ตร.รวบสาวแสบ 18 มงกุฎฉกเพชร พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท สารภาพทำมาแล้ว 9 ครั้ง อ้างรายได้จากการขายเสื้อผ้าย่านตลาดนัดจตุจักรไม่พอใช้จ่าย
วันนี้ (16 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ รอง ผบก.น.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.จินดา จันทร์หม่อน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999 ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 235/2556 ลงวันที่ 15 เม.ย. ในข้อหาลักทรัพย์ พร้อมของกลางทองรูปพรรณหลายรายการ แหวนทองคำฝังเพชร 4วง ต่างหูเพชร 1 คู่ ตั๋วจำนำของโรงรับจำนำนนทชัย 3 ใบ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 1 ต.หนองแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า พฤติกรรมของ น.ส.จินดา ผู้ต้องหาได้เข้าไปตามร้านเพชร จากนั้นได้ฉวยโอกาสที่เจ้าของร้านหรือพนักงานเผลอ นำเพชรปลอมที่เตรียมมาสับเปลี่ยนกับเพชรจริง ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2547 เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วพ้นโทษออกมาก็ก่อเหตุซ้ำอีก ทำมาแล้วหลายพื้นที่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุที่ จ.จันทบุรี ร่วมกับแฟนหนุ่ม เมื่อถูกจับกุมตัวได้ ก็ประกันตัวออกมา แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว โดยล่าสุดได้ก่อเหตุในท้องที่ สน.บางนา
ด้าน พ.ต.อ.สุพจน์กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สน.บางนา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ทำทีไปติดต่อขอซื้อเพชร ที่ร้านอัญมณีและเพชร ระหว่างที่มีการจัดแสดงสินค้า บริเวณชั้นจี ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา ซึ่งผู้ต้องหาได้เตรียมเพชรปลอมใส่กระเป๋ามาจำนวน 2 เม็ด จากนั้นก็จะเข้าไปทำทีชวนพนักงานคุยเรื่องซื้อขายเพชร โดยใช้บัตรประชาชนปลอมไปเปิดบัญชีและแสดงกับทางร้าน เมื่อสบโอกาสก็จะขอเลขที่บัญชีของทางร้าน พร้อมกับอ้างว่าจะออกไปโอนเงินให้ กระทั่งพนักงานเผลอ ผู้ต้องหาก็รีบสับเปลี่ยนเพชรทันที นอกจากนี้ยังฉวยโอกาสขโมยแหวนเพชรของทางร้านไปอีก 2 วง ก่อนจะหลบหนีไป
“ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายคือ น.ส.จินดา จึงขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนจะนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.ร้อยเอ็ด สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำแล้วทั้งหมด 9 ครั้ง สาเหตุที่ทำไปเพราะรายได้จากการขายเสื้อผ้าย่านตลาดนัดจตุจักรไม่พอใช้จ่าย ก่อนลงมือจะตระเวนหาซื้อแหวนเพชรปลอม และงัดเอาเพชรออกมาเพื่อไปสลับกับของจริง จากนั้นก็จะเลือกร้านอัญมณีที่มีเพชรลักษณะใกล้เคียงกับของปลอมที่เตรียมมาเพื่อไม่ให้ทางร้านสังเกตเห็น” พ.ต.อ.สุพจน์กล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เมื่อเดือน มิ.ย. 2547 ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุในท้องที่ สน.บางชัน ภายในห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถัดมาเมื่อเดือน ก.ค. 2547 ก่อเหตุในท้องที่ สน.ลาดพร้าว ถูกจับกุมได้และพ้นโทษปี 2552 จากนั้นในปีเดียวกันก็ออกก่อเหตุในท้องที่ สน.ปทุมวัน ต่อมาปี 2556 ได้ก่อเหตุในท้องที่ สน.พหลโยธิน ภายในกรมส่งเสริมการส่งออกได้เพชรไป 1 กะรัต จำนวน 1 เม็ด วันที่ 11 มี.ค. 2556 ก่อเหตุในท้องที่ สน.สุทธิสาร ได้เพชร 2 กะรัต จำนวน 1 เม็ด เดือนมีนาคม 2556 ก่อเหตุในท้องที่ สน.ห้วยขวาง ได้เพชร 4 กะรัต จำนวน 1 เม็ด วันที่ 2 เม.ย. 2556 ก่อเหตุในท้องที่ สน.พหลโยธิน ได้เพชร 3 กะรัต จำนวน 1 เม็ด วันที่ 8 เม.ย. 2556 ก่อเหตุในท้องที่ สภ.เมืองจันทบุรี ได้เพชรร่วง 4.07 กะรัต นำไปจำนำที่โรงรับจำนำมูลค่า 1.2 ล้านบาท ก่อนจะถูกจับกุมและประกันตัวออกมา และล่าสุดวันที่ 11 เม.ย. 2556 ก่อเหตุท้องที่ สน.บางนา ได้แหวนเพชร 2 วง เพชรร่วงขนาด 3.09 กะรัตและ 3 กะรัต นำไปจำนำที่โรงรับจำนำย่าน จ.นนทบุรี รวมมูลค่า 1.1 ล้านบาท