อเมริกาหรือ “พญาอินทรี” ไม่เคยปล่อยให้ใครหน้าไหน..มาเหยียบจมูกเด็ดขาด
เขตขุดเจาะน้ำมันทางทะเลของคิวบา ห่างรัฐฟลอริดาประเทศอเมริกาแค่ 100 กิโลเมตรเท่านั้น คิวบาจึงเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ที่ยืนจังก้าอยู่ “หน้าบ้าน” ประเทศอเมริกา!
อเมริกาไม่คิดจะปล่อยคิวบาให้ลอยนวล เพราะมีการจะยกพลบุกยึดคิวบาอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยคิวบามีมหาอำนาจ “คอมมิวนิสต์โซเวียต” ที่แสนยานุภาพยิ่งใหญ่ไม่แพ้อเมริกา ได้ขนขีปนาวุธนิวเคลียร์มาติดตั้งที่คิวบา ขืนเซ่อซ่าบุกยึดคิวบาซี้ซั้ว อเมริกาอาจวินาศสันตะโรก็ได้ “ลุงแซม” จึงจำต้องปล่อยรัฐบาลคอมมิวนิสต์คิวบา ดำรงอยู่มาได้จนทุกวันนี้ไงล่ะครับ
ก่อนจะเข้าเรื่องอเมริกาปล้นทรัพยากรในเอเชียและไทย ผมจำต้องลากท่านผู้อ่านไปคิวบา เพื่อให้รู้ว่า..มีประเทศอีกมากมายในโลกนี้ที่ต่อสู้กับอเมริกา โดยเฉพาะคิวบาที่เป็น “หอกข้างแคร่” ของอเมริกา ที่ให้การช่วยเหลือนักการเมืองแนวสังคมนิยม ในประเทศละตินอเมริกาทั้งโบลิเวีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ อาเจนตินา ฯลฯ ที่รัฐบาลอเมริกาเข้าไปปล้นทรัพยากรอันล้ำค่า
หนึ่งในหัวข้อสำคัญในการหาเสียงของนักการเมืองแนวสังคมนิยมในประเทศเหล่านั้น คือ นายทุนอเมริกาจะต้องแบ่งผลประโยชน์ให้ประเทศเจ้าของทรัพยากรที่ได้รับแค่ 30-50% เพิ่มขึ้นเป็น 80-90% จนชนะการเลือกตั้งกันเป็นแถว
ยิ่งนักการเมืองแนวสังคมนิยมที่ชนะเลือกตั้ง บ้างทำการยึดธุรกิจก๊าซและน้ำมัน กลับคืนมาเป็นของรัฐได้ บ้างต่อรองจนได้ผลประโยชน์ถึง 80-90% ตามที่ต้องการ โดยนำเงินรายได้มากมายเหล่านั้นมาสร้างสวัสดิการฟรีให้กับประชาชนที่ยากจน ทั้งด้านการแพทย์-การศึกษา-ที่อยู่อาศัย ฯลฯ โดยคิวบาเป็นหนึ่งในประเทศที่ช่วยเหลือ นักการเมืองแนวสังคมนิยมในประเทศละตินที่ต่อกรกับอเมริกาครับ
ส่วน เช กูวารา นั้น ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารชาติ และรัฐมนตรีอุตสาหกรรมคิวบา มิได้ทำให้หัวใจปฏิวัติสากลของเชสลายหายไป หลังเดือนเมษายนปี 1965 (พ.ศ.2508) เชได้หายตัวไปจากคิวบา โดยทิ้งแค่จดหมายส่วนตัวที่เขียนถึงคาสโตรเท่านั้น
ด้วยความที่เชเป็นผู้นำหมายเลข 2 ที่ชาวคิวบาให้ความรักไม่ต่างจากคาสโตร การหายตัวไปอย่างลึกลับจึงเป็นเรื่องใหญ่ วันที่ 3 ตุลาคมในปีเดียวกัน คาสโตรต้องเปิดเผยจดหมายที่ไม่ระบุวันที่ ซึ่งเชเขียนถึงเขาโดยตรงว่า
เจตนารมณ์ที่เชจากไป คือ เพื่อทำการปฏิวัติ คาสโตรอธิบายว่า เพราะชาติอื่นๆในโลกเรียกร้องให้เชช่วยเหลือ และเชได้ตัดสินใจไปช่วยทำสงครามปฏิวัติครั้งใหม่ ในจดหมายเชได้ประกาศสละทุกตำแหน่งที่ดำรงอยู่ ทั้งในรัฐบาล ในพรรค ในกองทัพ และสละสัญชาติชาวคิวบาที่ได้รับในปี 1959 (พ.ศ. 2502) อีกด้วย
1 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน คาสโตรให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศว่า เขารู้ว่าเชอยู่ที่ไหน แต่เขาเปิดเผยไม่ได้ เขาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า สหายร่วมรบของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว คาสโตรยืนยันว่า “เชมีสุขภาพดีที่สุด”
..เชหายสาบสูญไปนับแต่ปี 1965 และยังคงลึกลับอยู่ จนกระทั่งอีก 2 ปีต่อมา..
ใน “วันเมย์เดย์” หรือ “วันแรงงานโลก” 1 พฤษภาคม 1967 (พ.ศ. 2510) รัฐมนตรีกลาโหมคิวบายอมรับที่กรุงฮาวานา ว่า เชได้ไปเป็นหัวหน้ากองโจรในประเทศโบลิเวีย
เมื่อรู้ว่า เช มาเป็นหัวหน้ากองโจรในประเทศตน ประธานาธิบดี เรเน บาริเอนโตส ของโบลิเวีย ก็ได้ประกาศกร้าวว่า เขาต้องการจะเห็นศีรษะเช ถูกเสียบอยู่ที่ปลายหอกในย่านลาปาส และเขาได้สั่งการให้กองทัพโบลิเวียออกไล่ล่าเชและพรรคพวกทั้งหมดทันที
หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ทราบที่อยู่ของเช เจ้าหน้าที่ซีไอเอก็ถูกส่งเข้าไปฝึกกองกำลังพิเศษของกองทัพโบลิเวียทันที หลายสภาพการณ์อันเลวร้ายทำให้กองกำลังของเชถูกปิดล้อม จนเชถูกจับกุมตัวได้หลังบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง ในวันที่ 8 ตุลาคม 1967 และเชถูกนำตัวไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในฮีกูเอรา
คำพูดสุดท้ายที่เชกล่าวต่อเพชฌฆาตที่มาสังหารชีวิตเขา คือ
“ผมรู้ว่า..คุณมาที่นี่เพื่อจะฆ่าผม ยิงสิ กลัวอะไรอยู่ คุณเพียงฆ่าคนคนหนึ่งเท่านั้น”
9 ตุลาคม..เชถูกนายสิบของกองทัพโบลิเวีย ลั่นกระสุนปืนปลิดชีพ...
15 ตุลาคม คาสโตรได้ออกมายอมรับการตายของเช และประกาศไว้อาลัยให้เชทั่วประเทศคิวบาเป็นเวลา 3 วัน การตายของเชมีส่วนอย่างมาก ในการเร่งกระแสเปลี่ยนแปลงสังคมในละตินอเมริกา
ปี 1977 (พ.ศ. 2520) ได้มีการพบโครงกระดูกที่เหลืออยู่ของเช ใกล้กับ วัลเลกรานเต หลังตรวจสอบดีเอ็นเอจนแน่ชัดแล้ว วันที่ 17 ตุลาคม 1997 (พ.ศ. 2540) ร่างเชถูกนำกลับมาฝังในชุดเครื่องแบบทหารปฏิวัติเต็มยศ ในสุสานที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ณ เมืองซานตา คลารา สถานที่ซึ่งเชได้รับชัยชนะเมื่อ 39 ปีก่อน ในการทำสงครามปฏิวัติคิวบาอย่างสมเกียรติ
ชาวคิวบายังได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์ Ernesto Che Guevara เพื่อรำลึกและยกย่อง “วีรบุรุษ” นักปฏิวัติที่ต่อสู้กับรัฐบาลนายทุนสามานย์ในประเทศละตินอเมริกา และลัทธิจักรวรรดินิยมอเมริกา โดยมีพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวชีวประวัติ เช กูวารา ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกด้วย
เชปิดฉากชีวิตนักปฏิวัติด้วยวัยเพียง 39 ปี แต่ทุกวันนี้ผู้คนทั่วโลกที่สู้กับ “ลัทธิทุนนิยมสามานย์” ยังยืนยันว่า..
