xs
xsm
sm
md
lg

เหตุที่ต้องล้มศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2554 ประธานวุฒิสภาขณะนั้น คือ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร มีหนังสือที่ สว 0008/5582 เป็นหนังสือกราบบังคมทูลฯ เรื่องแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ความว่า

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ดังนี้ ตามที่นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ขอลาออกจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีผลให้พ้นจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ซึ่งที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบ

ต่อมาที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมและเลือกกันเอง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554 ให้นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ตามมาตรา 204 วรรคสาม

ข้าพระพุทธเจ้า จึงขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายร่างประกาศแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญมาเพื่อทรงพิจารณา หากชอบด้วยพระราชดำริ ขอพระราชทานพระมหากรุณาทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อข้าพระพุทธเจ้าจักได้รับพระราชทานดำเนินการต่อไป

ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธีรเดช มีเพียร

จากนั้นก็เป็นขั้นตอนที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนนายชัช ชลวร นั้นเมื่อลาออกจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการประชุมเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ นายชัช ชลวร ได้รับเลือกให้เป็นประธานในที่ประชุม และที่ประชุมเลือกนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์

การออกมาร้องแรกแหกกระเชอว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็ดี การประชุมเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญ (นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์) ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ดี ประธานศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นขบวนการเดียวกันทั้งสิ้นกับการชุมนุมเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหยุดปฏิบัติหน้าที่ พวกเสนอแนวคิดไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งไอ้พวกที่เสนอปรับโครงสร้างศาลรัฐธรรมนูญเสียใหม่ในขณะนี้

ทั้งที่ก่อนหน้านี้บรรดาคนเหล่านี้ต่างก็ยอมรับอำนาจศาลนี้ ตุลาการชุดเดียวกันนี้ เคยเป็นทั้งผู้ร้องศาล และเป็นผู้ถูกร้อง เมื่อศาลตัดสินให้ชนะพวกมันก็กล่าวขอบคุณศาล เป็นต้น กรณีออกพระราชกำหนดขอกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทมาแก้ปัญหาน้ำท่วม พวกมันก็บอกว่า ขอบคุณศาลที่เห็นความจำเป็นของฝ่ายบริหาร

บางคดี เช่น ศาลรับคำร้องเมื่อมีผู้คนหลายกลุ่มมาร้องต่อศาลว่า พบการกระทำที่อาจจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ อาจจะเป็นการล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงการปกครองจากรูปแบบที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นการปกครองในรูปแบบอื่น พวกมันก็เป็นเดือดเป็นแค้น บอกว่าศาลไม่มีอำนาจที่จะรับคำร้อง คำร้องนั้นต้องผ่านอัยการเท่านั้น

แต่ก็ยังดี ทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคต่างก็ไปชี้แจงต่อศาล

ก่อนที่ศาลจะตัดสินก็พิโอดพิโอยร้องว่าศาลไม่เป็นธรรม บรรดาขี้ข้าม้าใช้ออกมาด่าศาล ด่าตุลาการ แกนนำที่มันยุให้เผาบ้านเผาเมืองมันพูดด้วยซ้ำว่า วสันต์ แปลว่า หน้าฝน นายวสันต์ จึงไม่น่าจะพ้นหน้าฝนนี้ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนที่ได้รับประกันตัวออกมาต้องกลับไปอยู่ในคุกใหม่เพราะศาลอาญาถอนประกัน ระหว่างปิดสมัยประชุมในขณะนี้ เพราะด่า ข่มขู่ คุกคามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

เหตุสำคัญน่าจะมาจากพวกมันมองเห็นอนาคตแล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้มีจุดยืนอันแน่วแน่มั่นคง ถุงขนม 2 ล้านไม่อาจจะโยกคลอนจิตใจตุลาการทั้งหลายได้ มีกรณีอื่นๆรออยู่ เป็นต้นว่า พระราชบัญญัติกู้เงิน 2.2ล้านล้านบาท ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน มีผู้ที่จะร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญแน่นอน

ยังมีอีก ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือการนิรโทษกรรมยากที่จะผ่านด่านของศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ เพราะมันขัดรัฐธรรมนูญเห็นโต้งๆ จะอาศัยเสียงข้างมากผ่านสภาฯ ไปได้อย่างไร ถ้าหากเสียงข้างมากว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้นก็ไม่ต้องมีศาลรัฐธรรมนูญ

การออกมาข่มขู่คุกคามเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญหยุดปฏิบัติหน้าที่ การเสนอแนวคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือการฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญ ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย การไม่ยอมรับอำนาจศาลล้วนแล้วแต่เป็นขบวนการเดียวกัน เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของศาล เพื่อให้ผู้คนเห็นว่า ศาลใช้ไม่ได้ ไม่เป็นธรรม ทั้งที่บางเรื่องบางกรณีมันก็ออกมาขอบคุณ ดังได้กล่าวแล้ว

มันเอาแต่ได้

เมื่อมันเห็นว่ามันจะไม่ได้ เป็นต้น ถ้าหากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านไม่ผ่าน 20 เปอร์เซ็นต์ของการจัดซื้อจัดจ้าง (นี่คิดอย่างย่อมที่สุดแล้ว) มันก็อด ถ้าหากร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ผ่าน ไอ้พวกเผาบ้านเผาเมืองก็ต้องไปศาล ไอ้คนที่สั่งให้เอาน้ำมันมาคนละขวด ไอ้ที่บอกว่า เกิดอะไรขึ้นให้ไปที่ศาลากลางจังหวัด รอคำสั่ง หรือไอ้ที่บอกว่า เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง คนเหล่านี้มันก็ต้องเดือดร้อนติดคุกติดตะราง
กำลังโหลดความคิดเห็น