วานนี้(14 พ.ค.56) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดนิทรรศการด้านน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จัดขึ้นในการประชุมผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 2 โดยมีผู้บริหารระดับสูง ผู้เข้าร่วมจัดนิทรรศการจำนวนมาก
นายปลอดประสพ กล่าวว่า การประชุมน้ำครั้งนี้ต้องย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่มีการพูดคุยเรื่องวอเตอร์ ซีเคียวริตี้ โดยเฉพาะประเทศเกาะ จะจมน้ำจากภาวะโลกร้อน แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมในหลายประเทศไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น จึงเห็นว่าควรมองเรื่องภัยธรรมชาติด้วย เพราะสาเหตุมาจากเรื่องเดียวกันคือเรื่องภาวะโลกร้อน
"ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงนำ 2 เรื่องมาผสมกัน คิดว่าประเด็นนี้หากพูดคุยกันระดับนักวิชาการไม่เกิดประโยชน์ ต้องมีคอมมิทเม้นท์ ของผู้นำประเทศ จึงมีการเชิญผู้นำประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้นำประเทศเข้าร่วม มีทั้งพระมหากษัตริย์เสด็จมา 1 พระองค์ ประธานาธิบดี 6 คน รองประธานาธิบดี 10 คน นายกรัฐมนตรี 5 คน รองนายกฯ 10 คน ระดับรัฐมนตรีอีกกว่า 25-26 ประเทศ และนักวิชากรระดับสูงประมาณ 25 ประเทศ โดยผู้ร่วมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 2 พันคน ซึ่งเชียงใหม่ไม่เคยต้อนรับผู้นำจำนวนมากขนาดนี้ เชื่อว่าการท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์สูงสุด"นายปลอดประสพ กล่าว
ก่อนหน้านั้นเวลา 09.09 น. ที่วัดอีอ้าง เวียงกุมกาม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นายปลอดประสพ มาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาเทวดาเทพศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองพื้นที่โบราณสถานดังกล่าวเพื่อขอใช้พื้นที่ดังกล่าวในการจัดงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำพร้อมจัดการแสดงแสงสีเสียง เวียงกุมกาม มังรายและสายน้ำ เพื่อต้อนรับผู้นำและตัวแทนนานาประเทศที่เข้าประชุมผู้นำทางน้ำในจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 พ.ค.โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในฐานะเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับ ซึ่งทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท ในการเนรมิตพื้นที่ดังกล่าวเป็นเรือนรับรองกระจกแก้วขนาดใหญ่ สามารถชมความสวยงามของโบราณสถานได้อย่างใกล้ชิด และชมการแสดงแสงสีเสียงที่อลังการและสวยงามโดยด้านข้างอาคารเรือนรับรองมีการจัดคูน้ำที่สวยงามเหมือนครั้งยังเป็นนครโบราณ
** NGOเตรียมยื่นประท้วง19พ.ค.
ส่วนกรณีที่นายปลอดประสพ สุ ให้สัมภาษณ์ห้ามภาคประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นระหว่างการประชุมโดยระบุว่าจะจับเข้าคุกให้หมด ไม่มีที่ให้ประท้วง และเรียกว่าเป็นขยะนั้น
นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานสมัชชาองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ เปิดเผยว่า คำพูดของนายปลอดประสพ เป็นคำพูดที่ดูถูก เหยียดหยาม ข่มขู่คุกคาม และไม่น่าจะมาปากจากคนที่เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ทางคณะทำงานภาคประชาชน และเครือข่ายชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนและโครงการพัฒนา เห็นว่าเป็นการข่มขู่การทำงานของภาคประชาชน ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนี้รูปแบบการคุกคามยังมีการให้เจ้าหน้าที่สันติบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถามข้อมูลความเคลื่อนไหวถึงสำนักงานและบ้านพักส่วนตัวของคนที่ทำงาน ด้านทรัพยากรน้ำ และโทรศัพท์ติดตามอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลใจและรู้สึกไม่ปลอดภัย
