"แม้ว" ควันออกหู หลังเจอกลุ่ม "หน้ากากV" ในโซเชียลมีเดีย โพสต์ข้อความปลุกระดมโค่นล้มระบอบทักษิณ ด่าลิ่วล้อลั่น "พวกโง่ๆ เพจพรรคแท้ๆ ยังปล่อยให้พวกสวะมันเข้ามาหยาม" ขณะที่ "เด็จพี่" ซัดพวกจิตไม่ปกติ หนักแผ่นดิน ขู่เอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมจี้ไอซีที ตรวจสอบด่วน ด้าน ปชป. ชี้เป็นปรากฏการณ์ต่อต้านรัฐบาลลุอำนาจ หวั่นหากมีการใช้ระบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน อาจพัฒนาสู่ความรุนแรงกลางเป็นสงครามกลางเมือง
จากกรณีเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) ที่ผ่านมา ชาวเฟซบุ๊กร่วมกันรณรงค์ให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ตัวเองเป็นรูปหน้ากาก กาย ฟอว์กส์ (Guy Fawkes) จากภาพยนตร์เรื่อง V for Vendetta และโพสต์ข้อความ “ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่า ข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย” ในเฟซบุ๊กทุกเพจที่เป็นเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สอดคล้องกับนักแสดงคนหนึ่งในหนังที่สวมหน้ากากขาว เรียกตนเองว่า V พร้อมเป้าหมายในการโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการ
ต่อมาวันที่ 26 พ.ค. 56 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จวกทีมงานผ่านผ่านเฟซบุ๊ก Pheu Thai Party ซึ่งถือหนึ่งในเพจที่รัฐบาลใช้เป็นกระบอกเสียงเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ ว่า “พวกโง่ๆ เพจ พรรคแท้ๆ ยังปล่อยให้พวกสวะมันเข้ามาหยาม”
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กข้อความในเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทยซึ่งลักษณะเป็นการรณรงค์ต่อต้านระบอบทักษิณ ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยใช้สัญญลักษณ์ รูปหน้ากากกายฟอคซ์ ว่า นี่คือสิ่งที่สะท้อนว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ไม่มีจริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนจะประชุมกับทีมกฎหมายว่าเรื่องดังกล่าวเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ รวมถึงผิดกฎหมายอาญาอื่นหรือไม่ ถ้าผิดจะดำเนินการร้องเอาผิดทางกฎหมายทันที รวมทั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร(ไอซีที) ต้องออกมาตรวจสอบด้วย
“คนกลุ่มนี้ใช้วิธีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นพวกจิตไม่ปกติ กลุ่มเหล่านี้เป็นนักรบไซเบอร์ได้ทุนมาส่วนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังตรวจสอบอยู่ว่า โยงไปยังกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองหรือไม่ กลุ่มเหล่านี้นอกจากบิดเบือนข้อเท็จจริงแล้ว หวังผลทางการเมือง พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของประชาชนไม่ใช่พรรคของใครคนใดคนหนึ่ง คนเหล่านี้เป็นพวกหนักแผ่นดิน”นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าเป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองปกติ ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย แต่หากมีการล่วงละเมิดผู้อื่น หรือมีผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดี ก็สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หน่วยงานรัฐควรต้องเข้าไปดู คือ กลุ่มแนวร่วมพวกนี้ เป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่ออกมาโจมตีรัฐบาล และตำหนิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งแสดงว่าเป้าหมายล้มรัฐบาลยังคงอยู่ต่อเนื่อง ที่เกิดจากคนหน้าเดิม กลุ่มเดิม เพียงไม่กี่คน ที่พยายามออกมาให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หวังสร้างอุปทานหมู่ สร้างให้คนเกลียดชังกัน แต่เชื่อว่าจะจุดไม่ติด เพราะประชาชนไม่ยอมรับ ตราบใดที่รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง และอยากขอเตือนพี่น้องประชาชนในโลกไซเบอร์ อย่าตกเป็นเหยื่อขบวนการนี้ พี่น้องประชาชนต้องระมัดระวัง จะหลงเข้าไปในกลุ่มคนไม่มีความจริงพวกนี้ เพราะพวกเขาได้ผ่าความจริงทิ้งไปหมดแล้ว และอยากจะเตือนไปยังกลุ่มผู้ก่อการด้วยว่า อย่าพยายามสร้างกระแส สร้างบรรยากาศไม่ดี ให้มีความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง เพราะนายกฯ และรัฐบาลกำลังสร้างบรรยากาศการเมืองที่ดี และพาประชาชนประเทศชาติ ก้าวข้ามความขัดแย้ง
