ASTV ผู้จัดการรายวัน- บก.น.4 แถลงผลจับกุม 2 มือปืนก่อเหตุยิงถล่มกลุ่มโจ๋คู่อริกลางซอยลาดพร้าว 122 เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีก 2 คนเหตุ หลังเล่นโปรแกรมแชตบีบีแล้วเกิดบาดหมาง จึงตามมาดักยิงถึงที่เกิดเหตุ
วานนี้ (14 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว ร่วมแถลงผลการจับกุม นายวัชระ หรือจ้อน สังคราม อายุ 26 ปี และนายพิษณุ หรือณุ นิ่มเมี้ยน อายุ 18 ปี ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลางอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อสไตเออร์ จำนวน 1 กระบอก จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น GTX สีดำ-เหลือง หมายเลขทะเบียน พวว-426 กทม.จำนวน 1 คัน
พล.ต.ต.นัยวัฒน์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 05.00 น. ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มนายนัฐพงศ์ อเนกนวล จากบริเวณปากซอยลาดพร้าว 91 ถึง 103 เป็นจำนวนหลายนัด จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย นายนัฐพงษ์ หรือบี อเนกนวล อายุ 26 ปี ถูกกระสุนปืน 1 นัดและไปเสียชีวิตที่ รพ.เวชธานี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ไปเสียชีวิตที่ รพ.ลาดพร้าว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายศิวพันธ์ หรือซีต ด๊ะเก๊ะ อายุ 20 ปี ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.นัยวัฒน์กล่าวต่อว่า ต่อมาได้สืบทราบว่าผู้ลงมือก่อเหตุ คือ นายวัชระ หรือจ้อน สังคราม จึงทำการสืบสวนติดตามจนทราบว่านายวัชระภายหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.สระแก้ว และได้ติดตามจับกุมได้บ้านเลขที่ 11 ต.หนองว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ต่อมาสืบสวนขยายผลจนทราบว่าในวันเกิดเหตุนายพิษณุ หรือณุ นิ่มเนี้ยม เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย โดยเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าวให้นายวัชระนั่งซ้อนและใช้อาวุธปืนไล่ยิงทำร้ายผู้ตายกับพวก ต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัวนายพิษณุได้ภายในซอยอินทามระ แขวงสามเสนใน เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุนายวัชระมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงในกลุ่มของผู้ตายก่อนหน้านี้ ซึ่งภรรยาของนายวัชระได้ทราบเรื่องดังกล่าวจึงมีการด่าทอกันผ่านโปรแกรมแชตทางโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี จนเป็นเหตุให้มีเรื่องบาดหมางกันกับกลุ่มของผู้ตาย ต่อมาในวันเกิดเหตุนายวัชระได้ทำการตรวจสอบพิกัดตามโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จนทราบว่ากลุ่มของผู้ตายอยู่ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 122 (ซ.มหาดไทย) จึงมาดักรอทำร้ายบริเวณปากซอยดังกล่าว ปรากฏพบกลุ่มผู้ตายจึงขับขี่จักรยานยนต์ตามประกบ แต่ถูกกลุ่มผู้ตายถีบจนรถของนายวัชระที่มี น.ส.เอมมิกา ภรรยาของนายวัชระซึ่งตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนล้มลง จนนายวัชระเกิดบันดาลโทสะได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของนายพิษณุเพื่อติดตามกลุ่มผู้ตาย และใช้อาวุธปืนไล่ยิงของกลุ่มผู้ตายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วานนี้ (14 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว ร่วมแถลงผลการจับกุม นายวัชระ หรือจ้อน สังคราม อายุ 26 ปี และนายพิษณุ หรือณุ นิ่มเมี้ยน อายุ 18 ปี ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลางอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อสไตเออร์ จำนวน 1 กระบอก จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น GTX สีดำ-เหลือง หมายเลขทะเบียน พวว-426 กทม.จำนวน 1 คัน
พล.ต.ต.นัยวัฒน์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 05.00 น. ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มนายนัฐพงศ์ อเนกนวล จากบริเวณปากซอยลาดพร้าว 91 ถึง 103 เป็นจำนวนหลายนัด จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย นายนัฐพงษ์ หรือบี อเนกนวล อายุ 26 ปี ถูกกระสุนปืน 1 นัดและไปเสียชีวิตที่ รพ.เวชธานี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ไปเสียชีวิตที่ รพ.ลาดพร้าว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายศิวพันธ์ หรือซีต ด๊ะเก๊ะ อายุ 20 ปี ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.นัยวัฒน์กล่าวต่อว่า ต่อมาได้สืบทราบว่าผู้ลงมือก่อเหตุ คือ นายวัชระ หรือจ้อน สังคราม จึงทำการสืบสวนติดตามจนทราบว่านายวัชระภายหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.สระแก้ว และได้ติดตามจับกุมได้บ้านเลขที่ 11 ต.หนองว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ต่อมาสืบสวนขยายผลจนทราบว่าในวันเกิดเหตุนายพิษณุ หรือณุ นิ่มเนี้ยม เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย โดยเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าวให้นายวัชระนั่งซ้อนและใช้อาวุธปืนไล่ยิงทำร้ายผู้ตายกับพวก ต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัวนายพิษณุได้ภายในซอยอินทามระ แขวงสามเสนใน เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุนายวัชระมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงในกลุ่มของผู้ตายก่อนหน้านี้ ซึ่งภรรยาของนายวัชระได้ทราบเรื่องดังกล่าวจึงมีการด่าทอกันผ่านโปรแกรมแชตทางโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี จนเป็นเหตุให้มีเรื่องบาดหมางกันกับกลุ่มของผู้ตาย ต่อมาในวันเกิดเหตุนายวัชระได้ทำการตรวจสอบพิกัดตามโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จนทราบว่ากลุ่มของผู้ตายอยู่ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 122 (ซ.มหาดไทย) จึงมาดักรอทำร้ายบริเวณปากซอยดังกล่าว ปรากฏพบกลุ่มผู้ตายจึงขับขี่จักรยานยนต์ตามประกบ แต่ถูกกลุ่มผู้ตายถีบจนรถของนายวัชระที่มี น.ส.เอมมิกา ภรรยาของนายวัชระซึ่งตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนล้มลง จนนายวัชระเกิดบันดาลโทสะได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของนายพิษณุเพื่อติดตามกลุ่มผู้ตาย และใช้อาวุธปืนไล่ยิงของกลุ่มผู้ตายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป