00 คงลืมไปว่าคราวก่อนยังเคยเรียกร้องให้ชาวบ้านยอมรับอำนาจศาลโลก ประสานเสียงพูดว่า "เมื่อศาลตัดสินออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ" แม้ว่ามีผลต่อเขตแดนและอำนาจอธิปไตยของชาติก็ไม่เป็นไร อาจเป็นเพราะคนอื่นมีแต่ "เจ๊ากับเจ๊ง" ส่วนตัวเอง ครอบครัวและญาติพี่น้องของตัวเองมีแต่ "ได้กับได้" เพราะกำลังจะเป็น"ดองข้ามชาติ" กันอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว ดีเสียอีกเป็นการฉวยโอกาสใช้ศาลโลกมาเป็นเครื่องมือปิดปากคนไทยเสียเลย แต่ที่น่าขำก็คือเวลานี้ "เครือข่ายแม้ว" ตั้งแต่รัฐบาลลงมาไปจนถึงลิ่วล้อระดับกุ๊ยข้างถนน กำลังรุมก่น "ด่าศาลไทย" คือ ศาลรธน. เพียงแค่กังวลว่าตัวเองไม่ได้ประโยชน์ กลัวว่าแผนชั่วของตัวเองที่วางเอาไว้เดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพียงแค่นี้ก็ต้องดาหน้าถล่มศาล โดยเฉพาะเป้าหมายเฉพาะหน้าเวลานี้คือ"ศาลรธน."
00 เพียงแค่ศาลรธน.รับคำร้องตีความว่า การแก้ไขรธน. มาตรา68 ว่ากระทำมิชอบหรือไม่เท่านั้นเอง ยังไม่รู้ว่าผลออกมาหัวหรือก้อย คนพวกนี้ก็ดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า ต่างออกมาป่วนหวังเอาใจนาย เพียงแค่ ทักษิณ ชินวัตร อยากกลับบ้าน และส่งสัญญาณถล่มศาลรธน.เท่านั้น บรรดาลิ่วล้อทั้งหลายก็รับบัญชาออกมากันเต็มเหนี่ยว โดยที่น้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนเป็นนายกฯ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไฟเขียวให้เต็มที่
00 อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่งหากบ้านเมืองมีสภาพอย่างที่เห็น ขนาดศาลยังถูกคุกคามขู่เข็ญได้แบบนี้ หากทำได้สำเร็จ บ้านเมืองนี้ก็คงหาความสงบยาก ต่อไป "ขื่อแป" ก็คงไม่มีอีกแล้ว เพราะหากไม่พอใจศาล หรือศาลตัดสินไม่ถูกใจ ก็ยกพวกมาข่มขู่ศาล และยิ่งเป็นกรณีที่เป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ รวมหัวกันกับพวกกุ๊ยข้างถนนมาปิดล้อม ขับไล่กันแบบนี้ สาธุชนทั้งหลายก็ลองนึกเอาเองว่า อนาคตของบ้านเมืองจะเป็นแบบไหน แต่เวลานี้เราก็ได้เห็นสภาพที่ "โจร" กำลังกุมทิศทางบ้านเมืองไปตามต้องการ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ห้ามขัดใจ แถมยังอ้างว่า นี่คือประชาธิปไตยในแบบของมันเสียอีก ทุด !!
00 ลองไปไล่เรียงดูปฏิทินก็นึกขึ้นได้ว่า วันที่ 26 เม.ย. ซึ่งตรงกับกำหนดการที่ทางการไทย และเขมรต้องส่ง "พิกัดอาณาบริเวณ" รอบปราสาทพระวิหารไปให้ศาลโลกพิจารณาตามคำขอ แต่ที่ระทึกไม่แพ้กันก็คือ เป็นวันที่ ป.ป.ช. จะส่งคดีที่ฟ้อง นพดล ปัทมะ ในข้อหา และความหมายว่า "ขายชาติ" เห็นประโยชน์ของเขมรมากกว่าแผ่นดินแม่ ต่อศาลอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากการไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม ยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว มันก็น่าลุ้น เพราะถ้าศาลรับฟ้อง มันก็มีโอกาสติดคุกสูงลิ่วเสียด้วยซีทั่นผู้ชม !!
00 พูดถึงเรื่องศาลโลก ก็เพิ่งสังเกตเห็นขึ้นมาชัดขึ้นว่า หลังจากมีคดีความในศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารภาคสอง เราก็เริ่มได้ยินว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกม. เป็นของไทยมากขึ้น แทนที่จะเป็นพื้นที่ทับซ้อน ต้องมาแบ่งกับเขมรเหมือนแต่ก่อน อย่างน้อยมันก็เป็นนิมิตหมายที่ดีเหมือนกัน และฝ่ายกองทัพ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็พูดแบบนี้มากขึ้นเหมือนกัน !!
00 เพียงแค่ศาลรธน.รับคำร้องตีความว่า การแก้ไขรธน. มาตรา68 ว่ากระทำมิชอบหรือไม่เท่านั้นเอง ยังไม่รู้ว่าผลออกมาหัวหรือก้อย คนพวกนี้ก็ดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า ต่างออกมาป่วนหวังเอาใจนาย เพียงแค่ ทักษิณ ชินวัตร อยากกลับบ้าน และส่งสัญญาณถล่มศาลรธน.เท่านั้น บรรดาลิ่วล้อทั้งหลายก็รับบัญชาออกมากันเต็มเหนี่ยว โดยที่น้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนเป็นนายกฯ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไฟเขียวให้เต็มที่
00 อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่งหากบ้านเมืองมีสภาพอย่างที่เห็น ขนาดศาลยังถูกคุกคามขู่เข็ญได้แบบนี้ หากทำได้สำเร็จ บ้านเมืองนี้ก็คงหาความสงบยาก ต่อไป "ขื่อแป" ก็คงไม่มีอีกแล้ว เพราะหากไม่พอใจศาล หรือศาลตัดสินไม่ถูกใจ ก็ยกพวกมาข่มขู่ศาล และยิ่งเป็นกรณีที่เป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ รวมหัวกันกับพวกกุ๊ยข้างถนนมาปิดล้อม ขับไล่กันแบบนี้ สาธุชนทั้งหลายก็ลองนึกเอาเองว่า อนาคตของบ้านเมืองจะเป็นแบบไหน แต่เวลานี้เราก็ได้เห็นสภาพที่ "โจร" กำลังกุมทิศทางบ้านเมืองไปตามต้องการ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ห้ามขัดใจ แถมยังอ้างว่า นี่คือประชาธิปไตยในแบบของมันเสียอีก ทุด !!
00 ลองไปไล่เรียงดูปฏิทินก็นึกขึ้นได้ว่า วันที่ 26 เม.ย. ซึ่งตรงกับกำหนดการที่ทางการไทย และเขมรต้องส่ง "พิกัดอาณาบริเวณ" รอบปราสาทพระวิหารไปให้ศาลโลกพิจารณาตามคำขอ แต่ที่ระทึกไม่แพ้กันก็คือ เป็นวันที่ ป.ป.ช. จะส่งคดีที่ฟ้อง นพดล ปัทมะ ในข้อหา และความหมายว่า "ขายชาติ" เห็นประโยชน์ของเขมรมากกว่าแผ่นดินแม่ ต่อศาลอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากการไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม ยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว มันก็น่าลุ้น เพราะถ้าศาลรับฟ้อง มันก็มีโอกาสติดคุกสูงลิ่วเสียด้วยซีทั่นผู้ชม !!
00 พูดถึงเรื่องศาลโลก ก็เพิ่งสังเกตเห็นขึ้นมาชัดขึ้นว่า หลังจากมีคดีความในศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารภาคสอง เราก็เริ่มได้ยินว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกม. เป็นของไทยมากขึ้น แทนที่จะเป็นพื้นที่ทับซ้อน ต้องมาแบ่งกับเขมรเหมือนแต่ก่อน อย่างน้อยมันก็เป็นนิมิตหมายที่ดีเหมือนกัน และฝ่ายกองทัพ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็พูดแบบนี้มากขึ้นเหมือนกัน !!