** อ้าง"แม้วตัวปลอม"โพสต์ด่าจนท.พรรค
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมไซเบอร์ ผู้ดูแล เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย (Pheu Thai Party ) เปิดเผยว่า เพจนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ข้อมูล และอัพเดตความเคลื่อนไหวต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน และเป็นเพจสาธารณะที่เปิดกว้างให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นโดยไม่มีการปิดกั้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้ดูแลเฟซบุ๊กพรรคไม่ได้มีหน้าที่โต้ตอบหรือบล็อก ผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นต่าง รวมถึงไม่ได้มอนิเตอร์เฟซบุ๊กพรรคตลอด 24 ชั่วโมง จึงเป็นเหตุทำให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นได้ และเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นหลายครั้ง จนถึงขณะนี้ทางพรรคยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เป็นพิเศษ โดยยังปล่อยให้ผู้ก่อกวนปลุกกระแสไปวันๆ เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวเหนื่อย ก็หยุดไปเอง พร้อมปฎิเสธว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีการต่อว่าตามที่มีกระแสข่าว โดยยืนยันว่า มีผู้แอบอ้างชื่อเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาต่อว่าในเพจ เพราะเห็นว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะต่อว่าก็คงจะไม่โพสผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่างแน่นอน และคงจะมีสายตรงมา หรือผ่านทางผู้ใหญ่ไม่ทางหนึ่ง ก็ทางใด ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ จากผู้ใหญ่ภายในพรรค
** V สัญญลักษณ์ปลดปล่อยจากการถูกกดขี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วานนี้ (26 พ.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก คำนูณ สิทธิสมาน ขยายความหมายของ ปรากฏการณ์ V : สัญลักษณ์ต่อต้านระบอบเผด็จการรัฐสภาของกลุ่มทุนเจ้าของพรรคการเมือง ว่า
“หน้ากากใบหน้าบุรุษที่ดูคล้ายภาพวาดเชิงสัญลักษณ์ หรือการ์ตูน มีหนวดโค้งแหลมพร้อมรอยยิ้มแฝงลักษณ์ไร้อารมณ์ที่ชัดเจน ดูลึกลับและล้ำลึกที่แพร่หลายกว้างขวางในโลกไซเบอร์ในหมู่ผู้ต่อต้านระบอบทักษิณกำลังเป็นประเด็นทางสังคมที่อยากให้จับตา
เป็นหน้ากากที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง “V for Vendetta” เมื่อ 8 ปีก่อน
ภาพยนตร์เรื่องนี้พี่น้องน่าจะเคยได้ดูมา และคงนึกเปรียบเทียบกับเหตุการณ์บ้านเมืองเราในยุคเริ่มต้นก่อเกิดขบวนการต่อต้านระบอบทักษิณ ฉากหลังของภาพยนตร์ เป็นภาพสมมติอนาคตของอังกฤษที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ บอกเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวที่มีนามว่า อีวี่ ผู้ได้รับการช่วยชีวิตโดยชายในหน้ากาก ที่รู้จักกันเพียงในนาม V ผู้มีความเป็นมาล้ำลึก ร่าเริง อ่อนโยน และเป็นนักยุทธศาสตร์ผู้คิดการใหญ่โดยอุทิศชีวิตให้กับการปฏิวัติสังคม หรือนัยหนึ่งการปลดปล่อยประชาชนร่วมชาติจากพวกที่กดขี่พวกเขาให้ยอมทำตาม (อ่านรายละเอียด คอลัมน์ หลังวัดชนะ หน้า 2 )
**ปชป.ชี้เป็นสิทธิการแสดงออก
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ใชโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมตัวกันใช้รูปโปรไฟล์เป็น “หน้ากากขาว”หรือ “หน้ากากวี”ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านระบอบเผด็จการทักษิณ ว่า เป็นสัญลักษณ์หนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศแสดงออกถึงความไม่พอใจ เพราะรัฐบาลลุแก่อำนาจ มีความเผด็จการในหลายเรื่อง ใช้มวลชนคนเสื้อแดงกดดันกลุ่มอื่นๆ ทั้งองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ และพรรคการเมือง รวมทั้งภาคประชาชนที่เห็นต่างกับฝ่ายรัฐบาล เมื่อรัฐบาลปล่อยให้มีกลุ่มอันธพาลรุกรานกลุ่มอื่นๆได้ ตนเชื่อว่าไม่มีประชาชนกลุ่มไหน ที่จะทนเป็นเบี้ยล่างของรัฐบาลได้
ดังนั้นการแสดงออกถึงการต่อต้านจึงต้องเกิดขึ้น และอาจจะรุนแรงมากขึ้น หากรัฐบาลยังไม่แก้ไข รวมถึงกลุ่มไทยสปริง ที่นำโดย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และเหตุการณ์หน้ากากขาว ก็เป็นการแสดงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งซึ่งสามารถทำได้ในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้เกรงว่าหากรัฐบาลยังใช้ระบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เหตุการณ์นั้นก็อาจจะพัฒนาไปสู่ความรุนแรงได้ และสุดท้ายอาจจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง ที่คนในประเทศไทยไม่อยากเห็น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่หากควบคุมการใช้กฎหมายได้อย่างชอบธรรมและตรงไปตรงมา รัฐบาลก็จะสามารถทำงานได้ครบ 4 ปี ไม่มีปัญหา แต่รัฐบาลควรหยุดใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเสียก่อน
นอกจากนี้นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะทำเรื่องฟ้องร้องกลุ่มคนที่ใช้รูปโปรไฟล์หน้ากากวี ว่า การแสดงออกดังกล่าว เป็นสิทธิของประชาชน พรรคเพื่อไทยไม่เข้าใจการแสดงออกในสถานการณ์ แต่เหตุการณ์ที่กลุ่มวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ทำการปิดศาลรัฐธรรมนูญ กดดันการทำงานของตุลาการ พรรคเพื่อไทยกลับสนับสนุนพฤติกรรมเหล่านี้
“รัฐบาลที่ปากเป็นประชาธิปไตยแต่ใจเป็นเผด็จการ ทำการละเมิดสิทธิผู้อื่นทุกกรณี แต่วันนี้จะมาไล่จับผู้ที่แสดงความคิดเห็นผ่านทางโซเชียลมีเดีย หากรัฐบาลทำเช่นนั้นก็จะทำให้คนไทยทั้งประเทศแปลงร่างเป็นหน้ากากวีที่ต่อต้านเผด็จการกันหมด ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนคนไทยออกมาต่อต้านผู้ที่ลุแก่อำนาจประชาชน” นายชวนนท์ กล่าว.
