ASTVผู้จัดการรายวัน - จับแล้ว “เสี่ยเปีย” เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังเมืองอุทัยธานี ก่อเหตุฆาตกรรมสยองขวัญหั่นศพหนุ่มแบงก์คู่ขา สารภาพสิ้น ยั้วะ!ผู้ตายถ่ายคลิปขณะร่วมเพศ แบล็กเมล์รีดทรัพย์ อ้างทำคนเดียว!
วานนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร., พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพนายเกรียงไกร ขวัญอ่อน อายุ 24 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง
พล.ต.ท.นเรศกล่าวว่า ตรวจได้ข้อมูลว่าพบลายนิ้วมือผู้ต้องหาภายในรถรถของผู้ตาย คือ ลายนิ้วมือของนายประดิษฐ์ สุวรรณภาพ หรือเสี่ยเปีย อายุ 36 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้นไทรใน จ.อุทัยธานี และจากการสืบสวนที่รวบรวมมาทั้งหมดพบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับนายประดิษฐ์ ทางตำรวจจึงเกิดความมั่นใจว่าการสืบสวนไม่ผิดตัว จึงได้นำหมายศาล จ.อุทัยธานี เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายประดิษฐ์และญาติจำนวน 4 หลัง พบหลักฐานเป็นถุงดำจำนวน 3 ใบ ซึ่งมีขนาดเดียวกับที่บรรจุศพ เสื้อและกางเกงยีนส์ที่เชื่อว่านายประดิษฐ์สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ผ้าห่มมีรอยลักษณะคราบเลือด 1 ผืน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง และเชิญผู้ต้องหาครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 เม.ย.และเชิญตัวมาสอบปากคำอีกครั้งเมื่อคืนของวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา สุดท้ายนายประดิษฐ์ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าและหั่นศพนายเกรียงไกร ก่อนจะนำตำรวจไปชี้จุดที่ทิ้งศีรษะของผู้ตาย บริเวณสระน้ำบ้านโนนสูง ต.หนองเต่า อ.เมืองอุทัยธานี
ทั้งนี้ นายประดิษฐ์ยังให้การสารภาพอีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้มีปัญหากัน จึงเกิดโทสะและใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ศีรษะของผู้ตายจนถึงแก่ความตาย และด้วยความเกรงกลัวต่อกฎหมายจึงตัดสินใจใช้มีดปังตอหั่นศพผู้ตายตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.ของวันที่ 17 เม.ย. โดยหั่นเนื้อและตัดกระดูกส่วนศีรษะ แขนและขาออกจากลำตัว ก่อนบรรจุชิ้นส่วนแขนและขาจำนวน 1 ถุง พร้อมแยกบรรจุลำตัวอีก 1 ถุงไปทิ้งไว้ที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ที่ จ.ชัยนาท ส่วนศีรษะได้ใส่ไว้ในถังน้ำพลาสติกสีดำไปทิ้งที่สระน้ำบ้านโนนสูง ต.หนองเต่า อ.เมืองอุทัยธานี หลังจากนั้นจึงขับรถของผู้ตายไปจอดทิ้งไว้ใกล้โรงพยาบาลลาดยาว จ.นครสวรรค์
ทั้งนี้ได้รู้จักกับผู้ตายผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยคบกันมากว่า 1 ปี ตนได้ส่งเสียเลี้ยงดูมาตลอด ซื้อรถและผ่อนคอนโดมิเนียม และให้เงินใช้จ่ายด้วย เสียเงินไปแล้วหลายแสนบาท ก่อนจะเกิดเหตุผู้ตายได้มาหาขอเงินไปเสริมจมูกจำนวน 20,000 บาท แต่ตนไม่ให้เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วและคาดว่าเขาจะมีคนอื่นด้วย ทางผู้ตายได้ข่มขู่จะนำคลิปที่มีเพศสัมพันธ์กันลงเว็บไซต์ยูทิวบ์ ทำให้มีปากเสียงกันหนัก ตนจึงใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่มีอยู่ยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัดจนถึงแก่ความตาย ด้วยความตกใจไม่รู้จะซ่อนศพอย่างไรเพราะผู้ตายเป็นคนตัวใหญ่ จึงให้มีดปังตอที่มีอยู่ที่บ้านหั่นศพออกเป็นชิ้นๆ แยกส่วนแขนและขาออกจากลำตัว บรรจุ 1 ถุง และลำตัวอีก 2 ถุง ก่อนจะนำไปทิ้ง ส่วนศีรษะนำไปเผาส่วนที่เหลือจากการเผานำใส่กระป๋องแล้วนำไปทิ้งสระน้ำแถวบ้าน และได้ลงมือทำเพียงคนเดียว
ตนเองทำธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวซึ่งก็มีเงินพอสมควร เงินบางส่วนก็ขอจากพี่ชายซึ่งมีอาชีพค้าขาย สำหรับนายทะนงศักดิ์ หรือน้ำหวาน ลูกจ้างในร้าน ไม่มีความสัมพันธ์อะไร เป็นเพียงลูกจ้างเท่านั้น อยากขอโทษพ่อแม่ผู้ตาย และผู้ตาย ไม่ได้ตั้งใจจะทำ ที่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ รู้สึกเสียใจที่ทำไปแบบนี้ ถ้าไม่บันดาลโทสะก็คงไม่ทำ
ขณะเดียวกัน นายสนิท ขวัญอ่อน อายุ 58 ปี บิดาผู้ตายได้นำดอกไม้มอบให้ พล.ต.อ.อดุลย์ และคณะทำงานทั้งหมดเพื่อแสดงความขอบคุณที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ก่อนกล่าวว่า ไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ต้องหา ที่ผ่านมาลูกชายก็ไม่เคยบอกว่าคบหากับผู้ต้องหาอยู่ และไม่เคยเล่าเรื่องผู้ต้องหาให้ฟังมาก่อน หลังจากนี้จะรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ่อสมบัติ จ.ชัยนาท
วานนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร., พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพนายเกรียงไกร ขวัญอ่อน อายุ 24 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง
พล.ต.ท.นเรศกล่าวว่า ตรวจได้ข้อมูลว่าพบลายนิ้วมือผู้ต้องหาภายในรถรถของผู้ตาย คือ ลายนิ้วมือของนายประดิษฐ์ สุวรรณภาพ หรือเสี่ยเปีย อายุ 36 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้นไทรใน จ.อุทัยธานี และจากการสืบสวนที่รวบรวมมาทั้งหมดพบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับนายประดิษฐ์ ทางตำรวจจึงเกิดความมั่นใจว่าการสืบสวนไม่ผิดตัว จึงได้นำหมายศาล จ.อุทัยธานี เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายประดิษฐ์และญาติจำนวน 4 หลัง พบหลักฐานเป็นถุงดำจำนวน 3 ใบ ซึ่งมีขนาดเดียวกับที่บรรจุศพ เสื้อและกางเกงยีนส์ที่เชื่อว่านายประดิษฐ์สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ผ้าห่มมีรอยลักษณะคราบเลือด 1 ผืน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง และเชิญผู้ต้องหาครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 เม.ย.และเชิญตัวมาสอบปากคำอีกครั้งเมื่อคืนของวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา สุดท้ายนายประดิษฐ์ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าและหั่นศพนายเกรียงไกร ก่อนจะนำตำรวจไปชี้จุดที่ทิ้งศีรษะของผู้ตาย บริเวณสระน้ำบ้านโนนสูง ต.หนองเต่า อ.เมืองอุทัยธานี
ทั้งนี้ นายประดิษฐ์ยังให้การสารภาพอีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้มีปัญหากัน จึงเกิดโทสะและใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ศีรษะของผู้ตายจนถึงแก่ความตาย และด้วยความเกรงกลัวต่อกฎหมายจึงตัดสินใจใช้มีดปังตอหั่นศพผู้ตายตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.ของวันที่ 17 เม.ย. โดยหั่นเนื้อและตัดกระดูกส่วนศีรษะ แขนและขาออกจากลำตัว ก่อนบรรจุชิ้นส่วนแขนและขาจำนวน 1 ถุง พร้อมแยกบรรจุลำตัวอีก 1 ถุงไปทิ้งไว้ที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ที่ จ.ชัยนาท ส่วนศีรษะได้ใส่ไว้ในถังน้ำพลาสติกสีดำไปทิ้งที่สระน้ำบ้านโนนสูง ต.หนองเต่า อ.เมืองอุทัยธานี หลังจากนั้นจึงขับรถของผู้ตายไปจอดทิ้งไว้ใกล้โรงพยาบาลลาดยาว จ.นครสวรรค์
ทั้งนี้ได้รู้จักกับผู้ตายผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยคบกันมากว่า 1 ปี ตนได้ส่งเสียเลี้ยงดูมาตลอด ซื้อรถและผ่อนคอนโดมิเนียม และให้เงินใช้จ่ายด้วย เสียเงินไปแล้วหลายแสนบาท ก่อนจะเกิดเหตุผู้ตายได้มาหาขอเงินไปเสริมจมูกจำนวน 20,000 บาท แต่ตนไม่ให้เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วและคาดว่าเขาจะมีคนอื่นด้วย ทางผู้ตายได้ข่มขู่จะนำคลิปที่มีเพศสัมพันธ์กันลงเว็บไซต์ยูทิวบ์ ทำให้มีปากเสียงกันหนัก ตนจึงใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่มีอยู่ยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัดจนถึงแก่ความตาย ด้วยความตกใจไม่รู้จะซ่อนศพอย่างไรเพราะผู้ตายเป็นคนตัวใหญ่ จึงให้มีดปังตอที่มีอยู่ที่บ้านหั่นศพออกเป็นชิ้นๆ แยกส่วนแขนและขาออกจากลำตัว บรรจุ 1 ถุง และลำตัวอีก 2 ถุง ก่อนจะนำไปทิ้ง ส่วนศีรษะนำไปเผาส่วนที่เหลือจากการเผานำใส่กระป๋องแล้วนำไปทิ้งสระน้ำแถวบ้าน และได้ลงมือทำเพียงคนเดียว
ตนเองทำธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวซึ่งก็มีเงินพอสมควร เงินบางส่วนก็ขอจากพี่ชายซึ่งมีอาชีพค้าขาย สำหรับนายทะนงศักดิ์ หรือน้ำหวาน ลูกจ้างในร้าน ไม่มีความสัมพันธ์อะไร เป็นเพียงลูกจ้างเท่านั้น อยากขอโทษพ่อแม่ผู้ตาย และผู้ตาย ไม่ได้ตั้งใจจะทำ ที่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ รู้สึกเสียใจที่ทำไปแบบนี้ ถ้าไม่บันดาลโทสะก็คงไม่ทำ
ขณะเดียวกัน นายสนิท ขวัญอ่อน อายุ 58 ปี บิดาผู้ตายได้นำดอกไม้มอบให้ พล.ต.อ.อดุลย์ และคณะทำงานทั้งหมดเพื่อแสดงความขอบคุณที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ก่อนกล่าวว่า ไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ต้องหา ที่ผ่านมาลูกชายก็ไม่เคยบอกว่าคบหากับผู้ต้องหาอยู่ และไม่เคยเล่าเรื่องผู้ต้องหาให้ฟังมาก่อน หลังจากนี้จะรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ่อสมบัติ จ.ชัยนาท
