ASTVผู้จัดการรายวัน - “พี่มากพระโขนง” ปลุกอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไต่สู่5,000 ล้านบาทเป็นปีแรกในสิ้นปีนี้ อานิสงส์หนังเทศเติบโตร่วม 20% “ยูไอพี” จัดหนัก ส่ง 18 เรื่องดูดเม็ดเงินคอหนังเทศ มั่นใจ ฟาสต์6, เวิลด์วอร์ ซี , สตาร์เทรคไต่สู่ 100 ล้านได้ไม่ยาก ส่งภาพรวมรายได้ถึง 800 ล้านบาท
นายปัณณทัต พรหมสุภา ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัทยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ (ฟาร์อีสต์) หรือยูไอพี บริษัทร่วมทุนระหว่างสตูดิโอชั้นนำของสหรัฐอเมริกา คือ พาราเม้าท์พิคเจอร์ส และยูนิเวอร์แซลพิคเจอร์ส เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทยปีนี้ เชื่อว่าจะได้เห็นถึง 5,000 ล้านบาทเป็นปีแรก จากปีก่อนที่มีมูลค่ารวมที่ 4,100 กว่าล้านบาท
ส่วนสำคัญมาจากภาพยนตร์ไทยที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทย โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยเรื่อง พี่มากพระโขนง ที่คาดว่าจะมีรายได้เกิน 500 ล้านบาท เป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ทำให้เห็นว่า ตลาดภาพยนตร์ไทยยังมีโอกาสและเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เติบโตได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรายชื่อภาพยนตร์ไทยที่จะเข้าฉายตามกำหนดเดิมในปีนี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็น พระนเรศวร ภาค4 หรือ ต้มยำกุ้งภาค2 ที่คาดการณ์กันว่าจะทำรายได้ค่อนข้างสูง นอกจากนี้จากการขยายตัวของกลุ่มโรงภาพยนตร์ไปสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เติบโตขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามเฉพาะกลุ่มภาพยนตร์จากต่างประเทศนั้น ปีนี้ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่มองว่าจะมีโอกาสเติบโตสูงมาก เพราะมีรายชื่อภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทำเงิน โดยเฉพาะหนังภาคต่อหลายเรื่องที่จะเข้าฉายในปีนี้ เช่น จีไอโจ2, ฟาสต์6, ไอรอนแมน3 และธอร์ ภาค2 เป็นต้น หรือน่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ขึ้นไป
นายปัณณทัต กล่าวต่อว่า ในส่วนของยูไอพีนั้น ปีนี้มีรายชื่อภาพยนตร์ต่างประเทศเข้าฉายรวมกว่า 18 เรื่อง จากปกติต่อปีจะมีภาพยนตร์เข้าฉายปีละ 15-20 เรื่องทุกปี ซึ่งปีนี้มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องที่คาดว่าจะทำเงินสูงกว่า 100 ล้านบาทขึ้น อาทิเช่น ในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ภาพยนตร์ เรื่อง จีไอโจ ภาค2 ทำรายได้ไปกว่า 120 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนในครึ่งปีหลังนี้ จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เข้าฉายอีกหลายเรื่อง เช่น ฟาสต์6, สตาร์เทรค, เวิลด์วอร์ ซี และจูราสิคปาร์ค 3D ดดยคาดหวังว่าทั้ง 3 เรื่องนี้ จะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป เพราะถือเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ภาคต่อ อย่าง ฟาสต์6 และจูราสิคปาร์ค 3 D ส่วนเวิล์ดวอร์ ซี ได้แบรด พิท แสดงนำ อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ที่ถูกคอคนไทย จึงมั่นใจว่าถึงสิ้นปีนี้
ยูไอพี น่าจะมีรายได้กว่า 800 ล้านบาท จากปีก่อน ทำได้ 500 ล้านบาทได้
นายปัณณทัต พรหมสุภา ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัทยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ (ฟาร์อีสต์) หรือยูไอพี บริษัทร่วมทุนระหว่างสตูดิโอชั้นนำของสหรัฐอเมริกา คือ พาราเม้าท์พิคเจอร์ส และยูนิเวอร์แซลพิคเจอร์ส เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทยปีนี้ เชื่อว่าจะได้เห็นถึง 5,000 ล้านบาทเป็นปีแรก จากปีก่อนที่มีมูลค่ารวมที่ 4,100 กว่าล้านบาท
ส่วนสำคัญมาจากภาพยนตร์ไทยที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทย โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยเรื่อง พี่มากพระโขนง ที่คาดว่าจะมีรายได้เกิน 500 ล้านบาท เป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ทำให้เห็นว่า ตลาดภาพยนตร์ไทยยังมีโอกาสและเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เติบโตได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรายชื่อภาพยนตร์ไทยที่จะเข้าฉายตามกำหนดเดิมในปีนี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็น พระนเรศวร ภาค4 หรือ ต้มยำกุ้งภาค2 ที่คาดการณ์กันว่าจะทำรายได้ค่อนข้างสูง นอกจากนี้จากการขยายตัวของกลุ่มโรงภาพยนตร์ไปสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เติบโตขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามเฉพาะกลุ่มภาพยนตร์จากต่างประเทศนั้น ปีนี้ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่มองว่าจะมีโอกาสเติบโตสูงมาก เพราะมีรายชื่อภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทำเงิน โดยเฉพาะหนังภาคต่อหลายเรื่องที่จะเข้าฉายในปีนี้ เช่น จีไอโจ2, ฟาสต์6, ไอรอนแมน3 และธอร์ ภาค2 เป็นต้น หรือน่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ขึ้นไป
นายปัณณทัต กล่าวต่อว่า ในส่วนของยูไอพีนั้น ปีนี้มีรายชื่อภาพยนตร์ต่างประเทศเข้าฉายรวมกว่า 18 เรื่อง จากปกติต่อปีจะมีภาพยนตร์เข้าฉายปีละ 15-20 เรื่องทุกปี ซึ่งปีนี้มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องที่คาดว่าจะทำเงินสูงกว่า 100 ล้านบาทขึ้น อาทิเช่น ในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ภาพยนตร์ เรื่อง จีไอโจ ภาค2 ทำรายได้ไปกว่า 120 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนในครึ่งปีหลังนี้ จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เข้าฉายอีกหลายเรื่อง เช่น ฟาสต์6, สตาร์เทรค, เวิลด์วอร์ ซี และจูราสิคปาร์ค 3D ดดยคาดหวังว่าทั้ง 3 เรื่องนี้ จะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป เพราะถือเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ภาคต่อ อย่าง ฟาสต์6 และจูราสิคปาร์ค 3 D ส่วนเวิล์ดวอร์ ซี ได้แบรด พิท แสดงนำ อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ที่ถูกคอคนไทย จึงมั่นใจว่าถึงสิ้นปีนี้
ยูไอพี น่าจะมีรายได้กว่า 800 ล้านบาท จากปีก่อน ทำได้ 500 ล้านบาทได้