xs
xsm
sm
md
lg

คนขับรถรับฆ่า"เอกยุทธ" ฝังศพหมกเขาพัทลุง อ้างชิงทรัพย์-เตรียมแฉคนบงการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV.ผู้จัดการรายวัน - ตร.หิ้วตัว "สันติภาพ" คนขับรถเอกยุทธ จากแม่กลอง มาแถลงข่าวที่บช.น. ยันไม่รู้เรื่องการหายตัวไป แค่ส่งนายต่อรถไปพม่า ด้านเจ้าของร้านครัวกระแต ชี้พิรุธคนขับคืนก่อน"เอกยุทธ"หายตัว กระวนกระวายใจ ผิดปกติ "ไอ้บอลล์" เปิดปากรับสารภาพฆ่า “เอกยุทธ” อ้างแค่ชิงทรัพย์หมกศพบ้านเกิด “เหลิม” โพล่ง “เอกยุทธ” ตายจริง ก่อนผู้ต้องหารับสารภาพ ปัดเอี่ยวแฉ ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ เหน็บปลาตายน้ำตื้น ถูกฆ่าชิงเงิน 5 ล้าน ด้านผบ.ตชด.สยบข่าวลือพบศพ ภายในค่าย ตชด.434 พัทลุง

วานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวควบคุมตัวนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 25 ปี คนขับรถผู้ต้องสงสัยกรณีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อหลายวันก่อน พร้อมของกลางที่ยึดได้ภายในโฟล์ค สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กทม. ประกอบด้วย เงินสด 66,300 บาท, นาฬิกาข้อมือ, รองเท้าหนังเปื้อนโคลน, บัตรประจำตัวประชาชน และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ นอกจากนี้ ยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือของ นายสันติภาพ ที่อ้างว่าเป็นการเขียนแจ้งให้คนในสำนักงานทราบ 1 ฉบับ

ด้าน นายสันติภาพ กล่าวว่าวันพฤหัสที่ 6 มิ.ย.ตนได้ขับรถพานายไปที่ร้านอาหารกระแตตอน 19.00 น. จากนั้นประมาณ 22.00 - 23..00 น.ก็ขึ้นทางด่วนเพื่อจะพานายเอกยุทธกลับบ้านเมื่อมาถึงที่บ้านนายเอกยุทธหากุญแจเปิดบ้านไม่เจอเลยบอกให้ตนไปหากุญแจหลังตู้เย็นมาสิ เจอกุญสำรอง จึงสามารถเข้าบ้านได้แต่ขณะเดียวกันนายเอกยุทธก็มีการสนทนาทางโทรศัพท์ตลอดเวลา พร้อมกับเดินไปมาตลอดแต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร ต่อจากนั้นนายเอกยุทธได้ใช้ให้ตนไปถอดเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดออกมาให้ซึ่งตนก็ทำตาม นายเอกยุทธจึงได้นำขึ้นรถพร้อมกระเป๋าเดินทาง 1 ใบแล้วใช้ให้ขับรถออกทันที

เมื่อนายเอกยุทธขึ้นรถก็ถามว่ามีที่พักที่ไหนได้บ้างตนก็เลยแนะนำบ้านพี่สาวย่านลาดกระบังซึ่งมีแอร์ทุกห้อง โดยนายเอามือถือไปด้วยจำนวน 4 เครื่อง เมื่อถึงบ้านพี่สาวนายก็เข้าห้องไปพักผ่อนนตามปกติ

ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย.นายก็โทรศัพะท์บอกให้ลูกน้องที่บ้านนำเช็คให้ พอถึงเวลา 10.00 น.ก็เลยไปจอดรอที่ช่อง 8 สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นที่นัดหมาย จากนั้นตนก็ได้ลงไปเอาสมุดเช็คขึ้นมาให้นายเซ็นโดยที่คนนำเช็คมาให้ไม่พบกับเอกยุทธโดยตรง เมื่อนายเอกยุทธเซ็นเสร็จจึงนำเช็คมอบให้ไปขึ้นเงินจ ากนั้นตนก็ขับรถออกไป พอถึงเวลาประมาณ 15.00 น.นายเอกยุทธก็ให้ตนขับรถพามารับเงินที่ช่อง 8 เหมือนเดิมหลังจากนั้นมีพนักงานผู้หญิงชื่อ "อิง" นำเงินสดมาให้โดยใส่ซองเอกสารสีน้ำตาลใบใหญ่และใส่ถุงพลาสติกอีกชั้นโดยที่ตนไม่รู้ว่าข้างในนั้นคือเงินสด จากนั้นตนก็นำขึ้นมาวางให้นายเอกยุทธที่เบาะด้านหน้าซ้ายนายเอกยุทธ

เมื่อตนขึ้นรถและขับออกจากสนามบินสุวรรณภูมิจากนั้นนายเอกยุทธก็บอกตนว่าขับลงใต้ได้ไหม ผมก็บอกว่าลงได้สบายครับบ้านผมอยู่พัทลุงอยู่แล้ว ก็เลยมีการแวะเติมน้ำมันก่อนจำนวน 2 พันบาทที่ย่านมอเตอร์เวย์ ซึ่งตนได้ยินนายเอกยุทธคุยโทรศัพท์กับปลายทางว่า "จะมารับหรือยังเดี๋ยวกูจะไปพม่า"

หลังจากนั้นตนจึงขับมาตามทางจนถึงถนนบายพาสเส้นปราณบุรี นายเอกยุทธได้สั่งให้จอดรถ โดยมีรถเก๋งสองคันสีดำ จอดต่อท้ายรถตู้จนไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน จากนั้นนายเอกยุทธเอกยุทธได้ลงจากรถแล้วยื่นเงินให้ตน 1 พันบาทแล้วบอกกับตนว่าให้กลับไปพักผ่อนก่อนเดี๋ยวค่อยมาทำงานตอนผมกลับมา

"เห็นว่านายถือกระเป๋าไปหนึ่งใบลงไปขึ้นรถเก๋งไป จากนั้นตนก็คิดว่าเป็นวันหยุดตนเองเลยคิดว่าขับรถกลับบ้านที่จ.พัทลุงเพื่อจะโชว์ญาติ เมื่อกลับไปถึงไม่เจอใครอยู่จึงขับรถกลับมากรุงเทพฯ ซึ่งระหว่างกลับมาระหว่างทางก่อนถึงมหาชัย ยางรถเกิดแตกจึงแวะปั๊มน้ำมันที่อยู่ก่อน จ.สมุทรสงคราม 5 ก.ม.เพื่อจะปะยางเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวานนี้ (10 มิ.ย.) แล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ซึ่งตนตกใจมากก่อนถูกนำตัวมาสอบสวนโดยที่ตนไม่ทราบว่านายเอกยุทธหายไปไหนจริงๆ"นายสันติภาพระบุ

นอกจากนี้ตนยังได้เขียนบันทึกที่จะเตรียมมาแปะไว้ที่ออฟฟิตว่า "ถึงบริษัทเน็ตอีสท์ ผมไม่ได้หนีไปไหนแต่นายสั่งให้ผมหลบไปสักพักแล้วค่อยกลับมา ผมไปส่งนายที่ที่นายสั่งว่าห้ามบอกใคร และให้ผมย้อนกลับมาเมื่อนายกลับมา ลงชื่อ BALL"

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมมีการเขียนจดหมายแจ้งไว้ นายบอลกล่าวว่าตนกะเอามาติดไว้ที่พวงมาลัยเวลานำรถมาจอดไว้ที่บริษัทเพื่อคนอื่นจะได้ไม่ต้องถามหรือเป็นกังวล

