สมุทรปราการ -สภ.บางปูแจ้งข้อครูผู้ช่วยและโชเฟอร์รถตู้กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้"น้องเอย"ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยผอ.รร.ยินดีชดใช้ค่ารักษาทุกประการ แม่คนขับรถตู้เครียดจนเส้นเลือดสมองแตกตายหลังทราบข่าว
วานนี้ (8 เม.ย.) ความคืบหน้าคดี ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือน้องเอย อายุ 3 ขวบ นักเรียนชั้น อนุบาล 1 โรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท ตั้งอยู่ ม.2 ถ.ตำหรุ-คลองเก้า ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ที่ติดอยู่คารถตู้โรงเรียน โตโยต้า ทะเบียน ฮต-3759 กทม. จนเกิดช็อกมหดสติมีอาการสมองบวม กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ซึ่งขณะนี้ยังคงนอนรักษาอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.กรุงเทพ นั้น โดย เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 เม.ย.2556 ที่ห้องประชุม สภ.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู ได้เปิดห้องประชุมทำการตรวจสอบสำนวนการสอบสวน ในคดีดังกล่าว เนื่องจากมีสื่อมวลชนกว่า 50 คน มารอติดตามทำข่าวจนห้องพนักงานสอบสวนแออัดไม่สามรถตรวจสำนวนได้ โดยมี น.ส.ยุวเรศ คีรีวงษ์ อายุ 42 ปี ผอ.รร.อนุบาลอนงค์เวท และ น.ส.ดาวรอง ศรีสุมัง อายุ 37 ปี ครูผู้ช่วยมารอฟังการแจ้งข้อกล่าวหา
ต่อมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย น.ส.รัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี แม่ของน้องเอย ได้เดินทางมายัง สภ.บางปู โดยรถ มิตซูบิชิ ปาเจโร ทะเบียน ป้ายแดง ศ-9812 กทม. เพื่อมาติดตามความคืบหน้าของคดี ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ หวานใจ อายุ 42 ปี หรือครูเปิ้ล คนขับรถโรงเรียนดังกล่าว ได้เดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัว ในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนทั้งหมดจะเดินทางขึ้นไปยังห้องประชุม โดยมี พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ก่อนผู้ที่เกี่ยวข้องทางคดีทั้งหมด ได้ขอทำการพูดคุยกันส่วนตัวใช้เวลาประมาณ 15 นาที พร้อมปฏิเสธให้สื่อมวลชนบันทึกภาพทำข่าว จนกระทั่งเสร็จสิ้นก่อนเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทำข่าวต่อเนื่อง
โดย น.ส.ยุวเรศ คีรีวงษ์ ผอ.รร.อนุบาลอนงค์เวท กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งอยากขอโทษไปยังครอบครัวของ น้องเอย ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลังมีเรื่องเกิดขึ้นทางขณะครูของโรงเรียน ก็ได้พยายามให้การช่วยเหลือทุกทางไม่ว่าจะเป็นการเข้ารับผิดชอบการรักษาพยาบาลของ น้องเอย ตลอดจนการประสานไปยังครอบครัวของน้องเอยเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆในการเข้าดูแลลูก ยืนยันว่าทางคณะครูของโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ เพียงแต่ในช่วงวันแรกรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นโรงเรียนเอกชนเล็กๆ และเพิ่งเปิดได้ไม่นานไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนี้
ด้าน น.ส.รัตนา แม่ของน้องเอย กล่าวว่า ไม่รู้จะพูดอะไรได้ตอนนี้ คิดถึงแต่ความปลอดภัยของลูกและอยากให้ลูกหายเร็วไว ในส่วนของทางโรงเรียนที่ได้แสดงความรับผิดชอบมานั้น ยินดีรับและขอบคุณ เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องแบบนี้ไม่อยากให้มีใครเกิดขึ้น ขณะเดียวกันด้านอาการของน้องเอย นั้น ล่าสุดทางแพทย์เจ้าของไข้ แจ้งว่า อาการยังทรงตัวไม่มีความคืบหน้า โดยแพทย์ยังให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะยังไม่สามารถประเมินอาการคืบหน้าได้ว่าจะดีขึ้น หรือทรงตัว
พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ในส่วนของทางคดีนั้น ได้มอบหมาย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ทำคดีอย่างให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยเบื้องต้นนั้น ทางครอบครัวของน้องเอย ได้มีการขอทำบันทึกข้อตกลงในการดูแลเรื่องของการรักษาน้องเอย ทั้งหมด จนกว่าอาการจะหายดีเป็นปกติ ขณะที่ในส่วนของทางคดีนั้น เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหา แก่ น.ส.ดาวรอง ศรีสุมัง ครูผู้ช่วย และ นายสันติภาพ หวานใจ คนขับรถ ในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อดำเนินคดี แต่ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนนั้น จึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น คงจะต้องรอสรุปสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้แก่สองผู้ต้องหานั้น คณะโรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท รวมไปถึงสองผู้ต้องหาได้เข้ากราบขอโทษ น.ส.รัตนา พร้อมสวมกอดร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมามารดาของนายสันติภาพ หวานใจ อายุ 42 ปี หรือครูเปิ้ล คนขับรถโรงเรียน ได้เกิดอาการเครียดจัดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตหลังดูข่าวจากทีวี
ด้าน นายยงยุทธ ทรัพย์เจริญ ผอ.สำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 1 จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานพื้นที่การศึกษานั้น ได้มีการเข้าดำเนินการเบื้องต้น โดยการลงข้อมูลตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ สำหรับเหตุการณ์นี้ ติดปัญหาในส่วนของการควบคุมดูแลขึ้นอยู่กับ สำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นโรงเรียนเอกชน แต่ทั้งนี้ ก็ได้มีการลงตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าช่วยเหลือ เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายได้โดยเร็ว
