ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (18เม.ย.) มีวาระการพิจารณากระทู้ถามสดของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ถามนายกรัฐมนตรี ถึงผลการตรวจสอบการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี และปัญหาโครงการรับจำนำข้าว รวมถึงการได้รับเงินล่าช้าของเกษตรกร แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่อยู่ในที่ประชุม และได้มอบหมายให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ชี้แจงแทนว่า เรื่องได้รับเงินล่าช้านั้น รัฐบาลก็ได้เร่งรัดอย่างเต็มที่แล้ว และ ที่ผ่านมาอาจเกิดปัญหาล่าช้าในการดำเนินโครงการรอบล่าสุด เพราะเป็นขั้นดำเนินการ แต่ขณะนี้โครงการผ่านการอนุมัติจากครม. คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ก็เร็วขึ้น เม็ดเงินในโครงการจะถึงมือเกษตรกรในเร็วๆนี้ จุดไหนที่ล่าช้า ก็จะเร่งรัดติดตามให้
ส่วนการระบายข้าวของรัฐตั้งแต่เดือนต.ค.54 - มี.ค.56 มีการขายข้าวจีทูจีไปแล้ว 6.2 ล้านตัน ทั้งข้าวใหม่ ในโครงการ และข้าวเก่าที่ค้างสต็อก นอกจากนี้ ยังระบายขายในประเทศ และส่งออก 0.49 ล้านตัน ส่วนผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการรับจำนำข้าว หรือการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของกระทรวงพาณิชย์ ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ก็ได้แถลงว่า จากการตรวจสอบพบว่า หลักเกณฑ์ระบายข้าวทั้งรัฐบาลปัจจุบัน และรัฐบาลที่ผ่านมามีหลักเกณฑ์เดียวกัน ส่วนการซื้อขายจีทูจีผ่านบริษัทจีเอสเอสจี จากประเทศจีน ก็พบว่าองค์กรดังกล่าวมีเอกสารยืนยันจากหน่วยงานรัฐของประเทศจีน ซึ่งคือ คณะกรรมการควบคุมบริหาร และทรัพย์สินแห่งรัฐบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ยืนยันว่า บริษัท จีเอสเอสจี เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนจริง เมื่อได้รับความชัดเจนอย่างนี้แล้ว สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศจีน ก็แจ้งมาที่กรมการค้าต่างประเทศ หลังจากนั้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการขายข้าวแบบจีทูจี
นพ.วรงค์ กล่าวตอบโต้ว่า ข้อมูลที่นายณัฐวุฒิ ระบุไม่เป็นความจริง ท่านรัฐมนตรีระบุว่า มีการขายข้าวจีทูจีไปแล้ว 6.2 ล้านตัน ซึ่งตนไปตรวจสอบที่กรมศุลกากร ข้าวที่ขายไปในต่างประเทศในเดือนต.ค.54 มีข้าวออกไปแค่ 29,850 ตัน ปี 55 มีข้าวส่งออกไปต่างประเทศ 212 ตัน ยังห่างไกลจาก 6.2 ล้านตันมาก ดังนั้นสิ่งที่รัฐมนตรีพูดในสภาเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
ส่วนการที่ระบุว่า บริษัทของจีนเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ก็ต้องย้ำว่า การขายข้าวจีทูจี ต้องขายระหว่างรัฐต่อรัฐ ไม่ใช่รัฐบาลต่อรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีการดำเนินการใน 2 สัญญา สัญญาแรกกับบริษัทจีเอสเอสจี ซึ่งรัฐบาลจีนต้องมอบอำนาจมาให้บริษัทจีเอสเอสจี นายณัฐวุฒิ เห็นหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนมายังบริษัทจีเอสเอสจี และหนังสือมอบอำนาจของบริษัทจีเอสเอสจี มายัง นายรัฐนิธ โสติกุล หรือนายปาล์มหรือไม่ ถ้าเห็น ต้องเอามาโชว์ให้สื่อมวลชนเห็น
นายณัฐวุฒิ ชี้แจงว่า หนังสือมอบอำนาจ คือเอกสารที่รัฐบาลจีน โดยคณะกรรมการควบคุมบริหารและทรัพย์สินแห่งรัฐบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้ง ให้การรับรองบริษัทจีเอสเอสจี เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรัฐบาลจีนถือหุ้นอยู่ 100% จึงเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ ส่วนหนังสือมอบอำนาจมายังนายปาล์ม ก็อยู่ในรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการรับจำนำข้าว หรือการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีคณะกรรมการอยู่หลายคน แต่ละคนมีตัวตน และเขารับผิดชอบต่อสิ่งที่แถลงออกมา
นพ.วรงค์ ถามอีกว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์เมื่อต.ค.55 ได้รับแอลซี มาเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การซื้อเช็คเงินสดจากจาก นายสมคิด เรือนสุภา แอลซี ที่นายบุญทรง พูดอยู่ไหนที่จ่ายให้รัฐบาล เป็นเงินเท่าไร และเช็คที่นายสมคิดซื้อ มีหนังสือรับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน หรือไม่