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่่ปักเชื่อในคำให้การของนายสันติภาพแต่จากกการตรวจสอบพยานเป็นไปตามคำให้การของนายสันติภาพเบื้องต้น ตอนนี้ขอเวลาให้ตำรวจชุดสืบสวนประมาณ 1- 2 วันในการติดตามพยานหลักฐานว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เพราะอาจมีประเด็นที่เกี่ยวข้องหลายอย่างตามมา เช่นเงินสด 5 ล้านประกอบกับมีคนมารับนายเอกยุทธไปด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต้องใช้เวลาสืบสวนก่อนจะสรุปได้

--พี่สาวไม่เชื่อคำให้การคนขับรถ

ทางด้านนางสุภากร แหวนหล่อ อายุ 56 ปี พี่สาวนายเอกยุทธเปิดเผยว่าโดยส่วนตัวตนเป็นคนไม่ชอบการเมืองเกลียดไม่ยุ่งแต่น้องชายชอบเรื่องการเมืองซึ่งก็เป็นเรื่องของเขา ผู้สื่อข่าวถามว่าเชื่อหรือไม่ว่านายเอกยุทธถูกอุ้ม

นางสุภากร กล่าวว่ายังไม่รู้เหมือนากัน 50-50 รู้แต่ว่ารู้ว่าน้องชายหายไปกับนายสันติภาพแล้วหายตัวไป แล้วจะให้คิดอย่างไรต้องโมโหเป็นธรรมดา ที่ผ่านมาถ้าจะไปไหนมาไหนก็จะบอกถ้าจะเดินทางไปไหนไกล ๆ ก็จะบอกแม้จะไม่บอกล่วงหน้า ที่ผ่านถ้าเดินทางไกล ๆ จะไม่ไปรถยนต์แน่นอนเพราะน้องชายไม่ค่อยนั่งรถและเสียเวลา

เมื่อถามว่าไปพม่าบ่อยไหม นางสุภากรกล่าวว่าเขาไปมาทั่วโลกแล้ว ด้วยวิสัยแล้วไม่มีการนั่งรถยนต์แน่นอน ที่ผ่านมาถ้าหากไม่รับโทรศัพท์นายเอกยุทธก็จะติดต่อกลับภายใน 5 นาที ซึ่งขณะนี้แม่ที่มีอายุ 80 ปีแล้วเครียดมากเพราะลูกชายหายไปทั้งคน ส่วนตนมีหน้าที่ติดตามน้องที่หายไปซึ่งตนเป็นคนแจ้งความเอง

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการอุ้มตนเองหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้เพราะตามคำให้การของนายสันติภาพเบื้องต้น ภาพวงจรปิดสถานที่ต่าง ๆ ตรงกับคำกล่าวอ้างของนายสันติภาพ อย่างไรก็ตามต้องพบเจอนายเอกยุทธเสียก่อนขณะนี้ญาติก็ไม่ทราบ จึงอยากให้ทางญาติรีบแจ้งให้ทราบทันทีหากนายเอกยุทธติดต่อกลับมาเพื่อความจริงจะได้คลี่คลายโดยเร็ว

--- เจ้าของร้านครัวกระแตชี้พิรุธ


ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังร้านครัวกระแต เลขที่ 226 ถนนประดิพันทธ์ ตั้งอยู่ระหว่างซอยประดิพัทธ์ 18 กับ 20 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นร้านที่นายเอกยุทธ เดินทางมารับประทานอาหารพร้อมด้วยนายสันติภาพ คนขับรถประจำตัว เมื่อวันที่ (6 มิ.ย.) ที่ผ่านมาก่อนจะหายตัวไปอย่างปริศนา ผู้สื่อข่าวได้พบกับนางเกษมศรี วรรณโรจน์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านครัวกระแตจึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์วันที่นายเอกยุทธมารับประทานอาหารที่ร้าน

นางเกษมศรี ได้เปิดเผยภาพวงจรปิดถึงอาการผิดปกติของนายสันติภาพก่อนกล่าวว่า สามีตนนายสุพจน์ หรือพจน์ วรรณโรจน์ อายุ 54 ปี เป็นเพื่อนกับคุณเอกยุทธ หรือเรียกว่าคุณป๊อดมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แล้ว แต่เนื่องจากไม่เจอกันมาเป็นเวลาหลายปี เพราะตนกับสามีเพิ่งมาเปิดร้านอาหารดังกล่าวได้เพียง 6 ปี จนกระทั่งมาเจอกันให้หลังเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา จะมาพบปะทานอาหารที่ร้านกันเป็นประจำกับกลุ่มเพื่อนสนิท ซึ่งวันเกิดเหตุทางสามีตนได้โทรศัพท์นัดกับคุณเอกยุทธในช่วงเวลากลางวันว่าให้มารับประทานอาหารที่ร้านในช่วงเย็น จะทำเมนูโปรดไว้ให้เป็นหัวพุงปลาช่อนนา จากนั้นคุณเอกยุทธก็เดินทางมาถึงร้านเวลาประมาณ 18.10 น. ขึ้นไปรับประทานอาหารบนชั้น 2 กับสามีตนและเพื่อนรวม 5 คน

นางเกษมศรี กล่าวอีกว่า ส่วนนายสันติภาพคนขับนั่งรออยู่ด้านล่างเพียงลำพัง แต่ตนสังเกตเห็นความผิดปกติของนายสันติภาพ ปกติจะพูดคุยและยกมือไหว้ตนแต่วันนั้นกลับไม่ทักทายดูเงียบขรึม เวลามาจะสั่งอาหารรับประทานเต็มโต๊ะแต่กลับสั่งเพียงจานเดียวและยังทานไม่หมดอีกด้วย พร้อมกับคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา และมีการเดินเข้าห้องน้ำอยู่ 3-4 รอบ จนเวลาประมาณ 20.02 น. เห็นนายสันติภาพมีท่าทางลุกลี้ลุกลนแล้วขับรถโฟล์คคันดังกล่าวออกไปหลังจากนั้นประมาณ 15 นาที ได้ขับรถกลับเข้ามาด้วยการถอยท้ายรถคันดังกล่าวจากปากซอยระยะห่างประมาณ 50 เมตรจนมาถึงหน้าร้าน ลักษณะหันหน้ารถออกไปด้านถนนเพื่อเตรียมออกรถได้ทันที ตนสงสัยว่าปกติจะขับเข้ามาแล้วค่อยกลับรถออกไปเพราะเนื้อที่ไม่ได้แคบขนาดต้องถอยรถมาจอดแบบนี้ จากนั้นนายสันติภาพก็มารออยู่ด้านหน้าร้านไม่เข้ามาในร้านอีกเลย เวลาประมาณเกือบ 5 ทุ่ม คุณเอกยุทธลงมาพร้อมเพื่อนเพื่อจะเดินทางกลับบ้านนายสันติภาพก็มาถือของไปไว้ในรถให้เท่านั้น สามีตนก็เป็นคนไปส่งก่อนขึ้นรถกลับบ้านย่านทาวน์อินทาวน ซึ่งทราบจากสามีว่านายเอกยุทธ์ได้มีการนัดแนะกับเพื่อนไปตีกอล์ฟในศุกร์และไปงานบวชลูกชายตนเองในวันอาทิตย์ และไม่มีทีท่าว่านายเอกยุทธจะเดินทางออกนอกประเทศหรือไปที่ไหนแต่อย่างใด