“เช..ยังไม่ตาย” และ “เช..ไม่มีวันตาย!”
เขตขุดเจาะน้ำมันทางทะเลของคิวบา ห่างรัฐฟลอริดาประเทศอเมริกาแค่ 100 กิโลเมตรเท่านั้น คิวบาจึงเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ที่ยืนจังก้าอยู่ “หน้าบ้าน” ประเทศอเมริกา!
อเมริกาไม่คิดจะปล่อยคิวบาให้ลอยนวล เพราะมีการจะยกพลบุกยึดคิวบาอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยคิวบามีมหาอำนาจ “คอมมิวนิสต์โซเวียต” ที่แสนยานุภาพยิ่งใหญ่ไม่แพ้อเมริกา ได้ขนขีปนาวุธนิวเคลียร์มาติดตั้งที่คิวบา ขืนเซ่อซ่าบุกยึดคิวบาซี้ซั้ว อเมริกาอาจวินาศสันตะโรก็ได้ “ลุงแซม” จึงจำต้องปล่อยรัฐบาลคอมมิวนิสต์คิวบา ดำรงอยู่มาได้จนทุกวันนี้ไงล่ะครับ
ก่อนจะเข้าเรื่องอเมริกาปล้นทรัพยากรในเอเชียและไทย ผมจำต้องลากท่านผู้อ่านไปคิวบา เพื่อให้รู้ว่า..มีประเทศอีกมากมายในโลกนี้ที่ต่อสู้กับอเมริกา โดยเฉพาะคิวบาที่เป็น “หอกข้างแคร่” ของอเมริกา ที่ให้การช่วยเหลือนักการเมืองแนวสังคมนิยม ในประเทศละตินอเมริกาทั้งโบลิเวีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ อาเจนตินา ฯลฯ ที่รัฐบาลอเมริกาเข้าไปปล้นทรัพยากรอันล้ำค่า
หนึ่งในหัวข้อสำคัญในการหาเสียงของนักการเมืองแนวสังคมนิยมในประเทศเหล่านั้น คือ นายทุนอเมริกาจะต้องแบ่งผลประโยชน์ให้ประเทศเจ้าของทรัพยากรที่ได้รับแค่ 30-50% เพิ่มขึ้นเป็น 80-90% จนชนะการเลือกตั้งกันเป็นแถว
ยิ่งนักการเมืองแนวสังคมนิยมที่ชนะเลือกตั้ง บ้างทำการยึดธุรกิจก๊าซและน้ำมัน กลับคืนมาเป็นของรัฐได้ บ้างต่อรองจนได้ผลประโยชน์ถึง 80-90% ตามที่ต้องการ โดยนำเงินรายได้มากมายเหล่านั้นมาสร้างสวัสดิการฟรีให้กับประชาชนที่ยากจน ทั้งด้านการแพทย์-การศึกษา-ที่อยู่อาศัย ฯลฯ โดยคิวบาเป็นหนึ่งในประเทศที่ช่วยเหลือ นักการเมืองแนวสังคมนิยมในประเทศละตินที่ต่อกรกับอเมริกาครับ
ส่วน เช กูวารา นั้น ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารชาติ และรัฐมนตรีอุตสาหกรรมคิวบา มิได้ทำให้หัวใจปฏิวัติสากลของเชสลายหายไป หลังเดือนเมษายนปี 1965 (พ.ศ.2508) เชได้หายตัวไปจากคิวบา โดยทิ้งแค่จดหมายส่วนตัวที่เขียนถึงคาสโตรเท่านั้น
ด้วยความที่เชเป็นผู้นำหมายเลข 2 ที่ชาวคิวบาให้ความรักไม่ต่างจากคาสโตร การหายตัวไปอย่างลึกลับจึงเป็นเรื่องใหญ่ วันที่ 3 ตุลาคมในปีเดียวกัน คาสโตรต้องเปิดเผยจดหมายที่ไม่ระบุวันที่ ซึ่งเชเขียนถึงเขาโดยตรงว่า
เจตนารมณ์ที่เชจากไป คือ เพื่อทำการปฏิวัติ คาสโตรอธิบายว่า เพราะชาติอื่นๆในโลกเรียกร้องให้เชช่วยเหลือ และเชได้ตัดสินใจไปช่วยทำสงครามปฏิวัติครั้งใหม่ ในจดหมายเชได้ประกาศสละทุกตำแหน่งที่ดำรงอยู่ ทั้งในรัฐบาล ในพรรค ในกองทัพ และสละสัญชาติชาวคิวบาที่ได้รับในปี 1959 (พ.ศ. 2502) อีกด้วย
1 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน คาสโตรให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศว่า เขารู้ว่าเชอยู่ที่ไหน แต่เขาเปิดเผยไม่ได้ เขาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า สหายร่วมรบของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว คาสโตรยืนยันว่า “เชมีสุขภาพดีที่สุด”
..เชหายสาบสูญไปนับแต่ปี 1965 และยังคงลึกลับอยู่ จนกระทั่งอีก 2 ปีต่อมา..