วานนี้ (8 เม.ย.) ความคืบหน้าคดี ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือน้องเอย อายุ 3 ขวบ นักเรียนชั้น อนุบาล 1 โรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท ตั้งอยู่ ม.2 ถ.ตำหรุ-คลองเก้า ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ที่ติดอยู่คารถตู้โรงเรียน โตโยต้า ทะเบียน ฮต-3759 กทม. จนเกิดช็อกมหดสติมีอาการสมองบวม กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ซึ่งขณะนี้ยังคงนอนรักษาอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.กรุงเทพ นั้น โดย เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 เม.ย.2556 ที่ห้องประชุม สภ.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู ได้เปิดห้องประชุมทำการตรวจสอบสำนวนการสอบสวน ในคดีดังกล่าว เนื่องจากมีสื่อมวลชนกว่า 50 คน มารอติดตามทำข่าวจนห้องพนักงานสอบสวนแออัดไม่สามรถตรวจสำนวนได้ โดยมี น.ส.ยุวเรศ คีรีวงษ์ อายุ 42 ปี ผอ.รร.อนุบาลอนงค์เวท และ น.ส.ดาวรอง ศรีสุมัง อายุ 37 ปี ครูผู้ช่วยมารอฟังการแจ้งข้อกล่าวหา
ต่อมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย น.ส.รัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี แม่ของน้องเอย ได้เดินทางมายัง สภ.บางปู โดยรถ มิตซูบิชิ ปาเจโร ทะเบียน ป้ายแดง ศ-9812 กทม. เพื่อมาติดตามความคืบหน้าของคดี ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ หวานใจ อายุ 42 ปี หรือครูเปิ้ล คนขับรถโรงเรียนดังกล่าว ได้เดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัว ในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนทั้งหมดจะเดินทางขึ้นไปยังห้องประชุม โดยมี พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ก่อนผู้ที่เกี่ยวข้องทางคดีทั้งหมด ได้ขอทำการพูดคุยกันส่วนตัวใช้เวลาประมาณ 15 นาที พร้อมปฏิเสธให้สื่อมวลชนบันทึกภาพทำข่าว จนกระทั่งเสร็จสิ้นก่อนเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทำข่าวต่อเนื่อง
โดย น.ส.ยุวเรศ คีรีวงษ์ ผอ.รร.อนุบาลอนงค์เวท กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งอยากขอโทษไปยังครอบครัวของ น้องเอย ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลังมีเรื่องเกิดขึ้นทางขณะครูของโรงเรียน ก็ได้พยายามให้การช่วยเหลือทุกทางไม่ว่าจะเป็นการเข้ารับผิดชอบการรักษาพยาบาลของ น้องเอย ตลอดจนการประสานไปยังครอบครัวของน้องเอยเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆในการเข้าดูแลลูก ยืนยันว่าทางคณะครูของโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ เพียงแต่ในช่วงวันแรกรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นโรงเรียนเอกชนเล็กๆ และเพิ่งเปิดได้ไม่นานไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนี้
ด้าน น.ส.รัตนา แม่ของน้องเอย กล่าวว่า ไม่รู้จะพูดอะไรได้ตอนนี้ คิดถึงแต่ความปลอดภัยของลูกและอยากให้ลูกหายเร็วไว ในส่วนของทางโรงเรียนที่ได้แสดงความรับผิดชอบมานั้น ยินดีรับและขอบคุณ เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องแบบนี้ไม่อยากให้มีใครเกิดขึ้น ขณะเดียวกันด้านอาการของน้องเอย นั้น ล่าสุดทางแพทย์เจ้าของไข้ แจ้งว่า อาการยังทรงตัวไม่มีความคืบหน้า โดยแพทย์ยังให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะยังไม่สามารถประเมินอาการคืบหน้าได้ว่าจะดีขึ้น หรือทรงตัว
พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ในส่วนของทางคดีนั้น ได้มอบหมาย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ทำคดีอย่างให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยเบื้องต้นนั้น ทางครอบครัวของน้องเอย ได้มีการขอทำบันทึกข้อตกลงในการดูแลเรื่องของการรักษาน้องเอย ทั้งหมด จนกว่าอาการจะหายดีเป็นปกติ ขณะที่ในส่วนของทางคดีนั้น เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหา แก่ น.ส.ดาวรอง ศรีสุมัง ครูผู้ช่วย และ นายสันติภาพ หวานใจ คนขับรถ ในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อดำเนินคดี แต่ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนนั้น จึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น คงจะต้องรอสรุปสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้แก่สองผู้ต้องหานั้น คณะโรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท รวมไปถึงสองผู้ต้องหาได้เข้ากราบขอโทษ น.ส.รัตนา พร้อมสวมกอดร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมามารดาของนายสันติภาพ หวานใจ อายุ 42 ปี หรือครูเปิ้ล คนขับรถโรงเรียน ได้เกิดอาการเครียดจัดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตหลังดูข่าวจากทีวี
ด้าน นายยงยุทธ ทรัพย์เจริญ ผอ.สำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 1 จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานพื้นที่การศึกษานั้น ได้มีการเข้าดำเนินการเบื้องต้น โดยการลงข้อมูลตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ สำหรับเหตุการณ์นี้ ติดปัญหาในส่วนของการควบคุมดูแลขึ้นอยู่กับ สำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นโรงเรียนเอกชน แต่ทั้งนี้ ก็ได้มีการลงตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าช่วยเหลือ เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายได้โดยเร็ว