---"ไอ้บอลล์"สารภาพฆ่า"เอกยุทธ" เพื่อชิงทรัพย์

รายงานข่าวจากแหล่งข่าวในชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแจ้งว่า ล่าสุด นายสันติภาพ ได้รับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่านายเอกยุทธ เพื่อต้องการชิงทรัพย์โดยทำการยิงด้วยปืนจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปฝังดินไว้ในพื้นที่ จ.พัทลุง รอยต่อ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีเพื่อนสนิทคือนายเปี๊ยก และนายชวลิต ร่วมลงมือก่อเหตุนี้ด้วย โดยสาเหตุเพราะโกรธแค้นที่นายเอกยุทธ ไล่แฟนสาวออกจากงานจึงต้องการล้างแค้นและชิงทรัพย์ด้วย

หลังจากนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ให้ฝ่ายสืบสวนควบคุมตัวนายสันติภาพ ไปยังกองบินตำรวจ บางเขน เพื่อนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังอ.หาดใหญ่ โดยมีการประสานให้ พล.ต.ท.พิศิษฎ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 จัดชุดสืบสวนรอรับตัวเพื่อนำไปชี้ยังจุดที่เกิดเหตุต่างๆและจุดฝังศพ โดยทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเดินทางไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ( 12 มิ.ย.) ในช่วงเช้าต่อไป

--"เหลิม"นกรู้ "เอกยุทธ"ปลาตายน้ำตื้น ไม่เกี่ยวโฟร์ซีซั่น


ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการหายตัวไปของ นายเอกยุทธว่า ตนติดตามสถานการณ์ตลอด ในความเป็นตำรวจตนตั้งข้อสันนิษฐานว่า 1.เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด 2.หากนายเอกยุทธจะสร้างสถานการณ์ตนไม่เชื่อ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร และ 3.ถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์ ซึ่งตนให้น้ำหนักถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์มากกว่า เหตุผลเพราะเงินจำนวน 5 ล้านบาทเป็นจำนวนที่มาก

“เรื่องนี้ผมได้หารือกับพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นมือสืบสวนสอบสวน ขณะที่ผมเองทิ้งมานาน สุดท้ายสองคนเห็นตรงกันว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่เกี่ยวข้อง นายเอกยุทธไม่สร้างสถานการณ์ ขอฟันธงว่าถูกฆาตกรรม และได้บอกตำรวจที่เกี่ยวข้องให้เรียกคนขับรถนายเอกยุทธมาสอบใหม่ แล้วเรียงสถานการณ์ให้ละเอียด ขณะนี้ทราบว่าตำรวจได้เชิญคนขับรถคนดังกล่าวมาสอบใหม่แล้ว ส่วนผลจะเป็นอย่างไรยังไม่ทราบ ผมอาจจะวิเคราะห์ผิดก็ได้ แต่วิเคราะห์แบบตำรวจ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่มองว่าเป็นการฆาตกรรมน่าจะมาจากประเด็นอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เพราะเงินจำนวน 5 ล้านบาท ไม่มีประเด็นอื่น คนขับรถของนายเอกยุทธเพิ่งมาอยู่ไม่ถึงปี ไม่มีความแนบแน่น ไม่มีความใกล้ชิด ไม่มีเรื่องอื่นเลย และเรื่องสร้างสถานการณ์ตนไม่เชื่อ เพราะหากไปสัปดาห์สองสัปดาห์กลับมาเขาจะทำอย่างไร และขอยืนยันอีกครั้งตนไม่มีการใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายเอกยุทธออกมาแฉเรื่อง ว.5 โฟร์ซีซั่น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไร้สาระ เป็นสีสัน เพราะไม่มีคนอย่างนายเอกยุทธ ก็จะคิดถึงกัน ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองแน่นอน