"การที่ภาคประชาชนจะมีข้อเสนอต่อรัฐบาลและที่ประชุม เป็นสิทธิการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลควรจะยินดีที่มีหลายฝ่ายร่วมกันหาทางออกในประเด็นทรัพยากรน้ำ และมองการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีส่วนร่วม สร้างหลักการทำงานร่วมกันมากกว่านี้ ซึ่งเดิมเครือข่ายฯ ไม่ได้จะไปประท้วงหรือมีความเคลื่อนไหวใดๆในเวทีประชุมน้ำโลก แต่ล่าสุดมีการหารือของเครือข่ายว่าในวันที่ 19 พ.ค.นี้ จะจัดเวทีคู่ขนาน และเดินทางไปยื่นหนังสือแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อกังวลต่อโครงการใช้งบ 3.5 แสนล้านบาทเพื่อบรรเทาภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่งรัฐบาลจะหยิบยกเรื่องการแก้น้ำท่วมปี 2554 ไปโชว์กับผู้นำชาติสมาชิกทั้ง 49 ชาติ เพราะเห็นว่าเป็นการทำโครงการที่ข้ามขั้นตอน และปัญหาผลกระทบจากการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในแม่น้ำระหว่างประเทศในแม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวิน เป็นต้น โดยยืนยันว่าไม่ต้องการไปประท้วง หรือล้มเวทีการประชุมน้ำโลก" นายหาญณรงค์ ระบุ
**ปลอดฯฉะเอ็นจีโอเป็นคนน่าเกลียดที่สุด
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อข้อถามกระแสต่อต้านแสดงเป็นพญามังรายในการเลี้ยงต้อนรับผู้นำระดับประเทศ ว่า ไม่ทราบ ทำไมต้องต้าน ตนก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง ละครเรื่องนี้เคยแสดงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ครั้งนี้นำมาเล่นใหม่ในบทเดิมตามประวัติศาสตร์ทุกอย่าง และสาเหตุที่ต้องไปเล่นที่เวียงกุมกาม เพราะเป็นจุดกำเนิดของ จ.เชียงใหม่ และเป็นบทเรียนเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เพราะน้ำท่วมที่ควบคุมไม่ได้ สามารถทำลายเมืองได้
"ส่วนเอ็นจีโอกังวลการแสดงบิดเบือนข้อมูลนั้น คนที่พูดเรื่องนี้เป็นคนที่น่าเกลียดที่สุด สันดานหยาบช้า ผมเล่นตามบทประพันธ์ ตามประวัติ ซึ่งทำเป็นลายลักษณ์อักษร จะไปบิดเบือนอะไร เขาไม่ได้นิสัยโกหกอย่างพวกคุณ เลยมองคนอื่นเป็นแบบนั้นไปหมด กรุณาอย่าถามผมเลย ผมรู้สึกรังเกียจที่จะรับฟังและตอบ" นายปลอดประสพ กล่าว
กรณีที่เอ็นจีโอจะจัดเวทีคู่ขนานนั้น เป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของตน สิทธิ์ของเขา แต่ก็น่าแปลกการจัดงานเปิดให้ผู้ที่สนใจมีความรู้ มาร่วมกันจัดประชุมทางเทคนิคคอลกว่า 47 หัวข้อ เหตุใดจึงไม่มาร่วมด้วยทั้งๆ ที่พวกเขาก็มีความรู้ด้อยกว่า ผู้ที่เดินทางมาประชุมครั้งนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญแท้ แม้จะเก่งกว่า รู้มากกว่าแต่ก็ไม่รังเกียจจะสอนพวกเขา แล้วคุณจะไปตั้งทฤษฎีใหม่อะไรขึ้นมา ตนก็ไม่เข้าใจ ที่ผ่านมาก็ได้เชิญแล้ว
"ประชาชนชาวไทยคนเชียงใหม่ต้องคิดให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นว่าคนเหล่านี้เป็นใคร ตอนน้ำท่วมอยู่ที่ไหนไม่เคยเห็นช่วยใคร ตอนน้ำแล้งไม่เห็นช่วยใคร พอเขาจะร่วมกันคิดร่วมกัน สร้างเพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อโลก มาคัดค้าน ทำไมเป็นอย่างนั้น สื่อทำไมไม่รุมประณามคนเหล่านี้" นายปลอดประสพ กล่าว
