รมว.ทส., มท.3 ถกร่วมม็อบ ขปส.จ่อลงเอ็มโอยูร่วม 5 ประเด็น เร่งรัดโฉนดชุมชน ตั้ง กก.แก้เขื่อนปากมูลใหม่ และ กก.ติดตามดำเนินการแก้ปัญหา พร้อมประสานบขส.ส่งชาวบ้านกลับถิ่น
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่บริเวณด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 10.30 น. นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย และ นายสุพร อัตถาวรงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เดินทางมาร่วมบันทึกเทปรายการเวทีประชาชน ของสถานี่โทรทัศน์ไทยพีบีเอส ร่วมเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือกลุ่มพีมูฟ ที่นำโดยนายประยงค์ ดอกลำใย นางสมปอง เวียงจันทร์ แกนนำกลุ่มพีมูพ ร่วมพูดคุย โดยก่อนเริ่มเวที นายประชา ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนว่า หลังจากการพูดคุยกับแกนนำเครือข่ายพีมูฟมีข้อสรุปที่นำเสนอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ร่วมแกนนำกลุ่มพีมูฟ โดยมีข้อสรุป 5 ประเด็น คือ กรณีโฉนดชุมชน เห็นชอบให้ดำเนินโฉนดชุมชน โดยสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐไปชั่วคราวก่อนจนกว่ากระบวนการพิจารณาของส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ตามแต่กรณีจะมีข้อยุติ ส่วนเขื่อนปากมูล ครม.จะพิจารณาในการประชุมวันที่ 28 พ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม นายประชา เปิดเผยด้วยว่า คาดว่าการพูดคุยวันนี้ จะเป็นที่พอใจของผู้ชุมนุม และตนได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และกรมทางหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมเดินทางกลับภูมลำเนาตลอดเส้นทาง
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงระหว่างขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) กับตัวแทนรัฐบาล มีสาระสำคัญดังนี้ 1.จะมีการเร่งรัดเสนอเรื่องโฉนดชุมชน โดยพิจารณาเห็นชอบในหลักการของนโยบายการดำเนินงานโฉนดชุมชน ซึ่งให้ใช้ประโยชน์ที่ของรัฐไปก่อนได้จนกว่ากระบวนการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบจะมีผลและกรณีเขื่อนปากมูลให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาขึ้นใหม่ โดยให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 28 พ.ค.
2.เร่งรัดคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการนโยบายเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตและแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ ขปส.ทั้งที่ดำเนินการได้ข้อยุติและยังไม่มีข้อยุติ นำเสนอให้พิจารณาวันที่ 28 พ.ค. 3.รัฐบาลจะเร่งรัดดำเนินการตามนโยบายด้านที่ดินและทรัพยากรตามที่ได้แถลงต่อสภาอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งด่วน โดยระหว่างดำเนินการให้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการที่เป็นสาเหตุความขัดแย้ง หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อน 4.ขอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ ขปส.จัดการประชุมอย่างน้อย 3 เดือน/ครั้ง ส่วนอนุกรรมการให้มีการประชุมอย่างน้อย 2 เดือน/ครั้ง และ 5.แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาของ ขปส.โดยมี นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย เป็นประธานกรรมการ และมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการและตัวแทนขปส.เป็นกรรมการ
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.นายประยงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตัวแทนกลุ่มพีมูฟ 14 คนได้มีการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับตัวแทนรัฐบาล ที่ประกอบด้วย นายปรีชา, นายประชา และนายสุภรณ์ โดยเบื้องต้นเราต้องผู้ชุมนุมที่บางส่วนกำลังประชุมอนุกรรมการ 2 ชุดอยู่ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ เดินทางกลับมาที่จุดชุมนุมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงเอ็มโอยูที่เราร่วมเซ็น และคาดว่าผู้ชุมนุมจะเข้าใจเอ็มโอยูฉบับนี้ และมีการกำหนดแนวทางการสลายการชุมนุม เพื่อให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันพรุ่งนี้ โดยจะมีพิธีขอบคุณรัฐบาลอย่างเป็นทางการในเวลาประมาณไม่เกิน12.00 น.
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กลุ่มพีมูฟจะยังคงติดตามการดำเนินการของรัฐบาลตามที่ตกลงไว้ให้เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งข้อตกลงที่ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานแก้ปัญหากลุ่มพีมูฟ ลงนามคำสั่งแต่งตั้งให้นายประชา เป็นประธาน และนายสุภรณ์ เป็นรองประธาน อย่างต่อเนื่อง