วานนี้ (16 มิ.ย.) พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ร่วมกันฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ว่า มีการกำชับไปนยังเรือนจำ ให้แยกคุมเดี่ยวไม่ให้ทั้ง 4 คนได้พบกัน และจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงกลางคืน รวมทั้งห้ามญาตินำของเยี่ยมจากภายนอกเข้ามาในเรือนจำ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ไม่พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีอาการเครียดผิดปกติ ส่วนการย้ายผู้ต้องหาไปยังเรือนจำอื่น ต้องรอให้ศาลมีคำสั่ง รวมทั้งพิจารณาอัตราโทษ และพฤติการณ์อื่นประกอบด้วย
ด้านศปก.สน.วังทองหลาง โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก. บก.น.4 พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส.บช.น. ร่วมประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เร่งคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ เปิดเผยว่า การสอบสวนผู้ต้องหาได้ดำเนินการแล้ว พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ร่องรอยนำชี้ที่เกิดเหตุสอดคล้องกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหา วันนี้ตำรวจจะรวมรวบข้อมูลที่มีอยู่แล้วอย่างละเอียดแล้วมาดูร่วมกับฝ่ายสืบสวนสอบสวนว่าขาดอะไรบ้าง เพื่อทำให้สำนวนมีความละเอียด และรัดกุมมากยิ่งขึ้น
เบื้องต้น การสอบปากคำรวมถึงพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การสอดคล้องกัน แต่ยังไม่ตรงกันในวิธีการฆ่านายเอกยุทธ ว่าใช้วิธีใด ระหว่างรัดคอกับบีบคอ และใครเป็นผู้ฆ่า
ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายที่หายไป อาทิ สร้อยคอทองคำพร้อมพระสมเด็จฯ เลี่ยมทอง ฮาร์ดดิสต์ ของกล้องวงจรปิด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยพล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ได้ใช้ตำรวจน้ำ ดำงมหาทรัพย์สินตามที่ผู้ต้องหาให้การว่านำไปทิ้งที่ใดเป็นเวลา 2 วัน แต่ก็ไม่พบ หากไม่พบทรัพย์สิน จะไม่มีการยืนยันการกระทำผิด ซึ่งทีมพนักงานสอบสวนได้ให้ความสำคัญ แต่เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ จะทำให้สำนวนมีน้ำหนักพออยู่แล้ว อีกทั้งทาง ผบช.น. ได้กำชับให้ประสานไปยังบริษัทติดตั้งกล้องซีซีทีวี เพื่อขอทราบข้อมูลระบบทั้งหมด ขณะนี้หลักฐานต่างๆ ยังกระจัดกระจาย ต้องนำมารวบรวมให้เป็นระบบเสียก่อน
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า ผบช.น. ได้สั่งการให้ติดตามทุกระยะ ซึ่งทางตำรวจจะไปตรวจสอบภูมิหลัง สาเหตุรวมถึงประวัติของผู้ก่อเหตุ และ นายเอกยุทธ เพื่อรวบรวมให้กองปราบปราม นำไปวิเคราะห์หาพฤติกรรมการก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจยังมุ่งประเด็นประสงค์ต่อทรัพย์ และความแค้นส่วนตัว ส่วนประเด็นที่ทนายความยังสงสัยนั้น ยังไม่ส่งมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ตำรวจ แต่พร้อมตรวจสอบหากนำมามอบให้ และหน้าที่ของพนักงานสอบสวน คือ การหาหลักฐานความจริงไม่ต้องกังวลเจ้าหน้าที่มีเป้าหมายในการทำงานชัดเจน หากใครมีเบาะแสให้นำมาให้พร้อมเรียกตัวมาทันที
นอกจากนี้ทาง ผกก.สน.วังทองหลางได้ส่งหนังสือเชิญ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม มาร่วมให้ข้อมูลกับตำรวจ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ว่าจะมาร่วมให้ข้อมูลหรือไม่ หากไม่เดินทางมา ก็จะขอคำแนะนำชี้แจงเพื่อมาประกอบแนวทางในคดี แต่ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าชันสูตรศพนายเอกยุทธ ซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จากแพทย์นิติเวชผู้เชี่ยวชาญ มีความชัดเจนไม่สามารถบิดเบือนได้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือรถบรรทุกที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ระหว่างที่นายเอกยุทธ ลงจากรถตู้มาขอความช่วยเหลือ บริเวณ ถนนฉลองกรุง 3 เชิงสะพานข้ามคลองลำมะขาม เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจด้วย ที่เบอร์ 081-833-5511
