น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในระยะยาวหรือไม่ ว่า เรื่องนี้เราต้องติดตามสถานการณ์ ต้องไม่ประมาท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ หากมีเหตุฉุกเฉินใดๆ เกิดขึ้น แต่ตนเชื่อว่าทางเกาหลีคงจะทำให้สถานการต่างๆไม่เกิดความรุนแรง ซึ่งในเวทีระหว่างประเทศ คงจะมีการหารือด้วยความสันติ
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วยงานว่า หากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายคนไทยและแรงงานกลับเข้าไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย และเดินทางกลับประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น หลายประเทศในโลกคงเดือดร้อนกันหมด ซึ่งเราเป็นประเทศท้ายๆ แต่ประเด็นคือ ต้องดูแลคนไทยอย่างไร แต่คิดว่าทางรัฐบาล โดยกระทรวงการต่างประเทศ คงเตรียมการว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ แล้วจะมีการรวมคนที่ไหน ก่อนเคลื่อนย้ายออกออกมา บางครั้งเครื่องมือเราอาจไม่พร้อม ประเทศอื่นอาจต้องช่วยเหลือด้วย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าโอกาสที่จะขยายเป็นวงกว้างคงไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ แต่ไม่อยากไปวิเคราะห์ เพราะเป็นเรื่องของสถานการณ์โลก แต่ก็ต้องเตรียมตัว หากเกิดเหตุจะต้องทำอะไรต่อไป อย่าไปตื่นตระหนกกัน
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนได้คุยกับนักธุรกิจใหญ่ในเกาหลีใต้ คาดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่เราก็เตรียมความพร้อมไว้ตลอด หากมีอะไรเกิดขึ้น เราพร้อมจะอพยพ และประสานกับแรงงานไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีทั้งหมด 40,000 คน และขณะนี้เราได้ติดต่อกลุ่มคนไทยในเกาหลีใต้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์อะไรจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง เช่น การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้ไม่เกิดการสูญหาย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ก็สามารถประสานกับคนไทยในเกาหลีใต้ได้ทันที เพราะเรามีประสบการณ์ในการอพยพคนในตะวันออกกลางอยู่แล้ว ส่วนคนไทยบางส่วนที่ไม่อยากเดินทางกลับหากเกิดเหตุการณ์นั้น ต้องยอมรับว่าบางคนอาจมีครอบครัวจึงไม่อยากกลับ แต่ดูแล้วเหตุการณ์ไม่น่ามีอะไรเป็นห่วง เพราะวันนี้หากทางเกาหลีเหนือทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้น จะมีปัญหา และการที่เกาหลีเหนือออกมา ก็เป็นการออกแสดงออกบางสิ่งบางอย่างไม่เช่นนั้นเขาจะโดนคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วยงานว่า หากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายคนไทยและแรงงานกลับเข้าไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย และเดินทางกลับประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น หลายประเทศในโลกคงเดือดร้อนกันหมด ซึ่งเราเป็นประเทศท้ายๆ แต่ประเด็นคือ ต้องดูแลคนไทยอย่างไร แต่คิดว่าทางรัฐบาล โดยกระทรวงการต่างประเทศ คงเตรียมการว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ แล้วจะมีการรวมคนที่ไหน ก่อนเคลื่อนย้ายออกออกมา บางครั้งเครื่องมือเราอาจไม่พร้อม ประเทศอื่นอาจต้องช่วยเหลือด้วย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าโอกาสที่จะขยายเป็นวงกว้างคงไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ แต่ไม่อยากไปวิเคราะห์ เพราะเป็นเรื่องของสถานการณ์โลก แต่ก็ต้องเตรียมตัว หากเกิดเหตุจะต้องทำอะไรต่อไป อย่าไปตื่นตระหนกกัน
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนได้คุยกับนักธุรกิจใหญ่ในเกาหลีใต้ คาดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่เราก็เตรียมความพร้อมไว้ตลอด หากมีอะไรเกิดขึ้น เราพร้อมจะอพยพ และประสานกับแรงงานไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีทั้งหมด 40,000 คน และขณะนี้เราได้ติดต่อกลุ่มคนไทยในเกาหลีใต้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์อะไรจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง เช่น การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้ไม่เกิดการสูญหาย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ก็สามารถประสานกับคนไทยในเกาหลีใต้ได้ทันที เพราะเรามีประสบการณ์ในการอพยพคนในตะวันออกกลางอยู่แล้ว ส่วนคนไทยบางส่วนที่ไม่อยากเดินทางกลับหากเกิดเหตุการณ์นั้น ต้องยอมรับว่าบางคนอาจมีครอบครัวจึงไม่อยากกลับ แต่ดูแล้วเหตุการณ์ไม่น่ามีอะไรเป็นห่วง เพราะวันนี้หากทางเกาหลีเหนือทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้น จะมีปัญหา และการที่เกาหลีเหนือออกมา ก็เป็นการออกแสดงออกบางสิ่งบางอย่างไม่เช่นนั้นเขาจะโดนคว่ำบาตร