เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (18เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ท.ภราดร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า มีการหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเป็นการติดตามความคืบหน้าเรื่องของการการติดตั้งระบบเฝ้าศูนย์ตรวจการ และการติดตั้งกล้องซีซีทีวี รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดการบูรณาการ และเกิดประสิทธิภาพในอนาคต
เมื่อถามว่าในที่ประชุมได้มีการนำข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เสนอให้มีการซ่อมแซมถนน และคอสะพานหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันหมด ซึ่งชุดที่ติดตั้งคือ หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานในพื้นที่จะทำการประสานกัน เพื่อให้เกิดความครอบคลุมทั้งพื้นที่ และระบบ และหารือเน้นในเรื่องของจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวังตรวจการ อีกทั้งบูรณาการการจัดการโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นเจ้าภาพ ในเรื่องของกฎกติกา และเรื่องการติดตั้งจะเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งขณะนี้คืบหน้าค่อนข้างมาก เพราะเรื่องงบประมาณได้เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยเรื่องงบประมาณ และกรอบเวลา แต่ทั้งนี้จะเสร็จสิ้นในเร็วๆนี้ โดยนายกฯได้กำชับให้วางระบบให้เกิดการเชื่อมต่อทุกระบบ ไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ให้ระบบมีความสัมพันธ์กันในส่วนของกรุงเทพมหานครด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้า หรือเนื้อหาที่จะไปพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในที่ประชุมได้รายงานโดยยืนยันให้นายกฯ ทราบว่า ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ จะมีการปฎิบัติการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า นายกฯได้กำชับประเด็นอะไร ในเรื่องการเจรจาหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เรื่องของเนื้อหาที่จะเจรจายังเป็นเสรีของตนที่จะไปพูดคุยในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะ และตนจะพูดคุยในประเด็นเรื่องการลดเหตุความรุนแรง โดยจะนำเอาข้อเท็จจริงไปพูดคุย
ส่วนเรื่องที่จะมีกลุ่มใดเข้ามาขอเจรจาเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบ เพราะทางกลุ่มเจรจา ยังไม่มีการยืนยันมา ส่วนสถานการณ์เหตุความรุนแรงขณะนี้ ก็ยังเป็นเหตุการณ์ตามปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งเราได้เฝ้าระวังและตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปพูดคุยในโต๊ะเจรจา
เมื่อถามถึงเหตุระเบิดที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการหารือเรื่องการเฝ้าระวังในส่วนของกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ หรือไม่ เลขาฯสมช. กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้รายงานที่ประชุมว่าได้เตรียมมาตรการเป็นตามปกติ และขณะนี้ยังไม่มีข้อกังวล แต่เราก็ไม่มีความประมาทและได้เฝ้าระมัดระวังไว้เต็มที่
** ทหารอุบท่าทีแผนดึงอินโดฯร่วมแจม
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ที่กองทัพอากาศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งที่ 4 ประจำปี 2556 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
หลังการประชุม พล.อ.ธนะศักดิ์ แถลงว่า ในที่ประชุมได้เน้นย้ำเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง และการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะว่า เหตุระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาล และประเทศ กองทัพเป็นส่วนเล็กๆ ที่อยู่ใน 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็น รอง ผอ.รมน. ซึ่งการทำงานไม่ได้ทำในนามของกองทัพไทย แต่ทำหน้าที่ในนาม รอง ผอ.รมน. ส่วนตนได้ส่งกำลังและสนับสนุนทุกอย่างให้กับ กอ.รมน. การทำทุกย่างทำภายใต้นโยบาย ส่วนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราก็ใช้ได้เพียงข้อเดียว ซึ่งข้อเดียวที่ใช้ก็ไม่ได้กระทบอะไร ทั้งนี้เราต้องให้กำลังใจกับคนที่เสียสละไปทำงานในพื้นที่ และควรให้ข่าวในทางที่เหมาะสม
ส่วนกรณีที่กลุ่มวาดะห์ เสนอให้ประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมแก้ปัญหาภาคใต้นั้น ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ใครจะเสนออะไรก็ได้ ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายคณะผู้ที่รับผิดชอบจะกลั่นกรองและเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับประเทศ การเสนอความเห็นทุกอย่างดีหมด แต่ต้องนำมาดูว่า จะมีผลกระทบอย่างไร ทุกคนเป็นคนไทย และทำสิ่งที่ดีสุดให้ประเทศไทย ที่สำคัญต้องไปเป็นไปตามกฎกติกา