**“นายกฯปู" ส่ง “นิวัฒน์ธำรง”แจงม็อบ
เมื่อเวลา 08.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าไปเป็นประธาน การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยระหว่างเดินทางไปเป็นประธานการประชุมครม. ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงนโยบายของนายกฯ โดยเฉพาะกรณีที่นายปลอดประสพ ประกาศว่าหากมีการชุมนุม ประท้วงจะให้ตำรวจจับกุมไปดำเนินคดีทั้งหมด และเตือนอย่าชุมนมประท้วงเด็ดขาด โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีว่า "มันเป็นคนละประเด็นกัน อันนี้เป็นการประชุมภาพรวมน้ำ" จากนั้นก็เดินขึ้นห้องประชุมไปทันที
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังว่า เรื่องของผู้ชุมนุมนั้นยินดีรับฟังข้อคิดเห็น และข้อเสนอต่างๆ เมื่อถามว่า การพูดของนายปลอดประสพเหมือนเป็นการเรียกแขกที่กลายเป็นว่าต่อไปรัฐบาลจะไม่ได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "เดี๋ยวต้องประสานกับท่านว่าหมายความเจตนาอย่างไร เพราะว่าจริงๆ แล้วอาจจะเป็นการพูด แต่จริงๆ แล้วเจตนาก็เชื่อว่าเราทุกคนยินดีรับฟังค่ะ"
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วการจัดงานนี้ เป็นการจัดต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่รัฐบาลนี้เห็นว่ามีประโยชน์ หลังจากที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพต่อจากประเทศญี่ปุ่น และความจริงมีกำหนดจัดประชุมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2555 แต่ตอนนั้นประเทศไทยยังประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ จึงต้องเลื่อนมาจัดในช่วงนี้ ดังนั้น จึงไม่ใช่การจัดเพราะมีการคัดค้านโครงการประมูลน้ำ อย่างที่เข้าใจกัน
ทั้งนี้ งานนี้เป็นการจัดสัมมนาวิชาการและนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ดังนั้นขอเชิญชวนประชาชนทุกคนเป็นเจ้าภาพที่ดี
เมื่อถามว่ามีการจัดที่ให้ผู้ชุมนุมที่เดินทางไปคัดค้านการประชุมครั้งนี้หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาดูอยู่ ถามต่อว่าหากผู้ชุมนุมจะส่งตัวแทนเข้าไปเจรจาหรือพูดคุยด้วย จะเป็นไปได้หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้มีการเปิดให้ฟังแต่ต้องเสียเงิน คงติดตามผ่านทางการถ่ายทอด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายปลอดประสพ ก็พูดสนุก พูดเล่น ไม่ได้เรียกแขก แต่จริงๆแล้ว เขาจะเอากำลังที่ไหนไปจับ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ ตนจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจดูการบูรณาการวางแผนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้ชุมนุมถ้าอนุญาต ก็ให้ได้เฉพาะส่วนที่จัดเตรียมไว้
**ตร.ร้องม็อบขอมาอย่างสงบ-จัดที่รองรับ
อีกด้านพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร รับผิดชอบ กำหนดวางแผนและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการรักษาความปลอดภัยช่วงการจัดประชุมเบื้องต้น ใช้กำลังในการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 1,958 นาย โดยมอบหมายให้ ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นผู้รับผิดชอบ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า 13 จุด พร้อมกำชับให้มีการตรวจสอบระบบการควบคุมสั่งการและการวางกำลังตามจุดต่างๆ อาทิ สนามบิน โรงแรม และสถานที่จัดเลี้ยง พร้อมทั้งกำชับให้จัดทำแผนเผชิญเหตุต่างๆ ด้วย
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. ที่รับผิดชอบความปลอดภัยในงาน กล่าวว่า การข่าว ไม่ได้เป็นเรื่องการมาประท้วง และก็ไม่ได้ห้ามมาชุมนุม แต่น่าจะเป็นการเรียกร้องแสดงความต้องการ คัดค้านการสร้างเขื่อน โดยทางตำรวจจะประสานกรมทรัพยากรน้ำ จัดสถานที่รับเรื่องราวข้อเสนอ หรือเรื่องร้องทุกข์ จัดสถานที่ แต่สถานที่ที่หวงห้ามก็ไม่สามารถเข้าได้ ทั้งนี้ จากการข่าวทราบว่าจะมีกลุ่มผู้แสดงความคิดเห็นเดินทางมาประมาณ 7-8 กลุ่ม
