หลังจากที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศให้วันที่ 9 พ.ค.56 เป็นพื้นที่ปลอดรถโดยสารนักท่องเที่ยว ที่ปกติมักจอดรับ-ส่งนักท่องเที่ยวโดยรอบพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) และเกาะรัตนโกสินทร์ จากการตรวจสอบเมื่อวานนี้ (9พ.ค.) ปรากฏว่า ยังพบรถโดยสารนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายอยู่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งรถทั้งหมดเมื่อจอดส่งนักท่องเที่ยวเสร็จ จะไปจอดรอที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (ปิ่นเกล้า) หรือสายใต้เก่า
จากกรณีดังกล่าวได้สอบถามไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการ กทม. พร้อมได้รับการชี้แจงว่า ขณะนี้ กทม.ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงสายใต้เก่าได้ เนื่องจากทางบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ยังติดสัญญาให้เอกชนเช่าพื้นที่ ในการซ่อมรถเก่าอยู่ แต่จะหมดสัญญาภายในสิ้นเดือนนี้ กทม.จึงจะสามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้ซึ่งทางบขส.ได้อนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรมาเรียบร้อยแล้วซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็พร้อมให้ความร่วมมือ
ด้านนายยุทธพันธุ์ มีชัย ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะคณะทำงาน กล่าวว่า จากเดิมกทม.ได้กำหนดให้ผู้ประกอบการรถรับส่งนักท่องเที่ยวนำรถไปจอดรอนักท่องเที่ยวที่สถานีขนส่งสายใต้เก่าในวันนี้ แต่หลังจากได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัทขนส่ง จำกัด กองบังคับการตำรวจจราจร ตำรวจท่องเที่ยวกองบังคับการตำรวจนครบาล สมาคมนักธุรกิจท่องเที่ยว และสมาคมการเดินรถ พบว่ายังคงมีปัญหาอุปสรรคและข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ของสถานีขนส่งสายใต้เก่า มีไม่เพียงพอ ซึ่งถึงแม้จะมีพื้นที่มากถึง 10 ไร่ แต่สามารถใช้ได้จริง 3 ไร่ และรองรับรถได้เพียง 30 - 40 คันเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่บางส่วนยังมีปัญหาเหลือสัญญาเช่ากับผู้เช่ารายเดิมอีก1 เดือน ซึ่งต้องขอเวลาแจ้งให้ผู้เช่ารายเดิมทราบก่อนเพื่อเคลียร์พื้นที่
ดังนั้น กทม.จึงพิจารณาเลื่อนกำหนดการจัดระเบียบออกไปอีก 30 วัน เพื่อจัดการให้ทุกอย่างแล้วเสร็จ ซึ่งระหว่างที่รอการดำเนินการในเรื่องของสถานที่แล้ว กทม.ยังได้มอบหมายให้ สำนักการจราจร ลงพื้นที่สำรวจบริเวณถนนบรมราชชนนี ว่าถ้าหากดำเนินการให้รถรับส่งนักท่องเที่ยวไปจอดรอที่สถานีขนส่งสายใต้เก่านั้น จะส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรหรือไม่ ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักการจราจรว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับการจราจร เนื่องจากพบว่าจะมีรถเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านต่อต้านการพิจารณาคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก ที่ได้เข้าไปใช้พื้นที่บริเวณท้องสนามหลวงเพื่อตั้งเวทีและเป็นที่พักโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเป็นต้องออกจากพื้นที่ เนื่องจากจะต้องใช้พื้นที่ดังกล่าวในการจัดงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคล ในวันที่ 13 พ.ค.นั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนเองได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยได้มีการยื่นข้อเสนอและทางแกนนำผู้ชุมนุมได้ขอไปหารือกันก่อน แต่รับปากว่าจะยอมย้ายออกก่อนวันงานพระราชพิธี อย่างแน่นอน
จากกรณีดังกล่าวได้สอบถามไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการ กทม. พร้อมได้รับการชี้แจงว่า ขณะนี้ กทม.ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงสายใต้เก่าได้ เนื่องจากทางบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ยังติดสัญญาให้เอกชนเช่าพื้นที่ ในการซ่อมรถเก่าอยู่ แต่จะหมดสัญญาภายในสิ้นเดือนนี้ กทม.จึงจะสามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้ซึ่งทางบขส.ได้อนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรมาเรียบร้อยแล้วซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็พร้อมให้ความร่วมมือ
ด้านนายยุทธพันธุ์ มีชัย ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะคณะทำงาน กล่าวว่า จากเดิมกทม.ได้กำหนดให้ผู้ประกอบการรถรับส่งนักท่องเที่ยวนำรถไปจอดรอนักท่องเที่ยวที่สถานีขนส่งสายใต้เก่าในวันนี้ แต่หลังจากได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัทขนส่ง จำกัด กองบังคับการตำรวจจราจร ตำรวจท่องเที่ยวกองบังคับการตำรวจนครบาล สมาคมนักธุรกิจท่องเที่ยว และสมาคมการเดินรถ พบว่ายังคงมีปัญหาอุปสรรคและข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ของสถานีขนส่งสายใต้เก่า มีไม่เพียงพอ ซึ่งถึงแม้จะมีพื้นที่มากถึง 10 ไร่ แต่สามารถใช้ได้จริง 3 ไร่ และรองรับรถได้เพียง 30 - 40 คันเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่บางส่วนยังมีปัญหาเหลือสัญญาเช่ากับผู้เช่ารายเดิมอีก1 เดือน ซึ่งต้องขอเวลาแจ้งให้ผู้เช่ารายเดิมทราบก่อนเพื่อเคลียร์พื้นที่
ดังนั้น กทม.จึงพิจารณาเลื่อนกำหนดการจัดระเบียบออกไปอีก 30 วัน เพื่อจัดการให้ทุกอย่างแล้วเสร็จ ซึ่งระหว่างที่รอการดำเนินการในเรื่องของสถานที่แล้ว กทม.ยังได้มอบหมายให้ สำนักการจราจร ลงพื้นที่สำรวจบริเวณถนนบรมราชชนนี ว่าถ้าหากดำเนินการให้รถรับส่งนักท่องเที่ยวไปจอดรอที่สถานีขนส่งสายใต้เก่านั้น จะส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรหรือไม่ ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักการจราจรว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับการจราจร เนื่องจากพบว่าจะมีรถเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านต่อต้านการพิจารณาคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก ที่ได้เข้าไปใช้พื้นที่บริเวณท้องสนามหลวงเพื่อตั้งเวทีและเป็นที่พักโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเป็นต้องออกจากพื้นที่ เนื่องจากจะต้องใช้พื้นที่ดังกล่าวในการจัดงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคล ในวันที่ 13 พ.ค.นั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนเองได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยได้มีการยื่นข้อเสนอและทางแกนนำผู้ชุมนุมได้ขอไปหารือกันก่อน แต่รับปากว่าจะยอมย้ายออกก่อนวันงานพระราชพิธี อย่างแน่นอน