“ผมวิเคราะห์ว่าการสร้างสถานการณ์ก็ไม่มีเหตุผลที่จะสร้าง เพราะดังอยู่แล้ว ถ้าสร้างพอเขาออกไปแล้วกลับมา เขาจะเสียคนเลย แต่คนขับรถนั้นให้การผิดปกติ เพราะทำไมต้องไปส่งที่ปราณบุรี ผมคิดว่าคนขับรถทำเอง เพราะต้องการเงิน”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นายเอกยุทธเป็นถึงนักธุรกิจใหญ่ เหตุใดจึงมาพลาดกับคนขับรถได้ รองนายกฯ กล่าวว่า เพราะเชื่อใจลูกน้อง ปลาตายน้ำตื้น ตนเชื่อว่าเราเกิดมาเป็นคนฉลาดที่สุดจะโง่ที่สุด รอบคอบที่สุดจะประมาทที่สุด นี่คือธรรมชาติ และระยะหลังนายเอกยุทธมีพฤติกรรมห้าวยิ่งกว่าคนที่ผ่านสมรภูมิรบมาเสียอีก

เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าเป็นการปกป้องเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ เพราะตำรวจบางคนเองเคยมีปัญหากับนายเอกยุทธ รองนายกฯ กล่าวว่า ปัญหาอย่างนั้นไม่ถึงขั้นฆ่าแกงกัน เถียงกันไปเถียงกันมา ฟ้องกันไปฟ้องกันมา ซึ่งตนเรียนอย่างนี้ว่าคนเป็นตำรวจมีการฝึกพื้นฐานในด้านเข้าใจถูกผิด ฝึกให้รู้จักรับใช้พี่น้องประชาชน และตนได้รับการฝึกให้เป็นทาสประชาชน ส่วนที่นายเอกยุทธเคยมีปัญหากับตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้นก็ไม่ขัดแย้งรุนแรง นายเอกยุทธช่างพูด เอาอย่างนี้ตอนนายเอกยุทธไปนั่งโฟร์ซีซั่น คนมาเที่ยวยังด่าเขาทั้งร้าน ไปจองโต๊ะหมด ไปโต๊ะเดียวแต่จองตั้งเจ็ดโต๊ะ

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะคนอย่างนายเอกยุทธยังโดนอุ้มได้ รองนายกฯ กล่าวว่า ความปลอดภัยทุกอย่างเรียบร้อย แต่รัฐบาลดู 90 เปอร์เซ็นต์ พี่น้องประชาชนต้องระแวดระวัง 10 เปอร์เซ็นต์

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่กรณีนายเอกยุทธจะถูกโยงมาเป็นเงื่อนไขโจมตีรัฐบาล เพราะนายเอกยุทธเคยมีปัญหาเรื่องว.5 โฟร์ซีซั่น รองนายกฯ กล่าวว่า คนที่โจมตีไม่รู้สาเหตุการตาย ถ้าไม่รู้สาเหตุการตายก็ไปวิเคราะห์วิจารณ์ ถ้ารู้สาเหตุการตายแล้วรัฐบาลจะไปเกี่ยวอะไรด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนสั่งตำรวจประชุมทางโทรศัพท์ตั้งแต่เช้า เรื่องอย่างนี้รัฐบาลไม่พิสูจน์ทราบได้อย่างไร เรื่องสำคัญ หากเคลียร์ไม่ได้รัฐบาลจะยุ่ง เพราะมีเรื่องโฟร์ซีซั่นส์อยู่

“ผมตั้งธงต้องวิเคราะห์ให้แตกว่า ทำไมถึงไปที่ปราณบุรี แล้วอยู่ๆ บอกมีรถมารับไป ถามว่ารู้จักไหมว่าใครก็บอกไม่รู้จัก ไอ้นี่โกหก เพราะคุณเป็นคนขับรถ เจ้านายจะไปไหนต้องบอกคุณ และอีกอันที่ผมรู้มาอินไซด์คือ นายเอกยุทธเคยโทรศัพท์หาญาติสนิท น้อง พี่ และคุณแม่ แต่ครั้งนี้ไม่ได้โทรเลย อย่างไรก็ตาม หากผมวิเคราะห์ผิดอย่างโกรธผมนะ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบร.ต.อ.เฉลิม ที่ตึกบัญชาการ 1 เพื่อรายงานความคืบหน้าในคดีดังกล่าว