นายปลอดประสพ กล่าวว่า การประชุมน้ำครั้งนี้ต้องย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่มีการพูดคุยเรื่องวอเตอร์ ซีเคียวริตี้ โดยเฉพาะประเทศเกาะ จะจมน้ำจากภาวะโลกร้อน แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมในหลายประเทศไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น จึงเห็นว่าควรมองเรื่องภัยธรรมชาติด้วย เพราะสาเหตุมาจากเรื่องเดียวกันคือเรื่องภาวะโลกร้อน
"ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงนำ 2 เรื่องมาผสมกัน คิดว่าประเด็นนี้หากพูดคุยกันระดับนักวิชาการไม่เกิดประโยชน์ ต้องมีคอมมิทเม้นท์ ของผู้นำประเทศ จึงมีการเชิญผู้นำประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้นำประเทศเข้าร่วม มีทั้งพระมหากษัตริย์เสด็จมา 1 พระองค์ ประธานาธิบดี 6 คน รองประธานาธิบดี 10 คน นายกรัฐมนตรี 5 คน รองนายกฯ 10 คน ระดับรัฐมนตรีอีกกว่า 25-26 ประเทศ และนักวิชากรระดับสูงประมาณ 25 ประเทศ โดยผู้ร่วมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 2 พันคน ซึ่งเชียงใหม่ไม่เคยต้อนรับผู้นำจำนวนมากขนาดนี้ เชื่อว่าการท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์สูงสุด"นายปลอดประสพ กล่าว
ก่อนหน้านั้นเวลา 09.09 น. ที่วัดอีอ้าง เวียงกุมกาม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นายปลอดประสพ มาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาเทวดาเทพศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองพื้นที่โบราณสถานดังกล่าวเพื่อขอใช้พื้นที่ดังกล่าวในการจัดงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำพร้อมจัดการแสดงแสงสีเสียง เวียงกุมกาม มังรายและสายน้ำ เพื่อต้อนรับผู้นำและตัวแทนนานาประเทศที่เข้าประชุมผู้นำทางน้ำในจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 พ.ค.โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในฐานะเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับ ซึ่งทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท ในการเนรมิตพื้นที่ดังกล่าวเป็นเรือนรับรองกระจกแก้วขนาดใหญ่ สามารถชมความสวยงามของโบราณสถานได้อย่างใกล้ชิด และชมการแสดงแสงสีเสียงที่อลังการและสวยงามโดยด้านข้างอาคารเรือนรับรองมีการจัดคูน้ำที่สวยงามเหมือนครั้งยังเป็นนครโบราณ
** NGOเตรียมยื่นประท้วง19พ.ค.
ส่วนกรณีที่นายปลอดประสพ สุ ให้สัมภาษณ์ห้ามภาคประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นระหว่างการประชุมโดยระบุว่าจะจับเข้าคุกให้หมด ไม่มีที่ให้ประท้วง และเรียกว่าเป็นขยะนั้น
นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานสมัชชาองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ เปิดเผยว่า คำพูดของนายปลอดประสพ เป็นคำพูดที่ดูถูก เหยียดหยาม ข่มขู่คุกคาม และไม่น่าจะมาปากจากคนที่เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ทางคณะทำงานภาคประชาชน และเครือข่ายชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนและโครงการพัฒนา เห็นว่าเป็นการข่มขู่การทำงานของภาคประชาชน ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนี้รูปแบบการคุกคามยังมีการให้เจ้าหน้าที่สันติบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถามข้อมูลความเคลื่อนไหวถึงสำนักงานและบ้านพักส่วนตัวของคนที่ทำงาน ด้านทรัพยากรน้ำ และโทรศัพท์ติดตามอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลใจและรู้สึกไม่ปลอดภัย
