“วันเดอร์เวิร์ล” ปรับกลยุทธ์รับต้นทุนผลิตสูงขึ้นหนีค่าแรง 300 บาท ชูเอาท์ซอร์สผลิตในต่างประเทศ บุกตลาดช่องทางขายออนไลน์ ปรับสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ มุ่งตลาดเอเซียมากขึ้น ลดเสี่ยงยุโรปและอเมริกาที่เศรษฐกิจชะลอ
นางสาวแคทลียา พิรุณเกียรติ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วันเดอร์เวิร์ล โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายของเล่นไม้ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว และปีนี้จะเห็นชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุนการผลิตและการทำตลาด เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้บริษัทฯได้เริ่มทยอยโยกสายการผลิตไปต่างประเทศมากขึ้นในลักษณะของการเอาท์ซอร์สไม่ได้ตั้งโรงงานเอง ปัจจุบันผลิตในต่างประเทศสัดส่วนประมาณ 20% และผลิตในไทย 80% ที่โรงงานปทุมธานี เนื่องจากเล็งเห็นว่าต้นทุนการผลิตในไทยจะเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะค่าแรงจะเพิ่มมากขึ้น และหลังจากที่ค่าแรงเพิ่มเป็น 300 บาทแล้ว ทำให้เพิ่มต้นทุนขึ้นอีก ซึ่งขณะนี้ฐานเอาท์ซอร์สใหญ่อยู่ที่เวียดนาม ส่วนโรงงานในไทยคงจะไม่มีการลงทุนเพิ่มอีกแล้ว จะผลิตตามกำลังผลิตที่มีอยู่ และจะหาเอาท์ซอร์สมากขึ้น
นอกจากนั้น ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายของเล่นไม้เพิ่มขึ้นอีกไปสู่ช่องทางออนไลน์แต่ไม่ไช่ผ่านเว๊บไวต์ของบริษัท แต่เป็นการขายสินค้าผ่านเว๊บไซต์ขายสินค้าเด็กและเว๊บไซต์ทั่วไปประมาณ 10 กว่าเว๊บไซต์แล้ว เริ่มมาประมาณ 1-2 ปีแล้ว และมียอดขายเติบโตค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามสัดส่วนยอดขายที่มาจากออนไลน์ยังน้อยอยู่ไม่ถึง 5% แต่เป็นแนวโน้มที่ดีในอนาคต และปีนี้ก็จะขยายจำนวนเว๊บไซต์ที่จำหน่ายสินค้ามากขึ้นด้วย
รวมทั้งจะโยกงบประมาณด้านการตลาดที่ตั้งไว้ที่ 5% จากยอดขาย เพื่อนำไปใช้กับช่องทางสื่อออนไลน์มากขึ้นด้วย จกาเดิมเน้นนื่อเดิมเช่นนิตยสาร จากเดิมช่องทางจำหน่ายหลักของบริษัทฯคือตามห้างสรรพสินค้าและร้านขายของเล่น มีประมาณ 100 กว่าจุดครอบคลุมแล้ว
ขณะเดียวกันยังได้ปรับสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศใหม่ให้อยู่ในลักษณะที่กระจายความเสี่ยงลงด้วย จากเดิมที่เน้นการส่งออกไปต่างประเทศมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกมากกว่า 90% จากรายได้รวม โดยตลาดหลักอยู่ที่ยุโรปกับอเมริกา โดยมีตลาดยุโรปมากกว่า 60% แต่เนื่องจากตลาดยุโรปและอเมริกาเริ่มมีปัญหาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจตกต่ำลง ทำให้กระทบต่อรายได้บริษัทฯจึงได้หันมาเน้นตลาดเอเซียมากขึ้น ซึ่งเติบโตดี ปัจจุบันสัดส่วนรายได้รวมจึงอยู่ที่ ยุโรป30% อเมริกา 30% และเอเซีย 30% ที่เหลือคืออื่นๆ
สำหรับตลาดรวมของเล่นไม้ในไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 6,000 – 7,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโตค่อนข้างดีเฉลี่ย 10-15% ต่อปี เนื่องจากผู้ผู้ปกครองสมัยใหม่ให้การยอมรับกับของเล่นเสริมทักษะและมีคุณภาพของการผลิตที่ทำจากไม้มากขึ้น ส่งผลให้ของเล่นไม้เติบโตดีตามไปด้วย โดยในส่วนของบริษัทฯปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโต 15% แต่ถ้าเป็นเฉพาะตลาดในประเทศอย่างเดียวจะเติบโต 30% โดยมีสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายประมาณ 70% และสินค้าที่ผลิตเองจำหน่ายประมาณ 30%See More
