ASTVผู้จัดการรายวัน - กสท.กำหนดราคาขั้นต่ำประมูลทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจ24 ช่องรวมมูลค่า 15,190 ล้านบาท คาดประมูลเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ พร้อมเจียดเงิน 690 บาทต่อครัวเรือนสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบทีวีดิจิตอล
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดกสท.เมื่อวันที่ 7 พ.ค.มีมติเห็นชอบแนวทางการคิดราคาประมูลขั้นต่ำในรูปแบบที่ 1คือการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ ซึ่งทีมที่ปรึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ประเมินมูลค่าขั้นต่ำคลื่นความถี่จำนวน 24 ช่องธุรกิจรวมเป็นเงิน 15,190 ล้านบาท แบ่งเป็น ช่องความคมชัดสูง (high definition : HD) อยู่ที่ช่องละ 1,510 ล้านบาท ช่องวาไรตี้ ความชัดมาตรฐาน (standard definition : SD)ช่องละ 380 ล้านบาท ช่องข่าว SD ช่องละ 220 ล้านบาท และช่องเด็ก SD ช่องละ 140 ล้านบาท
โดยใช้สูตรจัดสรรช่องรายการคือ 3-7-7-7 คือช่องเด็กSD 3 ช่อง, ช่องข่าว SD 7 ช่อง, ช่องวาไรตี้ SD 7 ช่อง และ ช่องHD 7 ช่อง หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2556 บอร์ดกสท.ได้สั่งให้ทีมที่ปรึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลับไปศึกษาราคาประมูลทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจใหม่ เพราะมีการเปลี่ยนสูตรการแบ่งช่องรายการ จากเดิมใช้สูตรจัดสรรช่อง 5-5-10-4 โดยแบ่งเป็นช่องเด็ก 5 ช่อง, ช่องข่าว SD 5 ช่อง, ช่องวาไรตี้ SD 10 ช่อง และ 4 ช่อง HD
สำหรับขั้นตอนต่อไป จะมีการนำร่างประกาศหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิตอลที่มีการระบุราคาขั้นต่ำในการประมูล เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ(ประชาพิจารณ์) ก่อนจะเข้าบอร์ดกสท.และกสทช.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง หลังจากนั้นจะออกประกาศเชิญชวน (ไอเอ็ม) ผู้สนใจที่จะยื่นประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในอีก1-2 เดือนข้างหน้าหรือในเดือนส.ค.- ก.ย.ที่จะถึงนี้
'คาดว่าภายในเดือนธ.ค.นี้ประชาชนจะสามารถรับชมการแพร่ภาพในระบบทีวีดิจิตอลได้ประมาณ 20%-30% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศก่อน และจากนั้นอีก2ปีจะสามารถครอบคลุมได้ 80%'
พ.อ.นที กล่าวว่า ส่วนกรณีการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลนั้น เบื้องต้นจะมีการสนับสนุนเงินสำหรับซื้อกล่องแปลงสัญญาณ (set-top-box) หรือเครื่องรับโทรทัศน์ที่สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้ครัวเรือนละ 690 บาท ซึ่งคิดจากราคาขั้นต่ำของเงินประมูล และหารด้วยจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศประมาณ 22 ล้านครัวเรือน
ส่วนการมอบใบอนุญาตประเภทโครงข่ายจะเริ่มพิจารณาผู้ประกอบการรายเดิมที่มีความพร้อมในการขอทำโครงข่ายภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้เช่นเดียวกัน
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดกสท.เมื่อวันที่ 7 พ.ค.มีมติเห็นชอบแนวทางการคิดราคาประมูลขั้นต่ำในรูปแบบที่ 1คือการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ ซึ่งทีมที่ปรึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ประเมินมูลค่าขั้นต่ำคลื่นความถี่จำนวน 24 ช่องธุรกิจรวมเป็นเงิน 15,190 ล้านบาท แบ่งเป็น ช่องความคมชัดสูง (high definition : HD) อยู่ที่ช่องละ 1,510 ล้านบาท ช่องวาไรตี้ ความชัดมาตรฐาน (standard definition : SD)ช่องละ 380 ล้านบาท ช่องข่าว SD ช่องละ 220 ล้านบาท และช่องเด็ก SD ช่องละ 140 ล้านบาท
โดยใช้สูตรจัดสรรช่องรายการคือ 3-7-7-7 คือช่องเด็กSD 3 ช่อง, ช่องข่าว SD 7 ช่อง, ช่องวาไรตี้ SD 7 ช่อง และ ช่องHD 7 ช่อง หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2556 บอร์ดกสท.ได้สั่งให้ทีมที่ปรึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลับไปศึกษาราคาประมูลทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจใหม่ เพราะมีการเปลี่ยนสูตรการแบ่งช่องรายการ จากเดิมใช้สูตรจัดสรรช่อง 5-5-10-4 โดยแบ่งเป็นช่องเด็ก 5 ช่อง, ช่องข่าว SD 5 ช่อง, ช่องวาไรตี้ SD 10 ช่อง และ 4 ช่อง HD
สำหรับขั้นตอนต่อไป จะมีการนำร่างประกาศหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิตอลที่มีการระบุราคาขั้นต่ำในการประมูล เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ(ประชาพิจารณ์) ก่อนจะเข้าบอร์ดกสท.และกสทช.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง หลังจากนั้นจะออกประกาศเชิญชวน (ไอเอ็ม) ผู้สนใจที่จะยื่นประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในอีก1-2 เดือนข้างหน้าหรือในเดือนส.ค.- ก.ย.ที่จะถึงนี้
'คาดว่าภายในเดือนธ.ค.นี้ประชาชนจะสามารถรับชมการแพร่ภาพในระบบทีวีดิจิตอลได้ประมาณ 20%-30% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศก่อน และจากนั้นอีก2ปีจะสามารถครอบคลุมได้ 80%'
พ.อ.นที กล่าวว่า ส่วนกรณีการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลนั้น เบื้องต้นจะมีการสนับสนุนเงินสำหรับซื้อกล่องแปลงสัญญาณ (set-top-box) หรือเครื่องรับโทรทัศน์ที่สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้ครัวเรือนละ 690 บาท ซึ่งคิดจากราคาขั้นต่ำของเงินประมูล และหารด้วยจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศประมาณ 22 ล้านครัวเรือน
ส่วนการมอบใบอนุญาตประเภทโครงข่ายจะเริ่มพิจารณาผู้ประกอบการรายเดิมที่มีความพร้อมในการขอทำโครงข่ายภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้เช่นเดียวกัน
