ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น.ได้มีประกาศสำนักนายรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวน 232 อัตรา โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556 โดยการปรับย้ายครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการขยับนายพลในตำแหน่งหลักที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนก.ย.นี้ขึ้นมาได้อัตราพลเอกในตำแหน่งประจำ เช่น พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ (ตท.13) แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พล.ท.ศุภรัตน์ พัฒนาวิสุททธิ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก พล.ท.ณัฐชัย ใบเงิน รองเสนาธิการทหาร ขึ้นมาดำรงแหน่งผุ้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่สื่อได้มีการเสนอก่อนหน้านี้
โดยพล.ท.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก (ตท.13) ซึ่งปัจจุบันเป็นผอ.ส่วนข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและรองผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นตท.13 ของพล.ท.อุดมชัย ขยับขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แม้พล.ท.สกล จะเหลืออายุราชการเพียงปีเดียวก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความต่อเนื่อง ขณะที่พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา (ตท.15) แม่ทัพน้อยที่ 3 ซึ่งเป็นน้องชายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.สาธิต พิธรัตน์ (ตท.16) รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 3 พล.ต.พันธ์ศักดิ์ จันทร์ด้ง (ตท.14) รองแม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3. พล.ต.นิวัติชัย ถนอมธรรม (ตท.15) เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 3 เป็น รองแม่ทัพน้อยที่ 3 นอกจากนี้ยังได้มีการคืนความชอบธรรมให้กับพล.ท.วลิต โรจนภักดี (ตท.15) ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกำลังบำรุง (ผช.เสธ.ทบ.ฝกบ.) ซึ่งเป็นนายทหารที่สายบูรพาพัคฆ์ที่เคยบาดเจ็บหนักจากการนำกำลังทหารเข้ามากระชับพื้นที่การชุมนุมเสื้อแดงเมื่อปี 2553 และเคยพลาดหวังจากตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ข้ามกลับมาเป็น แม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อจ่อขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในเดือนตุลาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มีการปรับเปลี่ยนผบ.หน่วยคุมกำลัง อาทิ พล.ต.เฉลิมชัย สิทธิสารท (ตท.16) รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (รองผบ.นสศ.) เป็น ผบ.นสศ. พล.ต.ราชรักษ์ เรียนพืชน์ เสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็น ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ พล.ต.ตุลา ประเสริฐสุข (ตท.16) ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ เป็น รอง ผบ.นสศ. พล.ต.สมชาย ฤกษ์พิชัย(ตท.15) ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ (ผบ.พล.ป.) พ.อ.สมโภชน์ วังแก้ว (ตท.17) เป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม 2 รอ.) พล.ต.เครือนาค เกิดขำ (ตท.16) ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรีเป็น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 พล.ต.ชัยกร ประเสริฐสุข (ตท.16) เป็น ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี นอกจากนี้ยังมีการขยับ พล.ต.ศุภกร สงวนชาติศรไกร (ตท.15) เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก เป็น ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่วกำลังบำรุง พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ (ตท.14) ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายกิจการพลเรือน (ผช.เสธ.ฝกร.) ขยับขึ้นเป็น รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.สถิต แจ่มจำรัส แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.14) เป็น ผช.เสธ.ทบ.ฝกร.
สำหรับตำแหน่งอื่นที่น่าสนใจอื่นๆ มีดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.ทินกร สงวนศักดิ์โยธิน ผู้ช่วย หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลชัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอก)พล.ท.สถาพร เกียรติภิญโญ หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร และตุลาการพระธรรมนุญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอก) ส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พลางกูร กล้าหาญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) อัตราพลเอก พล.อ.เชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ที่ปรึกษาพิเศษบก.ทท. เป็น หน.ฝสธ.ผบ.สส..
