เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (23พ.ค.) ที่บริเวณด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ตัวแทนเครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ได้อ่านแถลงการณ์ประกาศยุติการชุมนุม โดยระบุว่า การชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ที่เกิดจากนโยบายการพัฒนา และโครงการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดในอดีต ขปส.ได้ติดตามผลักดันแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา นับตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ขปส.ได้จัดการชุมนุมมาแล้ว 7 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 โดยชุมนุมครั้งนี้ เกิดจากปัญหาหลัก 3 ประการ คือ 1.การไม่ทำตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา 2. ปัญหาที่ได้ข้อยุติแล้วแต่ไม่สามารถดำเนินการต่อ และ 3. กลไกอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหา วันนี้ ( 23 พ.ค.) เป็นวันที่ 18 ในการชุมนุมของ ขปส. การชุมนมในครั้งนี้ ได้มีการเจรจากันหลายครั้งรวมทั้งทำให้กลไกการแก้ไขปัญหา มีแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจนมากขึ้น และเมื่อวันที่ 22พ.ค.ได้เกิดการทำข้อตกลง (mou)ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งเป็นหลักประกันในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ทำให้พวกเรามีความเชื่อมั่นพอสมควร
ทั้งนี้ mou ที่ถูกทำไว้ จึงถือว่าเป็นสัจจะสาธารณะระหว่างคนจนกับรัฐบาล ว่าจะร่วมมือกันในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน สร้างความเป็นธรรม โดยการมีส่วนร่วมระหว่างภาคประชาชน กับรัฐบาลอย่างเท่าเทียม และต่อเนื่องเพื่อแสดงความจริงใจ เชื่อใจ มั่นใจ โดยรัฐบาลยืนยันชัดเจนว่า จะนำกรณีปัญหาที่ได้ข้อยุติแล้วทั้ง 2 กรณี คือ1. กรณีเขื่อนปากมูล 2. การคุ้มครองพื้นที่ฯ เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 28 พ.ค. นี้
อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้ปัญหาความเดือดร้อนยืดเยื้อยาวนานเกิดจากความไม่จริงของรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา ขปส. หวังว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากรากหญ้า และได้อำนาจมาตามระบอบประชาธิปไตย อย่าทำเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อก้าวข้ามความหวาดระแวงและเดินหน้าแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล ขปส.จึงขอประกาศยุติการชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อเดินทางกลับไปแก้ไขปัญหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเก็บข้าวของ และมีการรื้อถอนเวที และเต้นท์พัก เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเวลาเย็น หลังจากที่ปักหลักชุมนุมมาเป็นเวลา 18 วัน นับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนมีการร้องเพลงเต้นรำเพื่อผ่อนคลาย โดยบริเวณมีการจัดรถโดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 17.00 น. นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เดินทางมาที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งผู้ชุมนุม เครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขึ้นรถกลับภูมิลำเนา หลังจากมีการลงนามข้อตงลง (เอ็มยู)ไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค.
โดยนายประชา กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ขอให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านไปก่อน ทั้งนี้รัฐบาลได้มีการประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่ออำนวยความสดวก โดยจะมีตำรวจทางหลวงนำขบวนจนถึงจุดหมายปลายทาง ส่วนข้อเรียกร้องนั้น หากไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา ตนพร้อมที่จะลงไปดูปัญหาในพื้นที่ด้วยตัวเอง
สำหรับข้อเรียกร้องเร่งด่วน 2 ข้อ คือ 1. การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล 2.เรื่องปัญหาโฉนดชุมนุมนั้น ยืนยันว่า จะนำเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าแน่นอน และระหว่างนี้ ก่อนเข้าที่ประชุม ครม. ก็จะมีการประชุมอนุกรรมการเพื่อแก้ปัญหาโดยเป็นการติดตามความคืนหน้าในเรื่องต่างๆที่อนุกรรมการได้มีการประชุมไป ส่วนปัญหาที่ต้องการแก้ไขเร่งด่วนคือ เรื่องโฉนดที่ดินชุมชุน เชื่อว่าหลังจากเข้าสู่ที่ประชุม ครม.แล้วจะมีแนวทางในการแก้ไขให้ชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ mou ที่ถูกทำไว้ จึงถือว่าเป็นสัจจะสาธารณะระหว่างคนจนกับรัฐบาล ว่าจะร่วมมือกันในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน สร้างความเป็นธรรม โดยการมีส่วนร่วมระหว่างภาคประชาชน กับรัฐบาลอย่างเท่าเทียม และต่อเนื่องเพื่อแสดงความจริงใจ เชื่อใจ มั่นใจ โดยรัฐบาลยืนยันชัดเจนว่า จะนำกรณีปัญหาที่ได้ข้อยุติแล้วทั้ง 2 กรณี คือ1. กรณีเขื่อนปากมูล 2. การคุ้มครองพื้นที่ฯ เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 28 พ.ค. นี้
อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้ปัญหาความเดือดร้อนยืดเยื้อยาวนานเกิดจากความไม่จริงของรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา ขปส. หวังว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากรากหญ้า และได้อำนาจมาตามระบอบประชาธิปไตย อย่าทำเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อก้าวข้ามความหวาดระแวงและเดินหน้าแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล ขปส.จึงขอประกาศยุติการชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อเดินทางกลับไปแก้ไขปัญหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเก็บข้าวของ และมีการรื้อถอนเวที และเต้นท์พัก เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเวลาเย็น หลังจากที่ปักหลักชุมนุมมาเป็นเวลา 18 วัน นับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนมีการร้องเพลงเต้นรำเพื่อผ่อนคลาย โดยบริเวณมีการจัดรถโดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 17.00 น. นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เดินทางมาที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งผู้ชุมนุม เครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขึ้นรถกลับภูมิลำเนา หลังจากมีการลงนามข้อตงลง (เอ็มยู)ไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค.
โดยนายประชา กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ขอให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านไปก่อน ทั้งนี้รัฐบาลได้มีการประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่ออำนวยความสดวก โดยจะมีตำรวจทางหลวงนำขบวนจนถึงจุดหมายปลายทาง ส่วนข้อเรียกร้องนั้น หากไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา ตนพร้อมที่จะลงไปดูปัญหาในพื้นที่ด้วยตัวเอง
สำหรับข้อเรียกร้องเร่งด่วน 2 ข้อ คือ 1. การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล 2.เรื่องปัญหาโฉนดชุมนุมนั้น ยืนยันว่า จะนำเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าแน่นอน และระหว่างนี้ ก่อนเข้าที่ประชุม ครม. ก็จะมีการประชุมอนุกรรมการเพื่อแก้ปัญหาโดยเป็นการติดตามความคืนหน้าในเรื่องต่างๆที่อนุกรรมการได้มีการประชุมไป ส่วนปัญหาที่ต้องการแก้ไขเร่งด่วนคือ เรื่องโฉนดที่ดินชุมชุน เชื่อว่าหลังจากเข้าสู่ที่ประชุม ครม.แล้วจะมีแนวทางในการแก้ไขให้ชัดเจนมากขึ้น
