xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ปล่อยไทยใหญ่ ป่วนเวทีปชป. “มาร์ค”สั่งเอาผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (10มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว 4 ผู้ต้องหาขณะกำลังยิงหนังสติ๊กใส่ผู้ร่วมงานเวทีผ่าความจริงจาก สภ.เหมืองจี้ ต.บ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูนว่า ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาก็รับสารภาพว่าใช้หนังสติ๊กยิงไปทางกลุ่มคนเสื้อสีแดงจริง อันเป็นลักษณะของการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนในที่สาธารณะ
ผู้ต้องหา 3 รายแรก เป็นบุคคลต่างด้าวที่ไม่พกใบอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อขอทำการตรวจสอบได้ทันที พิจารณาแล้วเป็นคดีอยู่ในอำนาจเปรียบเทียบปรับได้ จึงทำการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้ง 4 ตามข้อกล่าวหา และได้ทำการปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว โดย 3 ผู้ต้องหาต่างด้าวถูกปรับในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวปรับคนละ 2,000 บาท ข้อหากระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ปรับคนละ 500 บาท ส่วนผู้ต้องรายที่ 4 ซึ่งเป็นนายจ้างถูกปรับโทษสูงสุด 1,000 บาท
สำหรับ ผู้ต้องหา 4 รายประกอบด้วย นายชาย ยุ้น อายุ 20 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 130/4 หมู่ที่ 6 ต.ป่าสัก อาชีพรับจ้าง , นายชายทูน หม่อง อายุ 20 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 130/4 หมู่ ที่ 6 ต.ป่าสัก อาชีพรับจ้าง , นายชาย เครือ อายุ 19 ปี บ้านพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 130/4 หมู่ที่ 6 ต.ป่าสัก อาชีพรับจ้าง และนายวุฒิภัทร มาบุญผา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/4 หมู่ที่ 6 ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน อาชีพรับเหมาก่อสร้าง พร้อมของกลางประกอบด้วย หนังสติ๊ก จำนวน 3 อัน หมวกคลุมเปิดหน้า 3 ใบ ถุงย่ามแบบสะพาย 2 ใบ ก้อนหิน ก้อน ลูกกลม บรรจุในถุงย่าม เป็นอาวุธประกอบกระทำความผิด
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานกฎหมายของพรรคว่า ที่ประชุมได้พิจารณาองค์ประกอบความผิดที่จะดำเนินการเอาผิดกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ก่อกวนเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ในทุกเวที โดยแยกประเภทความผิดคือ 1. กลุ่มที่ทำความผิดพ.ร.บ.การจราจร และพ.ร.บ.ทางหลวง เพราะมีการปิดถนน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้เคยใช้กฎหมายนี้จัดการกับผู้ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ที่จ.ปทุมธานี และศาลเคยสั่งลงโทษมาแล้ว 2. กลุ่มที่ทำความผิดว่าด้วยพ.ร.บ.การโฆษณา 3. กลุ่มกระทำผิดกฎหมายอาญา ที่มีการมั่วสุมเกิน 10 คน และบังคับข่มขู่ขืนใจ ละเมิดสิทธิ์คนอื่น ซึ่งได้ให้ทีมกฎหมายไปร่างหนังสือเพื่อนำไปดำเนินการกล่าวโทษในทุกสถานที่เกิดเหตุ เช่น ที่จ.ลำพูนก็จะไปแจ้งความที่สภอ.ป่าซาง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่กระทำผิด โดยใช้อาวุธ เช่น ลูกแก้ว หัวน็อต ยิงเข้ามายังเวทีปราศรัย จนประชาชนได้รับบาดเจ็บ โดยทางพรรคจะติดต่อไปยังผู้ที่บาดเจ็บเพื่อมาเป็นพยานในคดีนี้ และยังมีกลุ่มที่จัดวิทยุชุมชน ปลุกระดมให้ประชาชนออกมาพังเวทีผ่าความจริง โดยพรรคมีคลิปเสียง ทั้งวิทยุชุมชนที่จ.เชียงใหม่ และจ.ลำพูน โดยพรรคจะรวบรวมหลักฐานยื่นต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ให้ดำเนินการกับวิทยุชุมชนเหล่านี้ด้วย
