วานนี้ (10 มิ.ย.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี 2555 กรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ใช้อัตราการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองฯ เห็นชอบ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและไม่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนี้
1.ข้าว 1,113 บาทต่อไร่2. พืชไร่ 1,148 บาทต่อไร่ 3. พืชสวนและอื่น ๆ 1,690 บาทต่อไร่ 4. กรณีพืชสวนและอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทำให้ชะงักการเจริญเติบโตแต่ไม่ตายและยังอยู่ในสภาพฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมได้ ให้ช่วยเหลือเฉพาะค่าปุ๋ย 50% ในอัตราไร่ละ 605 บาท และ5. การช่วยเหลือด้านประมงและด้านปศุสัตว์ ให้ใช้อัตราตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี
รายงานข่าวแจ้งว่า ปี 2553และปี 2554 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาจ่ายเงินค่าชดเชยความเสียหายตามที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ ซึ่งประกอบด้วย ข้าวจะได้รับการชดเชย 2,098 บาท พืชไร่จ่ายชดเชย 2,921 บาท พืชสวนได้ 4,800 บาทต่อไร่
อีกด้านนนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือด้านหนี้สินของกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยเมื่อปี 2554 ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม. คณะที่ 3 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานเสนอ โดยให้จำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เป็นสูญ โดยรัฐบาลรับภาระชำหนี้ให้แทนในกรณีที่สมาชิกเสียชีวิต ส่วนกรณีที่สมาชิกไม่เสียชีวิต แต่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้พักการชำระหนี้เงินกู้เป็นเวลา 3 ปี สำหรับหนี้เงินกู้ที่มีอยู่เดิมก่อนประสบภัย
นับตั้งแต่วันที่ประสบอุทกภัย โดยงดคิดดอกเบี้ย รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ตามอัตราที่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเรียกเก็บจากสมาชิก ส่วนเงินกู้สัญญาใหม่เพื่อการฟื้นฟูอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต สัญญา/รายละไม่เกิน 100,000 บาท รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี นอกจากนี้ยังเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 715 ล้านบาท เพื่อจ่ายชดเชยดอกเบี้ยการพักชำระหนี้เดิมก่อนเกิดอุทกภัย และลดภาระหนี้เงินกู้ใหม่ เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพให้สมาชิกที่ประสบอุทกภัย 2554 เป็นปีที่ 3 ของการดำเนินตามมาตรการ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์รับความเห็นไปดำเนินการต่อไป
1.ข้าว 1,113 บาทต่อไร่2. พืชไร่ 1,148 บาทต่อไร่ 3. พืชสวนและอื่น ๆ 1,690 บาทต่อไร่ 4. กรณีพืชสวนและอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทำให้ชะงักการเจริญเติบโตแต่ไม่ตายและยังอยู่ในสภาพฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมได้ ให้ช่วยเหลือเฉพาะค่าปุ๋ย 50% ในอัตราไร่ละ 605 บาท และ5. การช่วยเหลือด้านประมงและด้านปศุสัตว์ ให้ใช้อัตราตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี
รายงานข่าวแจ้งว่า ปี 2553และปี 2554 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาจ่ายเงินค่าชดเชยความเสียหายตามที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ ซึ่งประกอบด้วย ข้าวจะได้รับการชดเชย 2,098 บาท พืชไร่จ่ายชดเชย 2,921 บาท พืชสวนได้ 4,800 บาทต่อไร่
อีกด้านนนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือด้านหนี้สินของกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยเมื่อปี 2554 ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม. คณะที่ 3 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานเสนอ โดยให้จำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เป็นสูญ โดยรัฐบาลรับภาระชำหนี้ให้แทนในกรณีที่สมาชิกเสียชีวิต ส่วนกรณีที่สมาชิกไม่เสียชีวิต แต่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้พักการชำระหนี้เงินกู้เป็นเวลา 3 ปี สำหรับหนี้เงินกู้ที่มีอยู่เดิมก่อนประสบภัย
นับตั้งแต่วันที่ประสบอุทกภัย โดยงดคิดดอกเบี้ย รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ตามอัตราที่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเรียกเก็บจากสมาชิก ส่วนเงินกู้สัญญาใหม่เพื่อการฟื้นฟูอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต สัญญา/รายละไม่เกิน 100,000 บาท รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี นอกจากนี้ยังเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 715 ล้านบาท เพื่อจ่ายชดเชยดอกเบี้ยการพักชำระหนี้เดิมก่อนเกิดอุทกภัย และลดภาระหนี้เงินกู้ใหม่ เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพให้สมาชิกที่ประสบอุทกภัย 2554 เป็นปีที่ 3 ของการดำเนินตามมาตรการ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์รับความเห็นไปดำเนินการต่อไป