"การที่ภาคประชาชนจะมีข้อเสนอต่อรัฐบาลและที่ประชุม เป็นสิทธิการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลควรจะยินดีที่มีหลายฝ่ายร่วมกันหาทางออกในประเด็นทรัพยากรน้ำ และมองการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีส่วนร่วม สร้างหลักการทำงานร่วมกันมากกว่านี้ ซึ่งเดิมเครือข่ายฯ ไม่ได้จะไปประท้วงหรือมีความเคลื่อนไหวใดๆในเวทีประชุมน้ำโลก แต่ล่าสุดมีการหารือของเครือข่ายว่าในวันที่ 19 พ.ค.นี้ จะจัดเวทีคู่ขนาน และเดินทางไปยื่นหนังสือแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อกังวลต่อโครงการใช้งบ 3.5 แสนล้านบาทเพื่อบรรเทาภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่งรัฐบาลจะหยิบยกเรื่องการแก้น้ำท่วมปี 2554 ไปโชว์กับผู้นำชาติสมาชิกทั้ง 49 ชาติ เพราะเห็นว่าเป็นการทำโครงการที่ข้ามขั้นตอน และปัญหาผลกระทบจากการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในแม่น้ำระหว่างประเทศในแม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวิน เป็นต้น โดยยืนยันว่าไม่ต้องการไปประท้วง หรือล้มเวทีการประชุมน้ำโลก" นายหาญณรงค์ ระบุ
**ปลอดฯฉะเอ็นจีโอเป็นคนน่าเกลียดที่สุด
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อข้อถามกระแสต่อต้านแสดงเป็นพญามังรายในการเลี้ยงต้อนรับผู้นำระดับประเทศ ว่า ไม่ทราบ ทำไมต้องต้าน ตนก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง ละครเรื่องนี้เคยแสดงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ครั้งนี้นำมาเล่นใหม่ในบทเดิมตามประวัติศาสตร์ทุกอย่าง และสาเหตุที่ต้องไปเล่นที่เวียงกุมกาม เพราะเป็นจุดกำเนิดของ จ.เชียงใหม่ และเป็นบทเรียนเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เพราะน้ำท่วมที่ควบคุมไม่ได้ สามารถทำลายเมืองได้
"ส่วนเอ็นจีโอกังวลการแสดงบิดเบือนข้อมูลนั้น คนที่พูดเรื่องนี้เป็นคนที่น่าเกลียดที่สุด สันดานหยาบช้า ผมเล่นตามบทประพันธ์ ตามประวัติ ซึ่งทำเป็นลายลักษณ์อักษร จะไปบิดเบือนอะไร เขาไม่ได้นิสัยโกหกอย่างพวกคุณ เลยมองคนอื่นเป็นแบบนั้นไปหมด กรุณาอย่าถามผมเลย ผมรู้สึกรังเกียจที่จะรับฟังและตอบ" นายปลอดประสพ กล่าว
กรณีที่เอ็นจีโอจะจัดเวทีคู่ขนานนั้น เป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของตน สิทธิ์ของเขา แต่ก็น่าแปลกการจัดงานเปิดให้ผู้ที่สนใจมีความรู้ มาร่วมกันจัดประชุมทางเทคนิคคอลกว่า 47 หัวข้อ เหตุใดจึงไม่มาร่วมด้วยทั้งๆ ที่พวกเขาก็มีความรู้ด้อยกว่า ผู้ที่เดินทางมาประชุมครั้งนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญแท้ แม้จะเก่งกว่า รู้มากกว่าแต่ก็ไม่รังเกียจจะสอนพวกเขา แล้วคุณจะไปตั้งทฤษฎีใหม่อะไรขึ้นมา ตนก็ไม่เข้าใจ ที่ผ่านมาก็ได้เชิญแล้ว
"ประชาชนชาวไทยคนเชียงใหม่ต้องคิดให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นว่าคนเหล่านี้เป็นใคร ตอนน้ำท่วมอยู่ที่ไหนไม่เคยเห็นช่วยใคร ตอนน้ำแล้งไม่เห็นช่วยใคร พอเขาจะร่วมกันคิดร่วมกัน สร้างเพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อโลก มาคัดค้าน ทำไมเป็นอย่างนั้น สื่อทำไมไม่รุมประณามคนเหล่านี้" นายปลอดประสพ กล่าว
**“นายกฯปู" ส่ง “นิวัฒน์ธำรง”แจงม็อบ
เมื่อเวลา 08.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าไปเป็นประธาน การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยระหว่างเดินทางไปเป็นประธานการประชุมครม. ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงนโยบายของนายกฯ โดยเฉพาะกรณีที่นายปลอดประสพ ประกาศว่าหากมีการชุมนุม ประท้วงจะให้ตำรวจจับกุมไปดำเนินคดีทั้งหมด และเตือนอย่าชุมนมประท้วงเด็ดขาด โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีว่า "มันเป็นคนละประเด็นกัน อันนี้เป็นการประชุมภาพรวมน้ำ" จากนั้นก็เดินขึ้นห้องประชุมไปทันที