----ผบช.ตชด.โต้ข่าวพบศพ สยบข่าวลือ

ที่จังหวัดพัทลุงรายงานข่าวแจ้งถึงกรณีการหายตัวไปของนายเอกยุทธ และมีนายสันติภาพ เป็นคนขับรถที่บ้านเกิดอยู่ในพื้น ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับสัญญาณโทรศัพท์ได้ในพื้นที่หมู่ 3 บริเวณค่ายทหารช่าง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสำนักงานตำรวจภาค 9 ต้องประสานความร่วมมือเพื่อเข้าตรวจสอบในค่ายทหาร และตรวจค้นบ้านญาติของนายสันติภาพ ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ตามที่ได้เสนอข่าวมาแล้วนั้น

พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า ในขณะนี้ตนได้ระดมกำลังทั้งใน และนอกเครื่องแบบออกหาตัว นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ตามพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นหนักในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ และ อ.ป่าพะยอม รวมทั้งพื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างพื้นที่ จ.ตรัง จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช และจากการค้นหาตัวของ นายเอกยุทธ นั้น ตร.ยังไม่พบตัว หรือศพนายเอกยุทธ แต่อย่างใด แต่ทาง ตร.ก็ไม่ได้ลดความพยายามในการค้นหาตัวเช่นกัน โดยตนได้สั่งการให้ ตร. รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันค้นหาตัวนายเอกยุทธ ทุกพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ทางด้าน พ.ต.ต.จักรพันธ์ พยับไชยกุล ผบ.ตชด.434 พัทลุง กล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวระบุว่า มีการพบศพนายเอกยุทธ ในกองร้อย ตชด.434 พัทลุง ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ ม.15 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่มีการพบศพดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งในขณะนี้ตนได้มอบหมายให้กำลัง ตชด.434 พัทลุง ออกไปร่วมกับกำลัง ตร.ภ.จว.พัทลุง ออกค้นหาตัว หรือศพนายเอกยุทธ แล้วเช่นกัน โดยเน้นหนักในพื้นที่รอยต่อในพื้นที่ตรัง พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลัง ตชด.434 พัทลุง ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองออกจับกุมผู้กระทำผิดการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และยึดของกลางมาหลายรายการแล้ว
-----------------------
“ทนายสุวัตร”ไม่เชื่อคนขับรถสังหาร“เอกยุทธ”แค่ชิงทรัพย์ ชี้มีคนบงการ และวางแผนเป็นทีมงาน “สันติภาพ”เกลือเป็นหนอน รับเงิน 2 ทาง เหตุติดหนี้พนัน จับพิรุธตอนแรกบอกยิง ก่อนกลับลำบอกบีบคอจนตาย เผยกำลังทำงานสำคัญ เตรียมเปิดชื่อคนบงการไม่เกินพรุ่งนี้เช้า

วันนี้(11 มิ.ย.)นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ในฐานะทนายความของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ให้สัมภาษณ์รายการ News Hour ทางเอเอสทีวี กรณีการอุ้มฆ่านายเอกยุทธว่า ในฐานะที่ตนเป็นนายทนายความของนายเอกยุทธ จึงขอส่งคนเข้าร่วมสอบปากคำนายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถของนายเอกยุทธด้วย แต่ตนยังไม่เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่นายสันติภาพให้การสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ จนกว่าจะได้เห็นศพ ซึ่งขณะนี้ตนและทีมงานกำลังทำเรื่องสำคัญบางอย่างอยู่ แต่แนวโน้มเป็นที่ชัดเจนว่านายเอกยุทธคงถูกฆ่าแน่นอน โดยนายสันติภาพเกลือเป็นหนอนให้กับทีมอุ้มฆ่า โดยเอากุญแจให้ เพื่อแลกกับเงิน เนื่องจากนายสันติภาพติดการพนันงอมแงม และถูกนายเอกยุทธจับได้ว่ายักยอกเงิน 1 ล้านกว่าบาท

