ASTVผู้จัดการรายวัน - แม่ “ฮาเวิร์ด หวัง” โร่ร้องศาล ปค.ขอถอนแบนลูกชายจากบัญชีดำ หวั่นกระทบการทำงานทนาย ระบุขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ไม่ให้ สตม.ผลักดัน ฮาเวิร์ด ออกนอกประเทศ ชี้ถ้าศาลมีคำสั่งนี้ จะประกันตัวฮาเวิร์ดออกมา
วานนี้ (30 เม.ย.) นางชิงหลัน จู้ลี่ซู มารดานายฮาเวิร์ด หวัง พร้อมด้วยนายอากาศ วสิกชาติ ทนายความ ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนรายชื่อนายฮาเวิร์ด ออกจากบัญชีบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย และก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว สั่งไม่ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองผลักดันฮาเวิร์ดออกนอกประเทศจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้ นายอากาศ กล่าวว่า ที่ต้องมาร้องต่อศาลปกครอง เนื่องจากเห็นว่าการที่ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ใช้ดุลพินิจ ตามมาตรา 12 อนุ 7 ของ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง 2522 ที่กำหนดว่าบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมให้เป็นบุคคลที่ต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย ขึ้นบัญชีนายฮาเวิร์ด หวัง เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศ ไม่ถูกต้องเป็นธรรม โดยตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้กำหนดนิยามว่า “บุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม” มีความหมายอย่างไร
จากการสอบถามกับผู้บัญชาการตีความเองว่า ฮาเวิร์ด เป็นคนที่มีชื่อเสียงแต่ทำผิดซ้ำซาก จึงขึ้นบัญชีฮาเวิร์ด ต้องห้ามเข้าระเทศ ประกอบกับก่อนที่นายฮาเวิร์ด จะเดินกลับเข้าในประเทศไทยและถูกจับกุมตัว นายฮาเวิร์ดไม่ได้รับแจ้งว่าเป็นบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย หากได้รับแจ้งคงไม่เดินทางเข้ามา โดยนายฮาเวิร์ด จะถูกจับกุม ได้เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 มี.ค.แต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้ขึ้นบัญชีนายฮาเวิร์ด เมื่อวันที่ 2 เม.ย.เมื่อนายฮาเวิร์ด เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 เม.ย.เพื่อพบกับมารดาตามที่นัดหมายไว้ จนถูกจับกุม
“แม่ของฮาเวิร์ด บอกแล้วว่าจะไม่ไปร้องขอความเป็นธรรมที่ไหนอีกแล้ว จะหันมาสู้ตามกระบวนการ โดยเป็นห่วงเรื่องการถูกขึ้นบัญชีของฮาเวิร์ด เพราะจะมีผลกระทบต่อการทำงาน เนื่องจากฮาเวิร์ดมีงานอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่ง ในฐานะทนาย ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นประกันตัวในคดีบุกรุก เพราะถ้าประกันตัวออกมาก็ต้องถูกจับเข้าคุกใหม่อยู่ดี เนื่องจากชื่อยังเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศ จึงต้องขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ไม่ให้ สตม.ผลักดัน ฮาเวิร์ด ออกนอกประเทศ ถ้าศาลมีคำสั่งนี้ ถึงจะประกันตัวฮาเวิร์ดออกมา” ทนายความ กล่าว
วานนี้ (30 เม.ย.) นางชิงหลัน จู้ลี่ซู มารดานายฮาเวิร์ด หวัง พร้อมด้วยนายอากาศ วสิกชาติ ทนายความ ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนรายชื่อนายฮาเวิร์ด ออกจากบัญชีบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย และก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว สั่งไม่ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองผลักดันฮาเวิร์ดออกนอกประเทศจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้ นายอากาศ กล่าวว่า ที่ต้องมาร้องต่อศาลปกครอง เนื่องจากเห็นว่าการที่ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ใช้ดุลพินิจ ตามมาตรา 12 อนุ 7 ของ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง 2522 ที่กำหนดว่าบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมให้เป็นบุคคลที่ต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย ขึ้นบัญชีนายฮาเวิร์ด หวัง เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศ ไม่ถูกต้องเป็นธรรม โดยตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้กำหนดนิยามว่า “บุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม” มีความหมายอย่างไร
จากการสอบถามกับผู้บัญชาการตีความเองว่า ฮาเวิร์ด เป็นคนที่มีชื่อเสียงแต่ทำผิดซ้ำซาก จึงขึ้นบัญชีฮาเวิร์ด ต้องห้ามเข้าระเทศ ประกอบกับก่อนที่นายฮาเวิร์ด จะเดินกลับเข้าในประเทศไทยและถูกจับกุมตัว นายฮาเวิร์ดไม่ได้รับแจ้งว่าเป็นบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย หากได้รับแจ้งคงไม่เดินทางเข้ามา โดยนายฮาเวิร์ด จะถูกจับกุม ได้เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 มี.ค.แต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้ขึ้นบัญชีนายฮาเวิร์ด เมื่อวันที่ 2 เม.ย.เมื่อนายฮาเวิร์ด เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 เม.ย.เพื่อพบกับมารดาตามที่นัดหมายไว้ จนถูกจับกุม
“แม่ของฮาเวิร์ด บอกแล้วว่าจะไม่ไปร้องขอความเป็นธรรมที่ไหนอีกแล้ว จะหันมาสู้ตามกระบวนการ โดยเป็นห่วงเรื่องการถูกขึ้นบัญชีของฮาเวิร์ด เพราะจะมีผลกระทบต่อการทำงาน เนื่องจากฮาเวิร์ดมีงานอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่ง ในฐานะทนาย ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นประกันตัวในคดีบุกรุก เพราะถ้าประกันตัวออกมาก็ต้องถูกจับเข้าคุกใหม่อยู่ดี เนื่องจากชื่อยังเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศ จึงต้องขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ไม่ให้ สตม.ผลักดัน ฮาเวิร์ด ออกนอกประเทศ ถ้าศาลมีคำสั่งนี้ ถึงจะประกันตัวฮาเวิร์ดออกมา” ทนายความ กล่าว