ใน “วันเมย์เดย์” หรือ “วันแรงงานโลก” 1 พฤษภาคม 1967 (พ.ศ. 2510) รัฐมนตรีกลาโหมคิวบายอมรับที่กรุงฮาวานา ว่า เชได้ไปเป็นหัวหน้ากองโจรในประเทศโบลิเวีย
เมื่อรู้ว่า เช มาเป็นหัวหน้ากองโจรในประเทศตน ประธานาธิบดี เรเน บาริเอนโตส ของโบลิเวีย ก็ได้ประกาศกร้าวว่า เขาต้องการจะเห็นศีรษะเช ถูกเสียบอยู่ที่ปลายหอกในย่านลาปาส และเขาได้สั่งการให้กองทัพโบลิเวียออกไล่ล่าเชและพรรคพวกทั้งหมดทันที
หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ทราบที่อยู่ของเช เจ้าหน้าที่ซีไอเอก็ถูกส่งเข้าไปฝึกกองกำลังพิเศษของกองทัพโบลิเวียทันที หลายสภาพการณ์อันเลวร้ายทำให้กองกำลังของเชถูกปิดล้อม จนเชถูกจับกุมตัวได้หลังบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง ในวันที่ 8 ตุลาคม 1967 และเชถูกนำตัวไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในฮีกูเอรา
คำพูดสุดท้ายที่เชกล่าวต่อเพชฌฆาตที่มาสังหารชีวิตเขา คือ
“ผมรู้ว่า..คุณมาที่นี่เพื่อจะฆ่าผม ยิงสิ กลัวอะไรอยู่ คุณเพียงฆ่าคนคนหนึ่งเท่านั้น”
9 ตุลาคม..เชถูกนายสิบของกองทัพโบลิเวีย ลั่นกระสุนปืนปลิดชีพ...
15 ตุลาคม คาสโตรได้ออกมายอมรับการตายของเช และประกาศไว้อาลัยให้เชทั่วประเทศคิวบาเป็นเวลา 3 วัน การตายของเชมีส่วนอย่างมาก ในการเร่งกระแสเปลี่ยนแปลงสังคมในละตินอเมริกา
ปี 1977 (พ.ศ. 2520) ได้มีการพบโครงกระดูกที่เหลืออยู่ของเช ใกล้กับ วัลเลกรานเต หลังตรวจสอบดีเอ็นเอจนแน่ชัดแล้ว วันที่ 17 ตุลาคม 1997 (พ.ศ. 2540) ร่างเชถูกนำกลับมาฝังในชุดเครื่องแบบทหารปฏิวัติเต็มยศ ในสุสานที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ณ เมืองซานตา คลารา สถานที่ซึ่งเชได้รับชัยชนะเมื่อ 39 ปีก่อน ในการทำสงครามปฏิวัติคิวบาอย่างสมเกียรติ
ชาวคิวบายังได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์ Ernesto Che Guevara เพื่อรำลึกและยกย่อง “วีรบุรุษ” นักปฏิวัติที่ต่อสู้กับรัฐบาลนายทุนสามานย์ในประเทศละตินอเมริกา และลัทธิจักรวรรดินิยมอเมริกา โดยมีพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวชีวประวัติ เช กูวารา ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกด้วย
เชปิดฉากชีวิตนักปฏิวัติด้วยวัยเพียง 39 ปี แต่ทุกวันนี้ผู้คนทั่วโลกที่สู้กับ “ลัทธิทุนนิยมสามานย์” ยังยืนยันว่า..
“เช..ยังไม่ตาย” และ “เช..ไม่มีวันตาย!”