ในส่วนของกองทัพบก พล.ต.ศุภกร สงวนชาติสรไกร เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก เป็น ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกำลังบำรุง พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผบ.พล ม.2 รอ.เป็น รองหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.ต.ศักดิ์ดา สาลีพันธ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก(อัตราพลโท) พล.ต.คนินทร วงศาโรจน์ ผบ.มทบ.15 เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก(อัตราพลโท) พล.ต. สิริศักดิ์ วรเจริญ เสนาธิการกรมพลาธิการทหารบก เป็น รองเจ้ากรมพลาธิการทหารบก พล.ต.บุญยรักษ์ พลูชัย ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ทหารกรมแพทย์ทหารบก เป็น รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก พล.ต.สมชาย ฤกษ์พิชัย ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ พล.ต.เครือนาค เกิดขำ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี ป็น ผบ.มทบ.15 พล.ต.ชัยกร ประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็น ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี พ.อ.สมชาย ยังพิทักษ์ เป็นเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก
กองทัพเรือ พล.ร.ท.มานิตย์ สูนนาดำ เจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็น ผู้ทรงคุณวิพิเศษกองทัพเรือ (อัตราพลเรือเอก) พล.ร.ต.มล.อนุนพนันท์ นวรัตน์ ริงเจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็นเจ้ากรมอู่ทหารเรือ พล.ร.ต.สุรชา ทองธิรา ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็น ผช.หน.คณะนยทหารฝสท.ประจำผู้บังคับบัญชา พล.ร.ต.วันชัย ท้วมเสน ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็น รอง ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 3 พล.ร.ต.ธวัชชัย ควรประดิษฐ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็น ผอ.อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ส่วนกองทัพอากาศ พล.อ.ท.ณรงค์ เหล่าธีรเชาวน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ เป็นปลัดบัญชีทหารอากาศ พล.อ.ท.ชูพันธ์ ชาญสมร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทหารอากาศ เป็น เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ พล.อ.ต.บุญมั่น รอดรุ่งเรือง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ เป็น ผอ.สำนักงานนิรภัยทหารอากาศ พล.อ.ต.บรรจง คลายนสูตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ เป็นเจ้ากรมช่างโยธาทหารอากาศ พล.อ.ต.รัชฏา วรภากร ผู้ทรงคุณวุฒิทหารอากาศ เป็น เจ้ากรมขนส่งทหารอากาศ ส่วนนายพลหญิงปีนี้มีทั้งหมด 9 คน โดยมีชื่อของพ.อ.หญิง ลักขณา แผ้วพลสง ภริยาพล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง (ตท.10 ) อดีตรองผบ.สส. ขึ้นเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกในอัตราพลตรีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่สื่อได้มีการเสนอก่อนหน้านี้
โดยพล.ท.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก (ตท.13) ซึ่งปัจจุบันเป็นผอ.ส่วนข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและรองผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นตท.13 ของพล.ท.อุดมชัย ขยับขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แม้พล.ท.สกล จะเหลืออายุราชการเพียงปีเดียวก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความต่อเนื่อง ขณะที่พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา (ตท.15) แม่ทัพน้อยที่ 3 ซึ่งเป็นน้องชายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.สาธิต พิธรัตน์ (ตท.16) รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 3 พล.ต.พันธ์ศักดิ์ จันทร์ด้ง (ตท.14) รองแม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3. พล.ต.นิวัติชัย ถนอมธรรม (ตท.15) เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 3 เป็น รองแม่ทัพน้อยที่ 3 นอกจากนี้ยังได้มีการคืนความชอบธรรมให้กับพล.ท.วลิต โรจนภักดี (ตท.15) ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกำลังบำรุง (ผช.เสธ.ทบ.ฝกบ.) ซึ่งเป็นนายทหารที่สายบูรพาพัคฆ์ที่เคยบาดเจ็บหนักจากการนำกำลังทหารเข้ามากระชับพื้นที่การชุมนุมเสื้อแดงเมื่อปี 2553 และเคยพลาดหวังจากตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ข้ามกลับมาเป็น แม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อจ่อขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในเดือนตุลาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มีการปรับเปลี่ยนผบ.หน่วยคุมกำลัง อาทิ พล.ต.เฉลิมชัย สิทธิสารท (ตท.16) รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (รองผบ.นสศ.) เป็น ผบ.นสศ. พล.ต.ราชรักษ์ เรียนพืชน์ เสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็น ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ พล.ต.ตุลา ประเสริฐสุข (ตท.16) ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ เป็น รอง ผบ.นสศ. พล.ต.สมชาย ฤกษ์พิชัย(ตท.15) ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ (ผบ.พล.ป.) พ.อ.สมโภชน์ วังแก้ว (ตท.17) เป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม 2 รอ.) พล.ต.เครือนาค เกิดขำ (ตท.16) ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรีเป็น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 พล.ต.ชัยกร ประเสริฐสุข (ตท.16) เป็น ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี นอกจากนี้ยังมีการขยับ พล.ต.ศุภกร สงวนชาติศรไกร (ตท.15) เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก เป็น ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่วกำลังบำรุง พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ (ตท.14) ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายกิจการพลเรือน (ผช.เสธ.ฝกร.) ขยับขึ้นเป็น รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.สถิต แจ่มจำรัส แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.14) เป็น ผช.เสธ.ทบ.ฝกร.
