ASTV ผู้จัดการรายวัน - ผบช.น.มีคำสั่งให้ ด.ต.ฉาวสังกัด สน.ดินแดง ที่มีคลิปว่อนโลกอินเทอร์เน็ตว่ามีพฤติกรรมพาสาวเข้าม่านรูด ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่เจ้าตัวเตรียมเข้ารายงานตัวพรุ่งนี้ พร้อมสั่ง ร.ต.ต.สังกัด สน.ทองหล่อ ผู้ต้องหาข่มขืนสาวลาวออกจากราชการเช่นกัน ระบุตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วมีมูล ลั่นไม่ปกป้องคนทำผิด
วานนี้(29 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูป กระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในโซเชี่ยลมีเดียว่า ตำรวจ สน.ดิน แดงมีพฤติกรรมพาหญิงสาวเข้าโรงแรมม่านรูด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของตำรวจรายนี้อย่างกว้างขวางว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปแล้ว และได้สั่งการให้ ด.ต.วรวิทย์ นุกูลกิจ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ดินแดง ซึ่งปรากฏในคลิป ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และรอตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยขณะนี้ ด.ต.วรวิทย์ อยู่ระหว่างการลาราชการเพื่อสอบเลื่อนชั้นเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ล่าสุดได้รับการติดต่อจาก ด.ต.วรวิทย์ แล้วว่าจะเข้ารายงานตัวในวันนี้ แต่ยังไม่ระบุเวลา เนื่องจากครบกำหนดวันลาตามระเบียบ
ในส่วนกรณี ร.ต.ต.ธาตรี สืบสมาน ผู้ช่วย พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ที่ตนได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมีกำหนดเวลา 3 วัน โดยให้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. รักษาการ ผบก.น.5 ตรวจสอบพบว่ามีมูลจริง จึงมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้เสียหายยังไม่มาแจ้งความ แต่ทางตำรวจจากการดูพฤติกรรมข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลก็จะให้ออกไว้ก่อนทั้ง 2 กรณี
“ไม่ต้องห่วงว่าตำรวจทำความผิดแล้วจะปกป้องกัน องค์กรตำรวจเป็นองค์กรใหญ่เราต้องรักษาองค์กร ตำรวจดีๆ ก็มี ตำรวจไม่ดีก็มี แต่ที่ไม่ดีมีส่วนน้อย เราต้องรักษาชื่อเสียง จะมีคำสั่งให้ออกทั้งหมด และหากผลการสืบสวนมีผลถึงคดีอาญาก็ต้องดำเนินการในคดีอาญาด้วย” ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงตำรวจสายตรวจอีก 2 นายของ สน.ดินแดง ที่ไปรับตัว ด.ต.วรวิทย์มา มีความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ในส่วนนี้ให้สืบสวนสอบข้อเท็จจริงอยู่
ด้าน พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง แจ้งว่า ด.ต.วรวิทย์ลาราชการจนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งสิทธิการลายังมีผลอยู่ แต่ทาง บก.น.1 ได้พยายามติดต่อ ด.ต.วรวิทย์ เพื่อมาทำการสอบสวน ล่าสุดติดต่อไปเจ้าตัวอยู่ที่ จ.สงขลา ยืนยันว่าจะมาพบตำรวจวันนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุเวลา ขณะที่ผู้เสียหายเองก็ยังไม่มาให้ปากคำ ซึ่งพฤติการณ์ฟังได้ว่าเข้าข่ายความผิดก็ต้องให้ออกจากราชการ เพราะทำให้องค์กรเสียหาย ซึ่งคำสั่งให้ออกจากราชการมีผลทันที แม้จะพบว่าชั้นนี้เป็นความผิดทางวินัย แต่หากพบผิดทางคดีอาญาก็ต้องดำเนินการด้วย ทั้งนี้ สำหรับตำรวจอีก 2 นายที่เข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากมีการแจ้งผ่านวิทยุว่าขอความช่วยเหลือจึงได้ไปตรวจสอบ แต่ไปไม่พบ ก่อนมาเจอตำรวจคนดังกล่าว และนำตัวไป สน.