** อย่าเอาเรื่องเอกยุทธโยงการเมือง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ล่าสุดตำรวจได้มีความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวน แต่เป็นการที่น่าเสียดายว่ามีคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล รวมถึงสมาชิกฝ่ายค้าน ออกมาให้ความคิดความเห็นที่เรียกว่า การใส่สี ตีไข่ รวมถึงกลุ่มบุคคลโพสต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือสื่อบางสื่อพยายามบิดเบือนให้เป็นประเด็นทางการเมือง ตนมองว่าเรื่องดังกล่าว คนที่เห็นต่างกับรัฐบาลพยายามใช้ประเด็นดังกล่าวมุ่งโจมตีรัฐบาล นำมาเป็นเรื่องการเมือง ถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และมองว่าคนเหล่านี้หากินกับคนตาย
ทั้งนี้การเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ทางพรรคเพื่อไทย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทุกคน ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม โดยบุคคลที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล พยายามตั้งธงให้โยงกับประเด็นทางการเมือง ตนเชื่อว่าใครมีข้อมูล ก็ควรให้รายละเอียดกับตำรวจ ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ไปให้ข้อมูลกับตำรวจมากกว่าจะมานั่งจินตนาการ ชี้นำสังคม ตนเชื่อว่าสุดท้ายคงมีข้อสรุปกับการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ซึ่งตำรวจคงรวบรวมพยานหลักฐาน ตนไม่อย่าให้นำเรื่องดังกล่าวมาเกี่ยวข้องเป็นประเด็นทางการเมือง หยุดกล่าวหาบิดเบือนข้อเท็จจริง หวังว่าให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความโปร่งใสและความสุจริต.
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ไม่พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีอาการเครียดผิดปกติ ส่วนการย้ายผู้ต้องหาไปยังเรือนจำอื่น ต้องรอให้ศาลมีคำสั่ง รวมทั้งพิจารณาอัตราโทษ และพฤติการณ์อื่นประกอบด้วย
ด้านศปก.สน.วังทองหลาง โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก. บก.น.4 พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส.บช.น. ร่วมประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เร่งคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ เปิดเผยว่า การสอบสวนผู้ต้องหาได้ดำเนินการแล้ว พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ร่องรอยนำชี้ที่เกิดเหตุสอดคล้องกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหา วันนี้ตำรวจจะรวมรวบข้อมูลที่มีอยู่แล้วอย่างละเอียดแล้วมาดูร่วมกับฝ่ายสืบสวนสอบสวนว่าขาดอะไรบ้าง เพื่อทำให้สำนวนมีความละเอียด และรัดกุมมากยิ่งขึ้น
เบื้องต้น การสอบปากคำรวมถึงพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การสอดคล้องกัน แต่ยังไม่ตรงกันในวิธีการฆ่านายเอกยุทธ ว่าใช้วิธีใด ระหว่างรัดคอกับบีบคอ และใครเป็นผู้ฆ่า
ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายที่หายไป อาทิ สร้อยคอทองคำพร้อมพระสมเด็จฯ เลี่ยมทอง ฮาร์ดดิสต์ ของกล้องวงจรปิด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยพล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ได้ใช้ตำรวจน้ำ ดำงมหาทรัพย์สินตามที่ผู้ต้องหาให้การว่านำไปทิ้งที่ใดเป็นเวลา 2 วัน แต่ก็ไม่พบ หากไม่พบทรัพย์สิน จะไม่มีการยืนยันการกระทำผิด ซึ่งทีมพนักงานสอบสวนได้ให้ความสำคัญ แต่เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ จะทำให้สำนวนมีน้ำหนักพออยู่แล้ว อีกทั้งทาง ผบช.น. ได้กำชับให้ประสานไปยังบริษัทติดตั้งกล้องซีซีทีวี เพื่อขอทราบข้อมูลระบบทั้งหมด ขณะนี้หลักฐานต่างๆ ยังกระจัดกระจาย ต้องนำมารวบรวมให้เป็นระบบเสียก่อน
