช่อดอกไม้ในครั้งนั้น
หลังจากแต่งงานได้ 1 ปี คุณพลอยไพลินได้ให้กำเนิดบุตรชายในช่วงปลายปี 2553 นามว่า “แม็กซ์ วีลเลอร์” หนูน้อยหน้าตาน่ารักเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสวย ที่ส่อแววหล่อและเฉลียวฉลาดไม่แพ้คุณพ่อเลยทีเดียว ปัจจุบันคุณพลอยไพลินและครอบครัววีลเลอร์ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมีความสุขอยู่ในเขตแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคุณพลอยไพลินและครอบครัว มักใช้เวลาว่างร่วมกันบนชายหาดซานต้า โมนิก้าที่น้องแมกซ์โปรดปราน จนกระทั่งได้ฉายาจากเพื่อนสนิทของคุณพลอยไพลินว่าเป็น “A Cali Baby” หรือหนูน้อยแคลิฟอร์เนียตัวจริงเสียงจริง
ทั้งนี้ คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น เป็นพระธิดาองค์โตในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2524 ณ เมืองซานดิเอโก้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันคุณพลอยไพลินมีอายุ 32 ปี มีน้องสองคนคือ ร.ต.ต. คุณพุ่ม เจนเซ่น หรือ “คุณพุ่ม”และคุณสิริกิติยา เจนเซน หรือ “คุณใหม่” โดยคนไทยส่วนใหญ่จำชื่อของ “คุณพลอยไพลิน เจนเซน” ได้เป็นอย่างดีจากบทบาท “เจ้าหญิงจัสมิน” ในละครโทรทัศน์เรื่อง “ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน” ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 เมื่อสิบกว่าปีก่อน
นอกจากความสามารถทางการแสดงแล้ว คุณพลอยไพลินยังมีชื่อเสียงด้านทางการขับร้องและเล่นดนตรี เป็นที่รู้จักในฐานะนักเปียโนอายุน้อยที่มีฝีมือเป็นเยี่ยม เธอจบการศึกษาทางด้านดนตรีจากโรงเรียนเพอร์เซลล์ (Purcell School) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งส่วนใหญ่นักเรียนที่จบจากโรงเรียนนี้มักจะเข้าศึกษาต่อสถาบันดนตรีอย่าง Royal College of Music และ Royal Academy of Music คุณพลอยไพลินเคยทำการแสดงมาแล้วทั่วโลก ทั้งในยุโรปและเอเชีย รวมถึงออสเตรเลีย ณ ซิดนี่ย์โอเปร่าเฮ้าส์ด้วยเช่นกัน
จากนั้นคุณพลอยไพลินเลือกเรียนต่อทางด้านวิทยาการปัญญา (Cognitive Science) ซึ่งเป็นการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ทั้งเรื่องของความคิดและความฉลาด กระทั่งจบปริญญาตรีในปี 2546 ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (Summa Cum Laude) ณ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก้ (UCSD) ก่อนเข้าศึกษาต่อปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ (MBA) ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจชั้นนำระดับโลก
ทั้งนี้ ความติดดินของคุณพลอยไพลินนั้นเป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนนักศึกษามานานแล้ว โดยคุณพลอยเลือกที่จะใช้ชีวิตนักศึกษาเฉกเช่นสามัญชนทั่วไป โดยมิได้แสดงตัวว่าตนเองคือพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินีฯ ของประเทศไทย โดยในโปรแกรม MBA ที่คุณพลอยไพลินเข้าศึกษานั้น ในเทอมสุดท้ายของการศึกษา นักศึกษาสามารถเดินทางไปทำวิจัยได้ในบริษัทหรือองค์กรใดๆ ก็ได้ทั่วโลก โดยโปรแกรมที่คุณพลอยไพลินเลือกนั้นมีชื่อว่า Global Entrepreneurship Lab หรือที่รู้จักกันในหมู่นักศึกษาด้วยกันว่า G-Lab นั่นเอง คุณพลอยไพลินและเพื่อนนักศึกษาอีกสามคนจากอินเดีย ญี่ปุ่น และฟินแลนด์ ได้ตัดสินใจเดินทางไปทำงาน ณ บริษัทธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital Firm) แห่งหนึ่งในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย เป็นเวลาสามสัปดาห์
โดยเพื่อนในกลุ่ม G-Lab คนหนึ่งได้เขียนถึงคุณพลอยไพลินในบันทึกนักศึกษา หรือ Student Journal ของเขาว่า “เธอเคยมีประสบการณ์ทำงานทางด้าน Investment Banking กับบริษัทชั้นนำทางด้านนี้อย่าง McKinsey & Company มาแล้ว (รวมถึงเป็นนักเปียโน และนักร้องเสียงโซปราโนอีกด้วย)” จากบันทึกดังกล่าวดูเหมือนว่าสำหรับเพื่อนๆ แล้ว เธอเป็นที่รู้จักในฐานะของ “พลอย เจนเซ่น” นักศึกษาสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกันคนเก่ง มากกว่าที่จะเป็น “คุณพลอยไพลิน มหิดล เจนเซน” พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินีฯ ของไทย
และนี่เองเป็นสิ่งที่ชาวไทยทั้งประเทศต่างปลื้มปีติและชื่นชมในตัวเจ้าหญิงองค์น้อยแห่งราชวงศ์จักรี เพราะไม่ว่าจะเป็นการวางตัว การดำเนินชีวิต หรือแม้กระทั่งการใช้จ่าย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นไปด้วยความสมถะ เรียบง่าย แม้กระทั่งพิธีวิวาห์ก็หาได้ฟุ้งเฟ้อหรูหราดังเจ้าหญิงในเทพนิยาย แต่กลับเรียบง่ายงดงามจนนำมาซึ่งเสียงชื่นชมจากผู้คนที่รับรู้เรื่องราวความรักที่น่าอิจฉาของคุณพลอยไพลิน
เห็นแล้วก็ให้นึกถึงพิธีแต่งงานของลูกชาวนักการเมืองดังที่ข้ามฝั่งไปดองกับลูกนักการเมืองของกัมพูชาซึ่งว่ากันว่าหรูหราอลังการงานสร้างสุดจะบรรยาย แถมพ่อตาและแม่ยายยังประเคนรถหรูเตรียมส่งรับขวัญลูกเขยอีกต่างหาก
ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน
“นิตยสาร Celeb Online”