xs
xsm
sm
md
lg

“สะแปอิง-มะแซ” สั่งลุย โหมไฟใต้บนโต๊ะเจรจา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ใกล้จะถึงวันที่ 29 เมษายน ซึ่งถือเป็นกำหนดการพูดคุยสันติภาพระหว่าง “ทางการไทย” กับ “กลุ่มบีอาร์เอ็น” ครั้งที่ 3 โดยมีมาเลเซีย เป็นฝ่ายอำนวยความสะดวก แต่เหตุการณ์ความรุนแรงยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง
ในทางตรงกันข้าม สถานการณ์ในพื้นที่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น สร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้น และการสร้างสถานการณ์ยิ่งมีความซับซ้อน ยากมากขึ้นที่จะระบุว่าเป็น “ฝีมือ” ของกลุ่มใด
เหตุลอบวางระเบิดหลายร้อยจุด สะท้อนให้เห็นว่า “เจ้าหน้าที่รัฐ” ไม่สามารถตรวจสอบและควบคุมสถานการณ์ได้เลย ที่สำคัญการลอบวางระเบิดเริ่มขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยลามไปก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งที่ผ่านไม่ค่อยมีเหตุลอบวางระเบิดเกิดขึ้น แต่เหตุลอบวางระเบิดก็กลับมาอีกครั้ง สร้างความไม่มั่นใจให้คนพื้นที่จังหวัดสงขลา พอสมควร
แม้ “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะออกมาแบ่งรับแบ่งสู้ว่า การก่อเหตุเกิดมาจากกลุ่มที่อยากเข้ามามีส่วนร่วมในการพูดคุยสันติภาพด้วย
ซึ่งในระยะแรกอาจจะใช่ ที่มีหลายกลุ่ม อยากที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพูดคุยสันติภาพกับ “ทางการไทย” แต่ในระยะหลัง หลายกลุ่มเริ่มแสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่า ไม่อยากเข้ามามีส่วนร่วม
เพราะรู้ดีว่าอีกไม่นานจะมีการ “ล้มโต๊ะพูดคุย” เพราะเงื่อนไขทางการเมืองของประเทศ “มาเลเซีย” ใกล้จะถูกปลดด้วยการเลือกตั้งแล้ว หาก มาเลเซียไม่มาเป็นตัวกลางให้ทุกอย่างก็ “จบ”
ฉะนั้นคำพูดของ “พล.ท.ภราดร” เป็นเพียงการรักษา “หน้า” ของตัวเอง รักษา “หน้า” ของรัฐบาลเอาไว้ เพราะยังมั่นใจว่าการพูดคุยสันติภาพ “ตอบโจทย์” การแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้
เพราะยังมั่นใจว่า มาเลเซีย มีความจริงใจที่จะช่วยแก้ไขปัญหา โดยปราศจากเงื่อนไขการเมืองภายในของมาเลเซีย เอง
เพราะมั่นใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถต่อติดกับ “รัฐบาล” ชุดใหม่ ของมาเลเซีย ไม่ว่าจะมีการสลับขั้วทางการเมืองเกิดขึ้นหรือไม่
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาล ยืนยัน เดินหน้าพูดคุยสันติภาพกับ “กลุ่มบีอาร์เอ็น”
ส่วนการพูดคุยสันติภาพ ที่ทุกฝ่ายยืนยันว่าต้องเดินหน้า แต่แหล่งข่าวด้านความมั่นคง กลับเห็นว่า การพูดคุยสันติภาพ ไม่สามารถทำให้สถานการณ์ความรุนแรงลดลงได้ เพราะใน “กลุ่มบีอาร์เอ็น” ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า แตกไผ่แตกกอ ออกเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งแน่นอนว่า ในหลายกลุ่มของบีอาร์เอ็น ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ
แต่ขณะนี้ระดับแกนนำสูงสุดของ “กลุ่มบีอาร์เอ็น” แตกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วย สนับสนุนให้เดินหน้าพูดคุยสันติภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “แกนนำ” ที่มีอายุมากพอสมควร และที่ผ่านมาคนเหล่านี้ไม่ค่อยปรากฏตัวออกมาสู้แล้ว แต่อาศัย “บารมี” เก่าๆในการเคลื่อนไหว
ส่วน “กลุ่มบีอาร์เอ็น” ที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ เป็นไปตามที่ “ทางการไทย” ออกมาเปิดเผยเอาไว้คือ “กลุ่มวัยรุ่น” แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้มีคนระดับแกนนำ คอยหนุนหลังอยู่ซึ่งตามข้อมูลแล้วในระยะแรกไม่ปรากฏชื่อของ “สะแปอิง บาซอ - มะแซ อูเซ็ง - อับดุลเลาะห์ แวมานอ” ว่าแอบสนับสนุน “กลุ่มวัยรุ่น” ให้ออกมาก่อเหตุ
อีกทั้ง “ทางการไทย” ยืนยันมาตลอดว่าทั้ง “สะแปอิง - มะแซ” เห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ และมีโอกาสที่จะมาร่วมวงพูดคุยสันติภาพด้วย
แต่ในระยะหลังชื่อของ “สะแปอิง - มะแซ” รวมถึง “อับดุลเลาะห์” กลับปรากฏในฐานข้อมูลของ “หน่วยงานด้านความมั่นคง” ว่ายังให้การสนับสนุนกลุ่มวัยรุ่นให้ออกมาก่อเหตุอยู่ และเป็นคนวางแนวทางทั้งหมด ให้ “กลุ่มวัยรุ่น” ออกปฏิบัติการ
จากการวิเคราะห์ด้านการข่าว มองกันว่า “แกนนำ” ของกลุ่มก่อความไม่สงบ คงไม่มีใครมี“เพาเวอร์” พอที่เรียก “กองกำลัง” มาก่อเหตุความไม่สงบมากเท่าทั้ง 3 คน หากเป็น “แกนนำ” คนอื่น ประสิทธิภาพในการก่อเหตุความรุนแรง คงมีไม่มากเท่านี้
จึงฟันธงได้เลยว่า ระดับแกนนำ ของ “บีอาร์เอ็น” ได้แตกกันยับแล้ว และ “แกนนำ” ระดับคุมกองกำลังอยู่ฝั่งไม่เห็นด้วย กับการพูดคุยสันติภาพ หากรังเดินหน้าพูดคุยสันติภาพต่อไปคงไม่เกิดอะไรขึ้น
ซึ่งนอกจากจะมีการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น แล้ว “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. ยังจัดให้มีการพูดคุยกับผู้นำศาสนา กว่า 400 ชีวิต โดยจัดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล
แต่ไฉนการพูดคุยของ “เฉลิม” กลับไม่ค่อยได้ยินข้อเสนอแนะ จาก “ผู้นำศาสนา” มีแต่คำเยินยอกันไปมา ฝั่ง “เฉลิม” ก็มัวแต่ปล่อยมุขตลก เล่าประวัติการทำงาน 3 ชั่วโมง ไม่มีสาระ ได้แต่อารมณ์ขำ หรือการแก้ปัญหาของ “เฉลิม” เน้นสร้างภาพ สร้างอารมณ์ขำ เป็นสำคัญ ระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร ของ “ผู้นำศาสนา” ที่เดินทางมายัง กทม. เหมือนเสียเวลาเปล่า
หลังจากนี้ให้จับตาสถานการณ์ในพื้นที่ ว่าจะมีความรุนแรงขึ้นมากแค่ไหน เพราะจากการคาดคะเนแล้ว การก่อเหตุจะยังมี อย่างไม่หยุดหย่น จนกว่าจะถึงวันพูดคุยสันติภาพในวันที่ 29 เมษายน
** แต่ดีไม่ดี การพูดคุยสันติภาพอาจจะต้องล้มพับไปก่อนวันที่ 29 เมษายน ก็เป็นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น