ดินแดง พร้อมกับบอกให้ผู้เสียหายตามไปด้วย แต่ไม่มีใครตามไป จึงยังไม่ได้ข้อเท็จจริงที่แน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผิดคดีอาญาจะเข้าข้อหาใด ผบก.น.1 กล่าวว่า เมื่อผู้เสียหายยังไม่มาก็ยังไม่มี แต่พฤติการณ์การเข้าไปโรงแรมก็ถือว่าไม่เหมาะสม การนำผู้เสียหายมาน่าจะนำไปสถานีตำรวจ ไม่ใช่โรงแรม ทั้งสื่อและประชาชนทราบก็มองไม่ดี เสียหายต่อองค์กร ส่วนคดีอาญาก็ต้องให้ผู้เสียหายมาพบ มาสอบปากคำก่อนจะได้ทราบว่ากระทำผิดอย่างไร แต่ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้
ด้าน พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้เสียหายยังไม่ติดต่อเข้ามาแจ้งความกับทาง ตำรวจ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้หญิงคนดังกล่าวมาพบตนเพื่อให้ข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้เป็นเพียงการพูดต่อๆ กัน และยังไม่มีข้อเท็จจริง ทั้งนี้ตนพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใครผิดก็ต้องรับผิด อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ ด.ต.วรวิทย์มาชี้แจงเรื่องทั้งหมดอีกคนด้วย เพราะจะได้ข้อมูลที่แท้จริงจากทั้งสองฝ่ายว่าเป็นอย่างไร และจะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยหากไม่ได้กระทำความผิดจริง
ทั้งนี้ หาก ด.ต.วรวิทย์ไม่เข้ามาพบและหนีไปก็จะต้องถูกให้ออกจากราชการ ซึ่งจะไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ ส่วนคดีอาญาขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ และยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นน่าจะมีความเชื่อมโยงจากการตรวจค้นยาเสพติดในคืนตั้งด่าน จึงต้องรอให้ทั้ง ด.ต.วรวิทย์ และผู้เสียหายเข้ามาพบตนก่อน เรื่องต่างๆ ถึงจะคลี่คลายได้มากกว่านี้
วานนี้(29 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูป กระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในโซเชี่ยลมีเดียว่า ตำรวจ สน.ดิน แดงมีพฤติกรรมพาหญิงสาวเข้าโรงแรมม่านรูด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของตำรวจรายนี้อย่างกว้างขวางว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปแล้ว และได้สั่งการให้ ด.ต.วรวิทย์ นุกูลกิจ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ดินแดง ซึ่งปรากฏในคลิป ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และรอตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยขณะนี้ ด.ต.วรวิทย์ อยู่ระหว่างการลาราชการเพื่อสอบเลื่อนชั้นเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ล่าสุดได้รับการติดต่อจาก ด.ต.วรวิทย์ แล้วว่าจะเข้ารายงานตัวในวันนี้ แต่ยังไม่ระบุเวลา เนื่องจากครบกำหนดวันลาตามระเบียบ
ในส่วนกรณี ร.ต.ต.ธาตรี สืบสมาน ผู้ช่วย พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ที่ตนได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมีกำหนดเวลา 3 วัน โดยให้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. รักษาการ ผบก.น.5 ตรวจสอบพบว่ามีมูลจริง จึงมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้เสียหายยังไม่มาแจ้งความ แต่ทางตำรวจจากการดูพฤติกรรมข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลก็จะให้ออกไว้ก่อนทั้ง 2 กรณี