นางสาวแคทลียา พิรุณเกียรติ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วันเดอร์เวิร์ล โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายของเล่นไม้ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว และปีนี้จะเห็นชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุนการผลิตและการทำตลาด เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้บริษัทฯได้เริ่มทยอยโยกสายการผลิตไปต่างประเทศมากขึ้นในลักษณะของการเอาท์ซอร์สไม่ได้ตั้งโรงงานเอง ปัจจุบันผลิตในต่างประเทศสัดส่วนประมาณ 20% และผลิตในไทย 80% ที่โรงงานปทุมธานี เนื่องจากเล็งเห็นว่าต้นทุนการผลิตในไทยจะเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะค่าแรงจะเพิ่มมากขึ้น และหลังจากที่ค่าแรงเพิ่มเป็น 300 บาทแล้ว ทำให้เพิ่มต้นทุนขึ้นอีก ซึ่งขณะนี้ฐานเอาท์ซอร์สใหญ่อยู่ที่เวียดนาม ส่วนโรงงานในไทยคงจะไม่มีการลงทุนเพิ่มอีกแล้ว จะผลิตตามกำลังผลิตที่มีอยู่ และจะหาเอาท์ซอร์สมากขึ้น
นอกจากนั้น ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายของเล่นไม้เพิ่มขึ้นอีกไปสู่ช่องทางออนไลน์แต่ไม่ไช่ผ่านเว๊บไวต์ของบริษัท แต่เป็นการขายสินค้าผ่านเว๊บไซต์ขายสินค้าเด็กและเว๊บไซต์ทั่วไปประมาณ 10 กว่าเว๊บไซต์แล้ว เริ่มมาประมาณ 1-2 ปีแล้ว และมียอดขายเติบโตค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามสัดส่วนยอดขายที่มาจากออนไลน์ยังน้อยอยู่ไม่ถึง 5% แต่เป็นแนวโน้มที่ดีในอนาคต และปีนี้ก็จะขยายจำนวนเว๊บไซต์ที่จำหน่ายสินค้ามากขึ้นด้วย
รวมทั้งจะโยกงบประมาณด้านการตลาดที่ตั้งไว้ที่ 5% จากยอดขาย เพื่อนำไปใช้กับช่องทางสื่อออนไลน์มากขึ้นด้วย จกาเดิมเน้นนื่อเดิมเช่นนิตยสาร จากเดิมช่องทางจำหน่ายหลักของบริษัทฯคือตามห้างสรรพสินค้าและร้านขายของเล่น มีประมาณ 100 กว่าจุดครอบคลุมแล้ว
ขณะเดียวกันยังได้ปรับสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศใหม่ให้อยู่ในลักษณะที่กระจายความเสี่ยงลงด้วย จากเดิมที่เน้นการส่งออกไปต่างประเทศมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกมากกว่า 90% จากรายได้รวม โดยตลาดหลักอยู่ที่ยุโรปกับอเมริกา โดยมีตลาดยุโรปมากกว่า 60% แต่เนื่องจากตลาดยุโรปและอเมริกาเริ่มมีปัญหาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจตกต่ำลง ทำให้กระทบต่อรายได้บริษัทฯจึงได้หันมาเน้นตลาดเอเซียมากขึ้น ซึ่งเติบโตดี ปัจจุบันสัดส่วนรายได้รวมจึงอยู่ที่ ยุโรป30% อเมริกา 30% และเอเซีย 30% ที่เหลือคืออื่นๆ
สำหรับตลาดรวมของเล่นไม้ในไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 6,000 – 7,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโตค่อนข้างดีเฉลี่ย 10-15% ต่อปี เนื่องจากผู้ผู้ปกครองสมัยใหม่ให้การยอมรับกับของเล่นเสริมทักษะและมีคุณภาพของการผลิตที่ทำจากไม้มากขึ้น ส่งผลให้ของเล่นไม้เติบโตดีตามไปด้วย โดยในส่วนของบริษัทฯปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโต 15% แต่ถ้าเป็นเฉพาะตลาดในประเทศอย่างเดียวจะเติบโต 30% โดยมีสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายประมาณ 70% และสินค้าที่ผลิตเองจำหน่ายประมาณ 30%See More
