ASTVผู้จัดการรายวัน-“ประยุทธ” ลงพื้นที่ขู่เขมร ชมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง หลังทหารเขมร ก็ซ้อมรบอเช่นเดียกวัน กลุ่มคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน ปัดก่อม็อบ เขาพระวิหาร ชี้คนละส่วนกัน ส่วนทูตไทยในพนมเปญ เรียกร้องทุกฝ่ายยุติชุมนุมคัดค้าน อ้างส่งผลกระทบต่อรูปคดีปราสาทพระวิหาร โว!ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ยังเป็นปึกแผ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 เม.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา ผบ.ทบ. และคณะจะเดินทางไปชมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ทางการทหารด้วยกระสุนจริง ที่สนามฝึกยิงปืนใหญ่รถถัง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
มีรายงานว่า ช่วงนี้กองทัพภาค2 กำลังซ้อมรบ เช่นเดียวกับที่ผ่านมากองทัพกัมพูชา ทดลองยิงจรวด BM-21ด้วยกระสุนจริง เมื่อวันอังคาร 2 เม.ย.ที่ผ่านมาก็ซ้อมเช่นเดียวกับกองทัพไทย ตลอดเดือนมีนาคมและเมษายน
นายธัชชยุติ ภักดี เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กล่าวถึงการแถลงปิดคดีด้วยวาจาของฝ่ายไทยกับกัมพูชา ในคดีปราสาทพระวิหาร ระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่า ขณะนี้สถานการณ์ภายในประเทศกัมพูชาถือว่าอยู่ในภาวะปกติ เพราะคนในกัมพูชาต่างรู้ดีว่าผลการตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก เมื่อปี พ.ศ.2505 ได้ระบุให้ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และให้ไทยถอนกำลังออกจากตัวปราสาทพระวิหารและบริเวณใกล้เคียงปราสาท ซึ่งประเทศไทยได้ปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก่อนที่ทางการกัมพูชาร้องขอให้ศาลโลกตีความคำตัดสินศาลโลกเมื่อปี พ.ศ.2505 ใหม่ โดยอ้างว่า ไทยกับกัมพูชายังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับบริเวณใกล้เคียงของปราสาทพระวิหาร ทำให้ไทยต้องกลับไปต่อสู้คดีในศาลโลกอีกครั้ง เพื่อคัดค้านคำร้องของกัมพูชา
ขณะเดียวกัน นายธัชชยุติ ขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินของศาลโลก และไม่ควรเคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านกระบวนการพิจารณาต่างๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อรูปคดี และทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ได้ ทั้งนี้ จะส่งกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านต่างๆ อาทิ การค้าการลงทุน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และโรงแรม ธุรกิจ โรงพยาบาล อุตสาหกรรมสิ่งทอ โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ และอุตสาหกรรมการเกษตร
ส่วนการดำเนินความสัมพันธ์กับกัมพูชาของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ รวมถึงกัมพูชา แม้ช่วงที่ผ่านมาไทยและกัมพูชาจะมีปัญหาความขัดแย้งด้านเขตแดน โดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร แต่รัฐบาลปัจจุบันยังคงยืนยันท่าทีที่จะจำกัดความขัดแย้งดังกล่าว เพื่อไม้ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ ทั้งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ หากการตัดสินของศาลโลกตรงข้ามกับฝ่ายไทย เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี ประกอบด้วย การพบหารือทวิภาคีระดับผู้นำการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (JBC) การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ทั้งนี้ ประเทศไทยมีเจตนารมณ์ที่ต้องการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการพัฒนาของประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งกัมพูชา ย่อมส่งผลดีต่อประเทศไทยและประชาชนไทย รวมถึงจะส่งผลต่อการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความเป็นปึกแผ่นก่อนก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผนดิน กล่าวปฏิเสธกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางกลุ่มไม่ได้เคลื่อนเข้าใกล้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณเขาพระวิหาร เพราะทางกลุ่มยังยึดถือแนวทางการเดินทางไกล กอบกู้ราชอาณาจักรไทย ตามทางหลวงหมายเลขที่ 24 โชคชัย-เดชอุดม โดยเน้นนำความจริงสู่ประชาชน ไม่จำเป็นที่จะต้องสุ่มเสี่ยงเข้าไปในปัญหา พร้อมขอความเข้าใจ กลุ่มที่เคลื่อนไหวเข้าพื้นที่ ไม่เกี่ยวกับ เครือข่ายภาคประชาชนไทยของทางกลุ่ม ทั้ง ธรรมาธิปไตย กองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สภาเกษตรกรไทยแห่งชาติ สมาพันธ์เกษตรกรไทย แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน และภาคีภาคประชาชนต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้การเดินทางของกลุ่มถึง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว และจะพักค้างคืนที่ จ.นครราชสีมา โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ พักค้างคืนร่วมกัน 1,500 คน เพื่อรองรับคนเข้าร่วมระหว่างเดินขบวน คาดว่าจะถึง กรุงเทพมหานคร หลังสงกรานต์นี้ ส่วนจะพักค้างคืนนานหรือไม่ที่ จ.นครราชสีมา ต้องขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาเชิงบวก เช่นเดียวกับการเลือกสถานที่ เพื่อจะค้างคืนที่ กรุงเทพฯ ว่า จะเป็นทำเนียบรัฐบาล หรือ องค์กรสหประชาชาติ (UN).