“ไม่ต้องห่วงว่าตำรวจทำความผิดแล้วจะปกป้องกัน องค์กรตำรวจเป็นองค์กรใหญ่เราต้องรักษาองค์กร ตำรวจดีๆ ก็มี ตำรวจไม่ดีก็มี แต่ที่ไม่ดีมีส่วนน้อย เราต้องรักษาชื่อเสียง จะมีคำสั่งให้ออกทั้งหมด และหากผลการสืบสวนมีผลถึงคดีอาญาก็ต้องดำเนินการในคดีอาญาด้วย” ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงตำรวจสายตรวจอีก 2 นายของ สน.ดินแดง ที่ไปรับตัว ด.ต.วรวิทย์มา มีความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ในส่วนนี้ให้สืบสวนสอบข้อเท็จจริงอยู่
ด้าน พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง แจ้งว่า ด.ต.วรวิทย์ลาราชการจนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งสิทธิการลายังมีผลอยู่ แต่ทาง บก.น.1 ได้พยายามติดต่อ ด.ต.วรวิทย์ เพื่อมาทำการสอบสวน ล่าสุดติดต่อไปเจ้าตัวอยู่ที่ จ.สงขลา ยืนยันว่าจะมาพบตำรวจวันนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุเวลา ขณะที่ผู้เสียหายเองก็ยังไม่มาให้ปากคำ ซึ่งพฤติการณ์ฟังได้ว่าเข้าข่ายความผิดก็ต้องให้ออกจากราชการ เพราะทำให้องค์กรเสียหาย ซึ่งคำสั่งให้ออกจากราชการมีผลทันที แม้จะพบว่าชั้นนี้เป็นความผิดทางวินัย แต่หากพบผิดทางคดีอาญาก็ต้องดำเนินการด้วย ทั้งนี้ สำหรับตำรวจอีก 2 นายที่เข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากมีการแจ้งผ่านวิทยุว่าขอความช่วยเหลือจึงได้ไปตรวจสอบ แต่ไปไม่พบ ก่อนมาเจอตำรวจคนดังกล่าว และนำตัวไป สน.ดินแดง พร้อมกับบอกให้ผู้เสียหายตามไปด้วย แต่ไม่มีใครตามไป จึงยังไม่ได้ข้อเท็จจริงที่แน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผิดคดีอาญาจะเข้าข้อหาใด ผบก.น.1 กล่าวว่า เมื่อผู้เสียหายยังไม่มาก็ยังไม่มี แต่พฤติการณ์การเข้าไปโรงแรมก็ถือว่าไม่เหมาะสม การนำผู้เสียหายมาน่าจะนำไปสถานีตำรวจ ไม่ใช่โรงแรม ทั้งสื่อและประชาชนทราบก็มองไม่ดี เสียหายต่อองค์กร ส่วนคดีอาญาก็ต้องให้ผู้เสียหายมาพบ มาสอบปากคำก่อนจะได้ทราบว่ากระทำผิดอย่างไร แต่ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้
ด้าน พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้เสียหายยังไม่ติดต่อเข้ามาแจ้งความกับทาง ตำรวจ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้หญิงคนดังกล่าวมาพบตนเพื่อให้ข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้เป็นเพียงการพูดต่อๆ กัน และยังไม่มีข้อเท็จจริง ทั้งนี้ตนพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใครผิดก็ต้องรับผิด อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ ด.ต.วรวิทย์มาชี้แจงเรื่องทั้งหมดอีกคนด้วย เพราะจะได้ข้อมูลที่แท้จริงจากทั้งสองฝ่ายว่าเป็นอย่างไร และจะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยหากไม่ได้กระทำความผิดจริง
ทั้งนี้ หาก ด.ต.วรวิทย์ไม่เข้ามาพบและหนีไปก็จะต้องถูกให้ออกจากราชการ ซึ่งจะไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ ส่วนคดีอาญาขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ และยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นน่าจะมีความเชื่อมโยงจากการตรวจค้นยาเสพติดในคืนตั้งด่าน จึงต้องรอให้ทั้ง ด.ต.วรวิทย์ และผู้เสียหายเข้ามาพบตนก่อน เรื่องต่างๆ ถึงจะคลี่คลายได้มากกว่านี้