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังว่า เรื่องของผู้ชุมนุมนั้นยินดีรับฟังข้อคิดเห็น และข้อเสนอต่างๆ เมื่อถามว่า การพูดของนายปลอดประสพเหมือนเป็นการเรียกแขกที่กลายเป็นว่าต่อไปรัฐบาลจะไม่ได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "เดี๋ยวต้องประสานกับท่านว่าหมายความเจตนาอย่างไร เพราะว่าจริงๆ แล้วอาจจะเป็นการพูด แต่จริงๆ แล้วเจตนาก็เชื่อว่าเราทุกคนยินดีรับฟังค่ะ"
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วการจัดงานนี้ เป็นการจัดต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่รัฐบาลนี้เห็นว่ามีประโยชน์ หลังจากที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพต่อจากประเทศญี่ปุ่น และความจริงมีกำหนดจัดประชุมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2555 แต่ตอนนั้นประเทศไทยยังประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ จึงต้องเลื่อนมาจัดในช่วงนี้ ดังนั้น จึงไม่ใช่การจัดเพราะมีการคัดค้านโครงการประมูลน้ำ อย่างที่เข้าใจกัน
ทั้งนี้ งานนี้เป็นการจัดสัมมนาวิชาการและนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ดังนั้นขอเชิญชวนประชาชนทุกคนเป็นเจ้าภาพที่ดี
เมื่อถามว่ามีการจัดที่ให้ผู้ชุมนุมที่เดินทางไปคัดค้านการประชุมครั้งนี้หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาดูอยู่ ถามต่อว่าหากผู้ชุมนุมจะส่งตัวแทนเข้าไปเจรจาหรือพูดคุยด้วย จะเป็นไปได้หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้มีการเปิดให้ฟังแต่ต้องเสียเงิน คงติดตามผ่านทางการถ่ายทอด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายปลอดประสพ ก็พูดสนุก พูดเล่น ไม่ได้เรียกแขก แต่จริงๆแล้ว เขาจะเอากำลังที่ไหนไปจับ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ ตนจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจดูการบูรณาการวางแผนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้ชุมนุมถ้าอนุญาต ก็ให้ได้เฉพาะส่วนที่จัดเตรียมไว้
**ตร.ร้องม็อบขอมาอย่างสงบ-จัดที่รองรับ
อีกด้านพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร รับผิดชอบ กำหนดวางแผนและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการรักษาความปลอดภัยช่วงการจัดประชุมเบื้องต้น ใช้กำลังในการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 1,958 นาย โดยมอบหมายให้ ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นผู้รับผิดชอบ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า 13 จุด พร้อมกำชับให้มีการตรวจสอบระบบการควบคุมสั่งการและการวางกำลังตามจุดต่างๆ อาทิ สนามบิน โรงแรม และสถานที่จัดเลี้ยง พร้อมทั้งกำชับให้จัดทำแผนเผชิญเหตุต่างๆ ด้วย
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. ที่รับผิดชอบความปลอดภัยในงาน กล่าวว่า การข่าว ไม่ได้เป็นเรื่องการมาประท้วง และก็ไม่ได้ห้ามมาชุมนุม แต่น่าจะเป็นการเรียกร้องแสดงความต้องการ คัดค้านการสร้างเขื่อน โดยทางตำรวจจะประสานกรมทรัพยากรน้ำ จัดสถานที่รับเรื่องราวข้อเสนอ หรือเรื่องร้องทุกข์ จัดสถานที่ แต่สถานที่ที่หวงห้ามก็ไม่สามารถเข้าได้ ทั้งนี้ จากการข่าวทราบว่าจะมีกลุ่มผู้แสดงความคิดเห็นเดินทางมาประมาณ 7-8 กลุ่ม