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า ผบช.น. ได้สั่งการให้ติดตามทุกระยะ ซึ่งทางตำรวจจะไปตรวจสอบภูมิหลัง สาเหตุรวมถึงประวัติของผู้ก่อเหตุ และ นายเอกยุทธ เพื่อรวบรวมให้กองปราบปราม นำไปวิเคราะห์หาพฤติกรรมการก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจยังมุ่งประเด็นประสงค์ต่อทรัพย์ และความแค้นส่วนตัว ส่วนประเด็นที่ทนายความยังสงสัยนั้น ยังไม่ส่งมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ตำรวจ แต่พร้อมตรวจสอบหากนำมามอบให้ และหน้าที่ของพนักงานสอบสวน คือ การหาหลักฐานความจริงไม่ต้องกังวลเจ้าหน้าที่มีเป้าหมายในการทำงานชัดเจน หากใครมีเบาะแสให้นำมาให้พร้อมเรียกตัวมาทันที
นอกจากนี้ทาง ผกก.สน.วังทองหลางได้ส่งหนังสือเชิญ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม มาร่วมให้ข้อมูลกับตำรวจ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ว่าจะมาร่วมให้ข้อมูลหรือไม่ หากไม่เดินทางมา ก็จะขอคำแนะนำชี้แจงเพื่อมาประกอบแนวทางในคดี แต่ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าชันสูตรศพนายเอกยุทธ ซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จากแพทย์นิติเวชผู้เชี่ยวชาญ มีความชัดเจนไม่สามารถบิดเบือนได้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือรถบรรทุกที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ระหว่างที่นายเอกยุทธ ลงจากรถตู้มาขอความช่วยเหลือ บริเวณ ถนนฉลองกรุง 3 เชิงสะพานข้ามคลองลำมะขาม เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจด้วย ที่เบอร์ 081-833-5511
** อย่าเอาเรื่องเอกยุทธโยงการเมือง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ล่าสุดตำรวจได้มีความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวน แต่เป็นการที่น่าเสียดายว่ามีคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล รวมถึงสมาชิกฝ่ายค้าน ออกมาให้ความคิดความเห็นที่เรียกว่า การใส่สี ตีไข่ รวมถึงกลุ่มบุคคลโพสต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือสื่อบางสื่อพยายามบิดเบือนให้เป็นประเด็นทางการเมือง ตนมองว่าเรื่องดังกล่าว คนที่เห็นต่างกับรัฐบาลพยายามใช้ประเด็นดังกล่าวมุ่งโจมตีรัฐบาล นำมาเป็นเรื่องการเมือง ถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และมองว่าคนเหล่านี้หากินกับคนตาย
ทั้งนี้การเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ทางพรรคเพื่อไทย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทุกคน ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม โดยบุคคลที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล พยายามตั้งธงให้โยงกับประเด็นทางการเมือง ตนเชื่อว่าใครมีข้อมูล ก็ควรให้รายละเอียดกับตำรวจ ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ไปให้ข้อมูลกับตำรวจมากกว่าจะมานั่งจินตนาการ ชี้นำสังคม ตนเชื่อว่าสุดท้ายคงมีข้อสรุปกับการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ซึ่งตำรวจคงรวบรวมพยานหลักฐาน ตนไม่อย่าให้นำเรื่องดังกล่าวมาเกี่ยวข้องเป็นประเด็นทางการเมือง หยุดกล่าวหาบิดเบือนข้อเท็จจริง หวังว่าให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความโปร่งใสและความสุจริต.