00 นาทีนี้ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าการเคลื่อนไหวทุกอย่างทั้งจากรัฐบาล แม้แต่โพยขายชาติตัวเองของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรธน. แต่ดันไปยอมรับศาลโลกของพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ ส.ว.รวม 312 คน การปิดล้อมข่มขู่ศาลฯ ของพวกลิ่วล้อเสื้อแดงล้วนมีต้นตอจาก ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากที่ได้รับคำสั่งเด็ดขาดมาเมื่อครั้งสไกป์เข้ามาในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวันก่อน สั่งให้ลุยเต็มตัว ทำให้ได้เห็นธาตุแท้ว่า ทุกอย่างที่สั่งให้คนพวกนี้ทำนั้นล้วนเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรธน. ที่ทำเพื่ออำนาจในวันหน้า รวมไปถึงการสั่งให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เร่งเดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง แล้วลอยแพ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ ของกลุ่มเสื้อแดง โดยอ้างว่า "เดินไม่สุดซอย" ความหมายก็คือ "ตัวกูไม่ได้ลบล้างความผิดด้วย" เรื่องของเรื่องมันมีอยู่แค่นี้แหละ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
00 อย่างไรก็ดี คราวนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่คนอย่าง ทักษิณ เปิดหน้าชก แลกหมัดเต็มตัว ไม่แอบอำพรางอยู่ในเงามืดเหมือนในอดีต ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า เขากำลัง "ลอยคอ" จนแทบปอดบวมตายแล้วก็ได้ เพราะที่ผ่านมามีแต่พวกหลอกรับประทาน อยากได้ตำแหน่งยกขบวนไปป้อยอกันจนเลี่ยน แต่ในความเป็นจริงแล้วความปราถนาที่จะได้กลับบ้านอย่างเท่ นับวันก็ย่งห่างไกล คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าอีกด้านหนึ่งดูเหมือนว่าเขาจะสั่ง "ทุ่มกำลัง" เข้าตีพร้อมกันทุกด้าน ซึ่งในเบื้องต้นอาจดูมีพลังหักโหมรุนแรง แต่ยิ่งนานวันเมื่อสังคมได้เห็นธาตุแท้ เห็นถึงความเอาเปรียบที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง มันก็ยิ่งเกิดความรังเกียจ และรวมพลังกันต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคุกคามศาลรธน.ในเวลานี้ ซึ่งในสังคมไทยยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ได้ยาก เพราะดูเหมือนว่า บ้านเมืองไร้ขื่อแป ไม่มีกติกา และในที่สุดคนอย่าง ทักษิณ คงจะได้ลอยคอจนปอดบวมตายจริงๆ !!
00 สำรับชายแดนใต้เวลานี้ถือว่าเข้าขั้นมิกสัญญีเข้าไปทุกทีแล้ว ล่าสุดเกิดเหตุคนร้ายยกขบวนมากราดยิงเข้าไปในร้านขายของชำ และลงจากรถมาจ่อยิงซ้ำทีละนัด ทีละนัด จนเสียชีวิตพร้อมกันถึง 6 ศพ ในจำนวนนั้นมีเด็กอายุเพียง 3 ขวบ และชายที่ขาพิการทั้งสองข้างก็ยังถูกยิงเสียชีวิต และที่สำคัญเป็นการก่อเหตุในกลางใจเมืองปัตตานีเสียด้วย เป็นเหตุร้ายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายรัฐ นำโดย เลขาฯสมช. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เพิ่งเสร็จสิ้นการเจรจากับฝ่าย"บีอาร์เอ็น" ที่รับปากว่า "จะลดปฏิบัติการรุนแรงลง" ทุด !! เพียงแค่นี้ชาวบ้านเขาก็รู้กันแล้วว่ามัน "ของปลอม" ทั้งคู่
00 ต้องยอมรับว่าคนอย่าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ ทำหน้าที่ได้สุดยอดจริงๆ ไม่ต้องไปสนใจถึงความรู้สึกของใครหน้าไหนทั้งสิ้น ในเมื่อมีธงเอาไว้ในใจแล้วก็ต้องเดินหน้าให้ "สุดซอย" อย่างที่แม้วว่าจริงๆ เพราะล่าสุดได้เตรียมตั้งข้อหา "ฆ่าคนตาย" เพิ่มกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ จากกรณีสลายการชุมนุม เมื่อปี 53 ทั้งที่มองอย่างคนที่รู้ก็ต้องบอกว่า ในที่สุดแล้วจะเอาผิดทั้งสองคนนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และต้องใช้เวลาอีกนาน แต่ก็ต้องหาทางมัดมือมัดเท้าเอาไว้ก่อน เอา "ชนักปักหลัง" เอาไว้ก่อน อย่างน้อยแม้จะทำอะไรไม่ได้มาก แต่สร้างความรำคาญก็ยังดี นี่แหละถึงได้บอกว่าคนอย่าง ธาริต นี่แหละสุดยอด แต่ขอโทษ ออกมาในโทน "ด้านสุดยอดนะ" ขอบอก !!