นายสุวัตรกล่าวต่อว่า ในวันที่นายเอกยุทธถูกอุ้มไปฆ่านั้นเป็นจังหวะที่นายเอกยุทธไปกับนายสันติภาพ 2 คน ที่ร้านกระแต และมีความผิดปกติที่นายสันติภาพขับรถออกไปจากร้านอาหาร ไปวนอยู่ข้างนอก ตนก็ถามว่าทำไมต้องเอารถออกไป นายสันติภาพก็อ้างว่าไม่ชอบอาหารร้านนี้ จึงขับรถออกไปหารับประทานข้างนอก ซึ่งก็เป็นเพียงข้ออ้าง เพราะตลาดสะพานควายก็อยู่ไม่ไกลจากร้านกระแต มีของกินมากมาย สามารถเดินไปหาอะไรกินได้

นายสุวัตรกล่าวว่า คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะชี้ชัดว่าทีมฆ่าเป็นใคร ใครเป็นผู้บงการ ซึ่งประมาณ 4 ทุ่มคืนนี้ หรือพรุ่งนี้เช้าจะมีความชัดเจน ต้องระบุให้ได้ว่า ใครเป็นผู้ว่าจ้าง ใครวางแผนร่วมกันบ้าง แต่ขณะนี้เชื่อว่านายสันติภาพรับเงิน 2 ทาง โดยรับเงินจากผู้บงการด้วย เมื่อชัดเจนแล้วจะบอกว่าทีมฆ่าเป็นใคร เป็นคนใหญ่คนโตที่อยากให้นายเอกยุทธตาย แต่ตนยังพูดขณะนี้ไม่ได้
เพราะจะทำให้งานสำคัญเสียหาย

นายสุวัตรกล่าวอีกว่า ตนรู้จักนายสันติภาพพอสมควร และรู้ว่าไม่ใช่คนฉลาด จึงไม่สามารถวางแผนทำคนเดียวได้แน่นอน และตอนให้ปากคำก็มีพิรุธ ตอนแรกบอกว่ายิง ทีหลังบอกว่าบีบคอ เป็นการโกหกดิ้นไปดิ้นมา ซึ่งถ้ายิงก็ต้องพยานหลักฐาน มีเขม่าดินปืน ส่วนการค้นหาศพนายเอกยุทธน่าจะพบภายในคืนนี้

นายสุวัตรระบุว่า การวางแผนฆ่านายเอกยุทธครั้งนี้เป็นการกระจายงานออกไปทำหลายสาย อย่างไรก็ตาม ได้รับความร่วมมือจาก บชน.เป็นอย่างดี ตอนแรกก็มีความสงสัย แต่วันนี้เขาได้แสดงความจริงใจให้เราร่วมสอบคนขับรถด้วย เพราะฉะนั้นทีมที่ทำคงไม่ใช่ตำรวจทางสาย บชน. แต่เป็นสายอื่น ซึ่งต้องหาให้ได้ว่าใครทำ

ส่วนที่ ตชด.พัทลุงนั้น เป็นแค่ปลายทางในการอำพรางศพ และพ่อของนายสันติภาพก็เป็นทหาร น่าจะมีส่วนร่วมวางแผนด้วย และเป็นทีมใหญ่ ทั้งนี้เชื่อว่า นายสันติภาพคงไม่ถูกฆ่าตัดตอน เพราะอยู่ในมือพนักงานสอบสวนแล้ว นอกจากว่าจะผูกคอตายในห้องขังเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแลให้ดี

นายสุวัตรกล่าวเพิ่มเติมว่า การสังหารนายเอกยุทธน่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่รอให้ชัดเจนมากกว่านี้ก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น