ในส่วนการดำเนินการกับฝ่ายการเมือง ทางพรรคจะยื่นหนังสือต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ด้วย เพราะบางเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ดูแลให้ผู้ชุมนุมอยู่ในขอบเขตกฎหมายอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาพรรคได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อกวนเวทีผ่าความจริงไปแล้ว เช่น ที่จ.ศรีสะเกษ และจ.พะเยา แต่ที่จังหวัดดำเนินการต่อไป คือ จ.สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และ จ.ลำพูน ทั้งนี้มีการประเมินว่าเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีพฤติกรรมที่รุนแรงขึ้น เพราะเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นที่รับรู้ของประชาชนในวงกว้างขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์มาสกัดกั้น โดยในทุกที่มักมีแกนนำเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่อาศัยคนเสื้อแดงในชุมชนมาร่วมประปราย อีกทั้งการปราศรัยก็เป็นการใช้คำพูดเดิมๆ จึงถือว่าเป็นกลุ่มเฉพาะกิจตั้งใจมาก่อกวนโดยเฉพาะ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จ.ลำพูนที่มีการใช้ลูกแก้ว หัวน็อต เป็นอาวุธเดียวกับที่เคยใช้ในการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ประชาชนเริ่มอึดอัด และมีท่าทีออกมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงถึงกรณีที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ลำพูน ระบุได้จับกุมผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่เป็นชายชาวไทยใหญ่ ที่มาร่วมฟังการปราศรัย จำนวน 3 คน ที่ยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนเสื้อแดง ในเวทีผ่าความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จ.ลำพูนว่า ตนเห็นว่ามีความผิดปกติ และไม่มีเหตุผล พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าเราไม่ได้รังเกียจชาวไทยใหญ่ แต่ไม่เข้าใจว่า ชาวไทยใหญ่จะมาฟังนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไปทำไม จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพราะหากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เอียงขนาดนี้ เชื่อว่าอีกไม่นานประชาชนจะลุกฮือขึ้นมาเพื่อเรียกร้องผู้นำประเทศ ที่มีความเป็นธรรม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า คงกลัวความจริงว่ารัฐบาลทำหลายอย่างที่ไม่ถูกต้อง จึงพยายามสกัดกั้น ซึ่งเป็นการฟ้องถึงความไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกล้าดำเนินคดี เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง ขณะที่รัฐบาลก็ต้องส่งสัญญาณให้ชัดว่าไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ที่ผ่านมาตนเคยพูดคุยกับทูต หรือชาวต่างประเทศ เขาก็เริ่มแสดงความห่วงใยต่อความไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศไทย จากการที่ผู้สนับสนุนรัฐบาลขัดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองของฝ่ายอื่นๆ
ส่วนที่มีกลุ่มหน้ากากขาวออกมาชุมนุมมากขึ้นนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีความเป็นห่วง ถ้ารัฐบาลยังไม่ทบทวนท่าที หากพยายามปิดกั้นการแสดงออก ก็มีโอกาสเกิดการเมืองบนถนนอีก ซึ่งรัฐบาลต้องมีจิตใจ จิตสำนึกเป็นประชาธิปไตยในการเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงออก รวมทั้งต้องไม่ทำในสิ่งที่เป็นปัญหาความขัดแย้ง ปมประเด็นความขัดแย้ง แต่มุ่งแก้ปัญหาของประเทศ เชื่อว่าจะไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งความรุนแรงได้
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ไม่สบายใจ ในกรณีคนเสื้อแดงไปปิดล้อมสวนอาหารครัวสวนไผ่ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นสถานที่จัดเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นขอให้คนเสื้อแดงระมัดระวังการแสดงออกในกิจกรรมทางการเมืองให้มากขึ้น
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนมาแล้ว ทั้งนี้ในการดูแลเวทีทางการเมืองอย่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำตามขั้นตอน นโยบายของตนจะดูแลทุกกลุ่มอยู่แล้วและได้กำชับให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยทุกคน.
กำลังโหลดความคิดเห็น