00 อย่างไรก็ดี คราวนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่คนอย่าง ทักษิณ เปิดหน้าชก แลกหมัดเต็มตัว ไม่แอบอำพรางอยู่ในเงามืดเหมือนในอดีต ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า เขากำลัง "ลอยคอ" จนแทบปอดบวมตายแล้วก็ได้ เพราะที่ผ่านมามีแต่พวกหลอกรับประทาน อยากได้ตำแหน่งยกขบวนไปป้อยอกันจนเลี่ยน แต่ในความเป็นจริงแล้วความปราถนาที่จะได้กลับบ้านอย่างเท่ นับวันก็ย่งห่างไกล คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าอีกด้านหนึ่งดูเหมือนว่าเขาจะสั่ง "ทุ่มกำลัง" เข้าตีพร้อมกันทุกด้าน ซึ่งในเบื้องต้นอาจดูมีพลังหักโหมรุนแรง แต่ยิ่งนานวันเมื่อสังคมได้เห็นธาตุแท้ เห็นถึงความเอาเปรียบที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง มันก็ยิ่งเกิดความรังเกียจ และรวมพลังกันต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคุกคามศาลรธน.ในเวลานี้ ซึ่งในสังคมไทยยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ได้ยาก เพราะดูเหมือนว่า บ้านเมืองไร้ขื่อแป ไม่มีกติกา และในที่สุดคนอย่าง ทักษิณ คงจะได้ลอยคอจนปอดบวมตายจริงๆ !!
00 สำรับชายแดนใต้เวลานี้ถือว่าเข้าขั้นมิกสัญญีเข้าไปทุกทีแล้ว ล่าสุดเกิดเหตุคนร้ายยกขบวนมากราดยิงเข้าไปในร้านขายของชำ และลงจากรถมาจ่อยิงซ้ำทีละนัด ทีละนัด จนเสียชีวิตพร้อมกันถึง 6 ศพ ในจำนวนนั้นมีเด็กอายุเพียง 3 ขวบ และชายที่ขาพิการทั้งสองข้างก็ยังถูกยิงเสียชีวิต และที่สำคัญเป็นการก่อเหตุในกลางใจเมืองปัตตานีเสียด้วย เป็นเหตุร้ายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายรัฐ นำโดย เลขาฯสมช. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เพิ่งเสร็จสิ้นการเจรจากับฝ่าย"บีอาร์เอ็น" ที่รับปากว่า "จะลดปฏิบัติการรุนแรงลง" ทุด !! เพียงแค่นี้ชาวบ้านเขาก็รู้กันแล้วว่ามัน "ของปลอม" ทั้งคู่
00 ต้องยอมรับว่าคนอย่าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ ทำหน้าที่ได้สุดยอดจริงๆ ไม่ต้องไปสนใจถึงความรู้สึกของใครหน้าไหนทั้งสิ้น ในเมื่อมีธงเอาไว้ในใจแล้วก็ต้องเดินหน้าให้ "สุดซอย" อย่างที่แม้วว่าจริงๆ เพราะล่าสุดได้เตรียมตั้งข้อหา "ฆ่าคนตาย" เพิ่มกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ จากกรณีสลายการชุมนุม เมื่อปี 53 ทั้งที่มองอย่างคนที่รู้ก็ต้องบอกว่า ในที่สุดแล้วจะเอาผิดทั้งสองคนนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และต้องใช้เวลาอีกนาน แต่ก็ต้องหาทางมัดมือมัดเท้าเอาไว้ก่อน เอา "ชนักปักหลัง" เอาไว้ก่อน อย่างน้อยแม้จะทำอะไรไม่ได้มาก แต่สร้างความรำคาญก็ยังดี นี่แหละถึงได้บอกว่าคนอย่าง ธาริต นี่แหละสุดยอด แต่ขอโทษ ออกมาในโทน "ด้านสุดยอดนะ" ขอบอก !!