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 เม.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา ผบ.ทบ. และคณะจะเดินทางไปชมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ทางการทหารด้วยกระสุนจริง ที่สนามฝึกยิงปืนใหญ่รถถัง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
มีรายงานว่า ช่วงนี้กองทัพภาค2 กำลังซ้อมรบ เช่นเดียวกับที่ผ่านมากองทัพกัมพูชา ทดลองยิงจรวด BM-21ด้วยกระสุนจริง เมื่อวันอังคาร 2 เม.ย.ที่ผ่านมาก็ซ้อมเช่นเดียวกับกองทัพไทย ตลอดเดือนมีนาคมและเมษายน
นายธัชชยุติ ภักดี เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กล่าวถึงการแถลงปิดคดีด้วยวาจาของฝ่ายไทยกับกัมพูชา ในคดีปราสาทพระวิหาร ระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่า ขณะนี้สถานการณ์ภายในประเทศกัมพูชาถือว่าอยู่ในภาวะปกติ เพราะคนในกัมพูชาต่างรู้ดีว่าผลการตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก เมื่อปี พ.ศ.2505 ได้ระบุให้ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และให้ไทยถอนกำลังออกจากตัวปราสาทพระวิหารและบริเวณใกล้เคียงปราสาท ซึ่งประเทศไทยได้ปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก่อนที่ทางการกัมพูชาร้องขอให้ศาลโลกตีความคำตัดสินศาลโลกเมื่อปี พ.ศ.2505 ใหม่ โดยอ้างว่า ไทยกับกัมพูชายังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับบริเวณใกล้เคียงของปราสาทพระวิหาร ทำให้ไทยต้องกลับไปต่อสู้คดีในศาลโลกอีกครั้ง เพื่อคัดค้านคำร้องของกัมพูชา
ขณะเดียวกัน นายธัชชยุติ ขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินของศาลโลก และไม่ควรเคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านกระบวนการพิจารณาต่างๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อรูปคดี และทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ได้ ทั้งนี้ จะส่งกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านต่างๆ อาทิ การค้าการลงทุน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และโรงแรม ธุรกิจ โรงพยาบาล อุตสาหกรรมสิ่งทอ โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ และอุตสาหกรรมการเกษตร
ส่วนการดำเนินความสัมพันธ์กับกัมพูชาของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ รวมถึงกัมพูชา แม้ช่วงที่ผ่านมาไทยและกัมพูชาจะมีปัญหาความขัดแย้งด้านเขตแดน โดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร แต่รัฐบาลปัจจุบันยังคงยืนยันท่าทีที่จะจำกัดความขัดแย้งดังกล่าว เพื่อไม้ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ ทั้งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ หากการตัดสินของศาลโลกตรงข้ามกับฝ่ายไทย เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี ประกอบด้วย การพบหารือทวิภาคีระดับผู้นำการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (JBC) การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ทั้งนี้ ประเทศไทยมีเจตนารมณ์ที่ต้องการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการพัฒนาของประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งกัมพูชา ย่อมส่งผลดีต่อประเทศไทยและประชาชนไทย รวมถึงจะส่งผลต่อการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความเป็นปึกแผ่นก่อนก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผนดิน กล่าวปฏิเสธกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางกลุ่มไม่ได้เคลื่อนเข้าใกล้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณเขาพระวิหาร เพราะทางกลุ่มยังยึดถือแนวทางการเดินทางไกล กอบกู้ราชอาณาจักรไทย ตามทางหลวงหมายเลขที่ 24 โชคชัย-เดชอุดม โดยเน้นนำความจริงสู่ประชาชน ไม่จำเป็นที่จะต้องสุ่มเสี่ยงเข้าไปในปัญหา พร้อมขอความเข้าใจ กลุ่มที่เคลื่อนไหวเข้าพื้นที่ ไม่เกี่ยวกับ เครือข่ายภาคประชาชนไทยของทางกลุ่ม ทั้ง ธรรมาธิปไตย กองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สภาเกษตรกรไทยแห่งชาติ สมาพันธ์เกษตรกรไทย แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน และภาคีภาคประชาชนต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้การเดินทางของกลุ่มถึง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว และจะพักค้างคืนที่ จ.นครราชสีมา โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ พักค้างคืนร่วมกัน 1,500 คน เพื่อรองรับคนเข้าร่วมระหว่างเดินขบวน คาดว่าจะถึง กรุงเทพมหานคร หลังสงกรานต์นี้ ส่วนจะพักค้างคืนนานหรือไม่ที่ จ.นครราชสีมา ต้องขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาเชิงบวก เช่นเดียวกับการเลือกสถานที่ เพื่อจะค้างคืนที่ กรุงเทพฯ ว่า จะเป็นทำเนียบรัฐบาล หรือ องค์กรสหประชาชาติ (UN).
