วานนี้(24 มิ.ย.56) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 มิถุนายน 2556 นี้เวลา 13.00 น. ศาลได้มีหมายแจ้งให้คู่กรณีในคดีพิพาทตามคดีหมายเลขดำที่ 940/2556 ระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับชาวบ้านรวม 45 คน ผู้ฟ้องคดี และนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กยน. คณะกรรมการ กนอช. และคณะกรรมการ กบอ. ผู้ถูกฟ้องคดีมาศาลเพื่อดำเนินการพิจารณาคดีครั้งแรก ซึ่งในคดีนี้ทีมทนายความของสมาคมฯ ได้เตรียมนำพยานหลักฐานของการดำเนินงานโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านของรัฐบาลมาเสนอต่อศาลถึงการใช้อำนาจทางปกครองโดยไม่มีเหตุอันสมควรโดยเฉพาะการใช้อำนาจในการยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ซึ่งขัดต่อกฎหมาย ปปช.โดยชัดแจ้ง รวมทั้งความไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการ โดยเฉพาะการขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ก้าวข้ามขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 57 มาตรา 58 มาตรา 67 มาตรา 85 และมาตรา 87
รวมทั้งการชี้ให้เห็นว่าหากปล่อยให้โครงการน้ำของรัฐบาลและ กบอ. เดินหน้าต่อไป จะสร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้เกิดขึ้นกับชุมชน ประเทศชาติในแง่ใดบ้าง รวมทั้งจะเกิดความขัดแย้งเป็นคดีความกันทั่วประเทศ อันเนื่องมาจากความไม่พอใจในการสร้างเขื่อน การสร้างอ่างเก็บน้ำ การทำฟลัดเวย์ (Floodway) เป็นต้น และการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ กบอ.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการสร้าง “นิติสัมพันธ์” เกิดขึ้นแล้วระหว่างรัฐบาลกับบริษัทร่วมค้าที่ชนะการประมูลในแต่ละโมดูล(Module) อันทำให้องค์ประกอบของการฟ้องคดีของสมาคมฯและประชาชนสมบูรณ์ เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลเมื่อคราวการพิจารณาคำขอคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
คดีนี้เชื่อมั่นว่าคำพิพากษาของศาลที่กำหนดการนั่งอ่านคำพิพากษาในวันพฤหัสที่ 27 มิถุนายนนี้ เวลา 13.00 น. จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของภาคประชาชนต่อศาลปกครองว่า กระบวนการทางกฎหมายเท่านั้นที่จะหยุดยั้งการใช้อำนาจทางปกครองของหน่วยงานภาครัฐ ที่ระเริงอำนาจจนก้าวข้ามขั้นตอนของกฎหมายไป โดยไม่ฟังเสียงประชาชน ให้กลับมาสู่แนวทาง ขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดได้ ซึ่งในวันดังกล่าวมีกลุ่มประชาชนกว่า 300 คนจะเดินทางไปร่วมฟังคำพิพากษาด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
รวมทั้งการชี้ให้เห็นว่าหากปล่อยให้โครงการน้ำของรัฐบาลและ กบอ. เดินหน้าต่อไป จะสร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้เกิดขึ้นกับชุมชน ประเทศชาติในแง่ใดบ้าง รวมทั้งจะเกิดความขัดแย้งเป็นคดีความกันทั่วประเทศ อันเนื่องมาจากความไม่พอใจในการสร้างเขื่อน การสร้างอ่างเก็บน้ำ การทำฟลัดเวย์ (Floodway) เป็นต้น และการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ กบอ.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการสร้าง “นิติสัมพันธ์” เกิดขึ้นแล้วระหว่างรัฐบาลกับบริษัทร่วมค้าที่ชนะการประมูลในแต่ละโมดูล(Module) อันทำให้องค์ประกอบของการฟ้องคดีของสมาคมฯและประชาชนสมบูรณ์ เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลเมื่อคราวการพิจารณาคำขอคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
คดีนี้เชื่อมั่นว่าคำพิพากษาของศาลที่กำหนดการนั่งอ่านคำพิพากษาในวันพฤหัสที่ 27 มิถุนายนนี้ เวลา 13.00 น. จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของภาคประชาชนต่อศาลปกครองว่า กระบวนการทางกฎหมายเท่านั้นที่จะหยุดยั้งการใช้อำนาจทางปกครองของหน่วยงานภาครัฐ ที่ระเริงอำนาจจนก้าวข้ามขั้นตอนของกฎหมายไป โดยไม่ฟังเสียงประชาชน ให้กลับมาสู่แนวทาง ขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดได้ ซึ่งในวันดังกล่าวมีกลุ่มประชาชนกว่า 300 คนจะเดินทางไปร่วมฟังคำพิพากษาด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด