xs
xsm
sm
md
lg

ใครจะกล้าหักเหลี่ยม?

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

การประกาศอย่างอหังการไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญของ ส.ส. และ ส.ว. 300 กว่าคน ซึ่งสังคมมองว่ามีพฤติกรรมและจุดยืนเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยมแหลอาชญากรหนีคุก ตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่าพวกนี้ไม่ใช่สมาชิกนิติบัญญัติ ได้รับการเลือกตั้งมาทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวม แต่มีความมุ่งมั่นเพื่อช่วยเหลือพวกเดียวกัน ในการทุจริต คอร์รัปชัน เร่งเดินหน้าล้มล้างองค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นก้างขวางคอ

การไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเท่ากับว่าขี้ข้าบักเหลี่ยมกลุ่มนี้ทำตัวเหนือกฎหมาย เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อเหลี่ยมได้กุมอำนาจรัฐเด็ดขาด ทั้งองค์กรตำรวจ อัยการ และข้าราชการตัวเอ้ๆ ในกระทรวงต่างๆ ดังนั้น จึงไม่หวั่นเกรงว่าใครจะทำอะไรได้

ยิ่งการทำงานขององค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือกระบวนการยุติธรรมโดยรวมเป็นไปอย่างล่าช้า ก็ทำให้เข้าทางพวกขี้ข้าบักเหลี่ยมแหล ในการเร่งรัดรวบหัวรวบหางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการแก้รัฐธรรมนูญ ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แก้กฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคเปิดทางให้คนหนีคุกยึดประเทศ

การแข็งขืน ไม่ยอมรับอำนาจศาล ถือเป็นพฤติกรรมอยู่เหนือกฎหมาย ประชาชนคนทั่วไปย่อมมีสิทธิทำเช่นเดียวกัน ทำให้บ้านเมืองไร้ขื่อแป เป็นนิติรัฐล้มเหลวสมบูรณ์! จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าประชาชนบอกว่า “ถ้าพวกเอ็งไม่ยอมรับศาล พวกข้าก็ไม่ยอมรับกฎหมายที่พวกเอ็งร่าง” หรือ “พวกข้าไม่ยอมเสียภาษีเลี้ยงพวกเนรคุณแผ่นดิน”

ทั้งหมดดูเหมือนว่าขบวนการชั่วร้าย องค์กรอาชญากรรมที่ครอบงำอำนาจรัฐ จะเหิมเกริมไร้อำนาจต้าน ทำให้เสนาบดี อำมาตย์ ส.ส.ขี้คุก มวลชนเสื้อแดงเหยียดหยามกลุ่มต่างๆ ซึ่งพยายามขวางการกินเมือง ทำลายชาติให้หายนะ เป็นเพียงพวกไร้พลัง ไม่มีกำลังต้านได้! ผู้นำกองทัพถูกมองว่าเป็นเด็กดีของรัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน

ด้วยวิธีสลับขาหลอก แยกกันตี ร่วมกันทำ เปิดแนวทุกด้าน รุกหนักเพื่อบรรลุเป้าหมาย ก้าวย่างด้วยความหยิ่งผยอง ลืมไปว่าอำนาจสุดท้ายยังอยู่ในมือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นไทยเฉย ไทยเดือด หรือไทยขี้ข้าบักเหลี่ยมแหล ก็ตาม! เมื่อถึงจุดที่คนทนไม่ได้พึ่งพาใครไม่ได้ ก็ต้องออกโรงด้วยตัวเอง ไม่ยอมปล่อยให้บ้านเมืองหายนะล่มจม

แม่ทัพนายกองบางคนมองสภาพความเสื่อมทรุดของบ้านเมืองด้วยสายตาเฉยเมย คำพูดไม่เดือดร้อน รอวันเกษียณอายุ ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดความรักชาติด้วยตำแหน่ง นั่นหมายความว่าไม่เหลือความรักชาติในจิตสำนึก สู้ชาวบ้านธรรมดา ไร้ตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ภาคราชการก็ไม่ได้ อยู่ไปแต่ละวันยอมรับผลประโยชน์ป้อนให้โดยรัฐบาล

เท่ากับว่ายอมรับนโยบาย “ทหารนิยม” ไม่ต่างจากการมอมเมาในระบบ “ประชานิยม” เริ่มโดยคณะบักเหลี่ยมแหล บ่อนทำลายโครงสร้าง แนวคิด ทัศนคติของชาวบ้านให้เลิกดิ้นรนทำมาหากิน ยอมตกเป็นทาสของการได้หนี้สินมาง่ายๆ โดยลืมไปว่าหนี้ทุกอย่างต้องชดใช้ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว! น้ำมันแพง ข้าวเน่าทั้งแผ่นดิน กู้จนสิ้นชาติ ก็ยังเฉย!

นโยบาย “ทหารนิยม” คือ “ขออะไรมาก็ให้” จะงบอะไรก็บอกมา พร้อมถูกป้อนคำหวานเสน่ห์ ลีลา มารยาหญิง ไปๆ มาๆ อยู่ได้เกือบ 2 ปี โดยไม่มีผลงานมาบอกให้ชาวบ้านรู้ว่าทำอะไรเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง นอกจากพฤติกรรมฉาว คาว ไร้สาระ

ทหารถูกละลายไป 3 กองร้อย ครบรอบ 2 ปี โดยน้ำมือของกองกำลังติดอาวุธของพวกเสื้อแดงชุดดำ เสียงเรียกร้องหาความยุติธรรมนอกจากไม่ได้รับการตอบสนองแล้ว นายทหารส่วนหนึ่งกำลังถูกตราหน้าว่าฆ่าประชาชน โดยขบวนการแกนนำขี้คุก เครือข่ายอาชญากรรวมตัวกันเป็นพรรคการเมืองมุ่งทำลายสถาบันหลักของบ้านเมือง

เรามีไทยเฉย นายพลเฉย นอกจากทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศ มีพฤติกรรมไม่เป็นสับปะรด! แม่ทัพนายกองบางนายหาข้อแก้ตัวอยู่แต่ว่าการรัฐประหารล้าสมัย ทำไปก็จะโดนมวลชนเสื้อแดงต้าน ต่างชาติไม่คบหาสมาคมในยุคโลกไร้พรมแดน อาเซียน

เหตุผลแท้จริงคือ ต้องการเกษียณอย่างสบายๆ มีเงินทองใช้ถึงรุ่นลูกหลานจากการได้มาโดยวิธีต่างๆ! อย่าพลาดให้โดนจับได้ไล่ทัน ถูกยึด อายัดทรัพย์สินบางส่วนเหมือนอดีตปลัดกลาโหม พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ หรืออดีตปลัดคมนาคม สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซึ่งอยู่ในระบบ “หักแล้วอมเหลือ” เป็นที่รู้กันทั่วไปในแวดวงข้าราชการ

การตอบโต้กันไปมาระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน นอกจากสร้างความน่าเบื่อหน่าย ประชาชนมองเห็นสภาฯ ว่าเป็นกลุ่มคนซึ่งออกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่แยแสนโยบายจำนำข้าวเน่า ธนาคารรัฐ 3 แห่งร่อแร่ และยังจะตามไปทุบกระปุกหมูเด็ก กวาด 5 แสนล้านบาทจากธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นแห่งเดียวที่เหลือ

จากนั้นจะเอาเงินสำรอง เงินคงคลังมาใช้ หักหัวคิว 30-40 เปอร์เซ็นต์ ผ่านระบบ “หักแล้วอมเหลือ” สร้างความมั่งคั่ง เสริมฐานทุนการเมืองให้เครือข่ายขี้ข้าบักเหลี่ยมแหลได้ชนะการเลือกตั้ง โดยการซื้อเสียงทุกครั้ง ทำให้มองเห็นชัดว่าการเมืองไร้ทางออก เลือกกี่ครั้งพวกหน้าเดิมจะกุมอำนาจรัฐ โกงบ้านกินเมืองไม่หวั่นกฎหมาย

การล้างระบบการเมืองเลือกตั้งจึงเป็นทางออกของประเทศ ไม่ว่าจะมีต้นทุนเท่าไหร่ ถ้าปล่อยไว้เท่ากับให้บ้านเมืองรอวันล่มสลาย ไร้หนทางฟื้นฟูกอบกู้! จะทำโดยวิธีไหน ทุกคนก็รู้กันอยู่ เพียงขาดคนกล้าทำเด็ดขาด ขอรอจังหวะ หรือนั่งเฉยๆ ต่อไป

หรือคนไทยสิ้นสัญชาตญาณการเอาตัวรอด รวมตัวสู้เพื่อชาติ? กฎแห่งกรรมยังเป็นที่พึ่ง แต่ถูกหยามซ้ำซากโดยขบวนการเหลี่ยม จะต้องรอให้ความผยอง เหิมเกริม โกงกินถึงขั้นไหน จึงทำให้คนกล้าสู้ทุกรูปแบบ พิสูจน์ว่าแผ่นดินไทยมีไว้เพื่อคนดีเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น