สำหรับตำแหน่งอื่นที่น่าสนใจอื่นๆ มีดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.ทินกร สงวนศักดิ์โยธิน ผู้ช่วย หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลชัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอก)พล.ท.สถาพร เกียรติภิญโญ หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร และตุลาการพระธรรมนุญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอก) ส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พลางกูร กล้าหาญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) อัตราพลเอก พล.อ.เชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ที่ปรึกษาพิเศษบก.ทท. เป็น หน.ฝสธ.ผบ.สส..
ในส่วนของกองทัพบก พล.ต.ศุภกร สงวนชาติสรไกร เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก เป็น ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกำลังบำรุง พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผบ.พล ม.2 รอ.เป็น รองหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.ต.ศักดิ์ดา สาลีพันธ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก(อัตราพลโท) พล.ต.คนินทร วงศาโรจน์ ผบ.มทบ.15 เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก(อัตราพลโท) พล.ต. สิริศักดิ์ วรเจริญ เสนาธิการกรมพลาธิการทหารบก เป็น รองเจ้ากรมพลาธิการทหารบก พล.ต.บุญยรักษ์ พลูชัย ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ทหารกรมแพทย์ทหารบก เป็น รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก พล.ต.สมชาย ฤกษ์พิชัย ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็น ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ พล.ต.เครือนาค เกิดขำ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี ป็น ผบ.มทบ.15 พล.ต.ชัยกร ประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็น ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี พ.อ.สมชาย ยังพิทักษ์ เป็นเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก
กองทัพเรือ พล.ร.ท.มานิตย์ สูนนาดำ เจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็น ผู้ทรงคุณวิพิเศษกองทัพเรือ (อัตราพลเรือเอก) พล.ร.ต.มล.อนุนพนันท์ นวรัตน์ ริงเจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็นเจ้ากรมอู่ทหารเรือ พล.ร.ต.สุรชา ทองธิรา ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็น ผช.หน.คณะนยทหารฝสท.ประจำผู้บังคับบัญชา พล.ร.ต.วันชัย ท้วมเสน ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็น รอง ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 3 พล.ร.ต.ธวัชชัย ควรประดิษฐ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็น ผอ.อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ส่วนกองทัพอากาศ พล.อ.ท.ณรงค์ เหล่าธีรเชาวน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ เป็นปลัดบัญชีทหารอากาศ พล.อ.ท.ชูพันธ์ ชาญสมร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทหารอากาศ เป็น เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ พล.อ.ต.บุญมั่น รอดรุ่งเรือง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ เป็น ผอ.สำนักงานนิรภัยทหารอากาศ พล.อ.ต.บรรจง คลายนสูตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ เป็นเจ้ากรมช่างโยธาทหารอากาศ พล.อ.ต.รัชฏา วรภากร ผู้ทรงคุณวุฒิทหารอากาศ เป็น เจ้ากรมขนส่งทหารอากาศ ส่วนนายพลหญิงปีนี้มีทั้งหมด 9 คน โดยมีชื่อของพ.อ.หญิง ลักขณา แผ้วพลสง ภริยาพล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง (ตท.10 ) อดีตรองผบ.สส. ขึ้นเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกในอัตราพลตรีด้วย