นายณัฐวุฒิ ชี้แจงว่า สิ่งที่ตนตอบหากเห็นว่าไม่เป็นความจริง ท่านไม่เชื่อ ก็แล้วแต่ท่าน ไม่เป็นไปตามข้อมูลของ นพ.วรงค์ ก็สามารถใช้สิทธิตรวจสอบได้ตามช่องทางของท่าน แต่ตนก็มั่นใจในข้อมูลของรัฐที่ตนถืออยู่ ซึ่งมั่นใจว่า เป็นข้อเท็จจริง ส่วนการตกลงซื้อขายกับ บริษัทจีเอสเอสจีเป็นการชำระเงินโดยการโอนเงินผ่านธนาคารและชำระโดยเช็คเงินสด ส่วนการซื้อขายกับประเทศอื่นๆ ก็ยังมีวิธีการเปิดแอลซี เช่น การซื้อขายกับประเทศไอวอรี่โคสต์ ก็มีแอลซีให้ดู
ส่วนการระบายข้าวของรัฐตั้งแต่เดือนต.ค.54 - มี.ค.56 มีการขายข้าวจีทูจีไปแล้ว 6.2 ล้านตัน ทั้งข้าวใหม่ ในโครงการ และข้าวเก่าที่ค้างสต็อก นอกจากนี้ ยังระบายขายในประเทศ และส่งออก 0.49 ล้านตัน ส่วนผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการรับจำนำข้าว หรือการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของกระทรวงพาณิชย์ ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ก็ได้แถลงว่า จากการตรวจสอบพบว่า หลักเกณฑ์ระบายข้าวทั้งรัฐบาลปัจจุบัน และรัฐบาลที่ผ่านมามีหลักเกณฑ์เดียวกัน ส่วนการซื้อขายจีทูจีผ่านบริษัทจีเอสเอสจี จากประเทศจีน ก็พบว่าองค์กรดังกล่าวมีเอกสารยืนยันจากหน่วยงานรัฐของประเทศจีน ซึ่งคือ คณะกรรมการควบคุมบริหาร และทรัพย์สินแห่งรัฐบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ยืนยันว่า บริษัท จีเอสเอสจี เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนจริง เมื่อได้รับความชัดเจนอย่างนี้แล้ว สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศจีน ก็แจ้งมาที่กรมการค้าต่างประเทศ หลังจากนั้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการขายข้าวแบบจีทูจี
นพ.วรงค์ กล่าวตอบโต้ว่า ข้อมูลที่นายณัฐวุฒิ ระบุไม่เป็นความจริง ท่านรัฐมนตรีระบุว่า มีการขายข้าวจีทูจีไปแล้ว 6.2 ล้านตัน ซึ่งตนไปตรวจสอบที่กรมศุลกากร ข้าวที่ขายไปในต่างประเทศในเดือนต.ค.54 มีข้าวออกไปแค่ 29,850 ตัน ปี 55 มีข้าวส่งออกไปต่างประเทศ 212 ตัน ยังห่างไกลจาก 6.2 ล้านตันมาก ดังนั้นสิ่งที่รัฐมนตรีพูดในสภาเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
ส่วนการที่ระบุว่า บริษัทของจีนเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ก็ต้องย้ำว่า การขายข้าวจีทูจี ต้องขายระหว่างรัฐต่อรัฐ ไม่ใช่รัฐบาลต่อรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีการดำเนินการใน 2 สัญญา สัญญาแรกกับบริษัทจีเอสเอสจี ซึ่งรัฐบาลจีนต้องมอบอำนาจมาให้บริษัทจีเอสเอสจี นายณัฐวุฒิ เห็นหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนมายังบริษัทจีเอสเอสจี และหนังสือมอบอำนาจของบริษัทจีเอสเอสจี มายัง นายรัฐนิธ โสติกุล หรือนายปาล์มหรือไม่ ถ้าเห็น ต้องเอามาโชว์ให้สื่อมวลชนเห็น
นายณัฐวุฒิ ชี้แจงว่า หนังสือมอบอำนาจ คือเอกสารที่รัฐบาลจีน โดยคณะกรรมการควบคุมบริหารและทรัพย์สินแห่งรัฐบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้ง ให้การรับรองบริษัทจีเอสเอสจี เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรัฐบาลจีนถือหุ้นอยู่ 100% จึงเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ ส่วนหนังสือมอบอำนาจมายังนายปาล์ม ก็อยู่ในรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการรับจำนำข้าว หรือการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีคณะกรรมการอยู่หลายคน แต่ละคนมีตัวตน และเขารับผิดชอบต่อสิ่งที่แถลงออกมา
นพ.วรงค์ ถามอีกว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์เมื่อต.ค.55 ได้รับแอลซี มาเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การซื้อเช็คเงินสดจากจาก นายสมคิด เรือนสุภา แอลซี ที่นายบุญทรง พูดอยู่ไหนที่จ่ายให้รัฐบาล เป็นเงินเท่าไร และเช็คที่นายสมคิดซื้อ มีหนังสือรับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน หรือไม่
นายณัฐวุฒิ ชี้แจงว่า สิ่งที่ตนตอบหากเห็นว่าไม่เป็นความจริง ท่านไม่เชื่อ ก็แล้วแต่ท่าน ไม่เป็นไปตามข้อมูลของ นพ.วรงค์ ก็สามารถใช้สิทธิตรวจสอบได้ตามช่องทางของท่าน แต่ตนก็มั่นใจในข้อมูลของรัฐที่ตนถืออยู่ ซึ่งมั่นใจว่า เป็นข้อเท็จจริง ส่วนการตกลงซื้อขายกับ บริษัทจีเอสเอสจีเป็นการชำระเงินโดยการโอนเงินผ่านธนาคารและชำระโดยเช็คเงินสด ส่วนการซื้อขายกับประเทศอื่นๆ ก็ยังมีวิธีการเปิดแอลซี เช่น การซื้อขายกับประเทศไอวอรี่โคสต์ ก็มีแอลซีให้ดู