“พล.อ.ประยุทธ์” สวน “ธาริต” ปฏิเสธไทยติดอันดับ 5 เสี่ยงเกิดก่อการร้าย ระบุคุยทูตทหารสหรัฐฯ แล้ว ยอมรับเป็นการเข้าใจผิด พร้อมขอโทษ ติงคนปูดข่าวทำไม่ถูกต้อง จี้แก้ข่าวด่วน เหตุอันตรายกับประเทศไทย ขณะเดียวกันยันพร้อมดูแลคนไทยในเกาหลี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ อ้างว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) จัดอันดับประเทศไทยเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดการก่อการร้ายเป็นอันดับ 5 ของโลกว่า ตนได้เรียนกับนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการก่อการร้ายโลก ซี่งตนได้ติดต่อไปยังสถานที่การประชุมที่ประเทศบรูไน โดยผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐฯ ได้ชี้แจงในที่ประชุม และส่งข้อความมาถึงตนว่าขอโทษด้วย คิดว่าคงเป็นความเข้าใจผิด และคงมีการพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่ในลักษณะอย่างนั้น เพราะเป็นเรื่องของการทำสถิติ โดยเขาไม่ได้แยกแยะออกจากกันว่า สถิติที่บ้านเราต่างจากที่อื่นอย่างไร ซึ่งประเทศไทยไม่ใช่พื้นที่ที่มีการรบในระยะเวลานานๆ ประเทศเราเป็นการเกิดเหตุเฉพาะที่ อย่างที่ภาคใต้ก็เกิดเฉพาะใน 3 จังหวัด และก็ไม่ได้เกิดทุกอำเภอ
“หากพูดว่าประเทศไทยเสี่ยงต่อการก่อการร้าย คงไม่ถูกต้อง ดังนั้นต้องรีบแก้ไขข้อมูล อยากให้สื่อเสนอข้อมูลความจริงเพราะอันตรายกับประเทศไทย ผมได้ไปชี้แจงกับทุกประเทศที่ไปเยือนมา โดยเป็นสถิติตัวเลขที่นับจำนวนครั้งที่มีการระเบิด และมีผู้บาดเจ็บ สูญเสีย ถ้าเทียบกับประเทศอื่นที่ไม่มีการต่อสู้แบบนี้ เราก็ต้องแรงกว่าเขาเป็นธรรมดา แต่ความแตกต่างของเรา คือ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ชายแดนใต้ ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันจนคนไปไหนมาไหนไม่ได้ และไม่ได้มีการแบ่งพื้นที่เป็นการสู้รบ หรือมีการยึดพื้นที่เหมือนกับที่อื่นที่มีการยกระดับการก่อการ้าย และสาเหตุก็มาจากหลายอย่างด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะการแบ่งแยกดินแดนอย่างเดียว ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด ไทยจะเสียชื่อเสียง กระทบต่อการท่องเที่ยว ดังนั้นเวลามีเรื่องเช่นนี้ออกมาต้องรีบแก้ไข อย่าปล่อยให้ผ่านไป”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ แต่เหตุการณ์แบบนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดครั้งแรกในโลก เพราะทำให้เกิดความสูญเสียทุกฝ่าย ทุกศาสนา ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนในโลก ดังนั้นการแก้ไขปัญหาก็ไม่เหมือนกัน และทุกวันนี้ที่เราคิดและทำกันออกมาคือป้องกันไม่ให้บานปลายหรือสร้างความขัดแย้งกับใคร
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เราต้องทำเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็กแล้วจะแก้ไขปัญหาได้ อย่ายกทุกปัญหาขึ้นมา ทั้งเรื่องภาคใต้ สถานการณ์บ้านเมือง ชายแดนเขาพระวิหาร ทุกอย่างใหญ่ไปหมด แล้วถามว่าใครจะเป็นคนแก้ไข จะให้ทหารแก้ไข อยากถามว่า ทหารมีอยู่จำนวนเท่าไหร่ มีทั้งไปภาคใต้ ขึ้นสนามชายแดน ช่วยชาวบ้านช่วงฝนตก ฝนแล้ง แล้วจะไปเอาทหารที่ไหนอีก พอจะมีทหารก็ไม่ให้ บอกว่าไม่รู้จะมีไปทำไม แล้วจะเอาไปรบกับใคร ก็ลองไม่มีทหารดูว่า จะมีการสู้รบไหม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงปัญหาพิพาทในคาบสมุทรเกาหลีว่า ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น หลายประเทศในโลกคงเดือดร้อนกันหมด ซึ่งเราเป็นประเทศท้ายๆ แต่ประเด็นคือต้องดูแลคนไทยอย่างไร แต่คิดว่าทางรัฐบาล โดยกระทรวงการต่างประเทศ คงเตรียมการว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ แล้วจะมีการรวมคนที่ไหน ก่อนเคลื่อนย้ายออกออกมา บางครั้งเครื่องมือเราอาจไม่พร้อมประเทศอื่นอาจต้องช่วยเหลือด้วย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าโอกาสที่จะขยายเป็นวงกว้างคงไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ แต่ไม่อยากไปวิเคราะห์เพราะเป็นเรื่องของสถานการณ์โลก แต่ก็ต้องเตรียมตัวหากเกิดเหตุจะต้องทำอะไรต่อไป อย่าไปตื่นตระหนกกัน