พล.ท.ภราดร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า มีการหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเป็นการติดตามความคืบหน้าเรื่องของการการติดตั้งระบบเฝ้าศูนย์ตรวจการ และการติดตั้งกล้องซีซีทีวี รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดการบูรณาการ และเกิดประสิทธิภาพในอนาคต
เมื่อถามว่าในที่ประชุมได้มีการนำข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เสนอให้มีการซ่อมแซมถนน และคอสะพานหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันหมด ซึ่งชุดที่ติดตั้งคือ หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานในพื้นที่จะทำการประสานกัน เพื่อให้เกิดความครอบคลุมทั้งพื้นที่ และระบบ และหารือเน้นในเรื่องของจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวังตรวจการ อีกทั้งบูรณาการการจัดการโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นเจ้าภาพ ในเรื่องของกฎกติกา และเรื่องการติดตั้งจะเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งขณะนี้คืบหน้าค่อนข้างมาก เพราะเรื่องงบประมาณได้เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยเรื่องงบประมาณ และกรอบเวลา แต่ทั้งนี้จะเสร็จสิ้นในเร็วๆนี้ โดยนายกฯได้กำชับให้วางระบบให้เกิดการเชื่อมต่อทุกระบบ ไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ให้ระบบมีความสัมพันธ์กันในส่วนของกรุงเทพมหานครด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้า หรือเนื้อหาที่จะไปพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในที่ประชุมได้รายงานโดยยืนยันให้นายกฯ ทราบว่า ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ จะมีการปฎิบัติการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า นายกฯได้กำชับประเด็นอะไร ในเรื่องการเจรจาหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เรื่องของเนื้อหาที่จะเจรจายังเป็นเสรีของตนที่จะไปพูดคุยในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะ และตนจะพูดคุยในประเด็นเรื่องการลดเหตุความรุนแรง โดยจะนำเอาข้อเท็จจริงไปพูดคุย
ส่วนเรื่องที่จะมีกลุ่มใดเข้ามาขอเจรจาเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบ เพราะทางกลุ่มเจรจา ยังไม่มีการยืนยันมา ส่วนสถานการณ์เหตุความรุนแรงขณะนี้ ก็ยังเป็นเหตุการณ์ตามปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งเราได้เฝ้าระวังและตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปพูดคุยในโต๊ะเจรจา
เมื่อถามถึงเหตุระเบิดที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการหารือเรื่องการเฝ้าระวังในส่วนของกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ หรือไม่ เลขาฯสมช. กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้รายงานที่ประชุมว่าได้เตรียมมาตรการเป็นตามปกติ และขณะนี้ยังไม่มีข้อกังวล แต่เราก็ไม่มีความประมาทและได้เฝ้าระมัดระวังไว้เต็มที่
** ทหารอุบท่าทีแผนดึงอินโดฯร่วมแจม
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ที่กองทัพอากาศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งที่ 4 ประจำปี 2556 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
หลังการประชุม พล.อ.ธนะศักดิ์ แถลงว่า ในที่ประชุมได้เน้นย้ำเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง และการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะว่า เหตุระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาล และประเทศ กองทัพเป็นส่วนเล็กๆ ที่อยู่ใน 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็น รอง ผอ.รมน. ซึ่งการทำงานไม่ได้ทำในนามของกองทัพไทย แต่ทำหน้าที่ในนาม รอง ผอ.รมน. ส่วนตนได้ส่งกำลังและสนับสนุนทุกอย่างให้กับ กอ.รมน. การทำทุกย่างทำภายใต้นโยบาย ส่วนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราก็ใช้ได้เพียงข้อเดียว ซึ่งข้อเดียวที่ใช้ก็ไม่ได้กระทบอะไร ทั้งนี้เราต้องให้กำลังใจกับคนที่เสียสละไปทำงานในพื้นที่ และควรให้ข่าวในทางที่เหมาะสม
ส่วนกรณีที่กลุ่มวาดะห์ เสนอให้ประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมแก้ปัญหาภาคใต้นั้น ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ใครจะเสนออะไรก็ได้ ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายคณะผู้ที่รับผิดชอบจะกลั่นกรองและเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับประเทศ การเสนอความเห็นทุกอย่างดีหมด แต่ต้องนำมาดูว่า จะมีผลกระทบอย่างไร ทุกคนเป็นคนไทย และทำสิ่งที่ดีสุดให้ประเทศไทย ที่สำคัญต้องไปเป็นไปตามกฎกติกา
