ASTVผู้จัดการ/สุราษฎร์ธานี - ชาวสมุยเคลื่อนตัวต่อต้านขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่อ่าวไทย ซึ่งจะเริ่มขุดเจาะในเดือนเมษายนนี้ พร้อมร่อนจดหมายเปิดผนึกเชิญประชาชนร่วมแสดงประชามติ หยุดขุดเจาะน้ำมัน รอบเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน และหมู่เกาะอ่างทอง
วานนี้( 20 มี.ค.56 ) ณ ห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มเครื่อข่ายปกป้องเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน เต่า และ อ่าวไทย พร้อมด้วย เครือข่ายต่างๆ ร่วมประชุมหารือ หาทางออกและยับยั้งการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยซึ่งจะเริ่มขุดเจาะในเดือนเมษายนนี้
โดยมาพูดคุยถึงประสบการณ์และแนวทางการต่อสู้และต่อต้านการขุดเจาะน้ำมันในบริเวณต่างๆ นอกจากนั้นยังได้จดหมายเปิดผนึกเชิญประชาชนร่วมแสดงประชามติ หยุดขุดเจาะน้ำมัน รอบเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน และหมู่เกาะอ่างทองโดยมีเนื้อหาดังนี้ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า พี่น้องชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ได้ร่วมกันคัดค้านโครงการการขุดเจาะสำรวจ และผลิตปิโตรเลียน ในบริเวณโดยรอบเกาะทั้ง 3 มาเป็นเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552
ทั้งนี้เนื่องจากกระหนักดีว่าอาณาบริเวณโดยรอบเกาะทั้ง 3 และหมู่เกาะอ่างทอง เป็นฐานทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสวยงามอุดมสมบูรณ์ ที่มีความสำคัญยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ ไม่ต่ำกว่า 20,000 - 30,000 ล้านบาททุกปี เป็นรายได้ที่มีการกระจายไปยังชุมชน และห่วงโซอุตสาหกรรมและอาชีพต่างๆมากมาย และยังมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิด และอนุบาลสัตว์น้ำที่สำคัญหลายชนิดในอ่าวไทย เช่นปลาทู
การคัดค้านดังกล่าวนำไปสู่การฟ้องร้องหน่อยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ต่อศาลปกครองกลาง ( คดีดำหมายเลขที่ 1785/2553 ) เพื่อให้มีการระงับยับยั้งโครงการดังกล่าว ขณะนี้คดียังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง ผลจากการที่ร่วมคัดค้านโครงการดังกล่าวทำให้บริษัทผู้รับสัมปทานยังไม่สามารถขุดเจาะสำรวจเพิ่มเติมในพื้นที่อันตรายต่อเกาะทั้ง 3 ได้ โดยเฉพาะในแปลงของบริษัทนิวคอสตอล ( CEC ปัจจุบัน ) ระยะหลุมห่าง 40 กม.จากเกาะสมุย และแปลงของบริษัทซาลามานเดอร์ (G4/50 ) ระยะหลุมห่าง 36.7 กม. จากเกาะพะงัน เป็นเหตุให้กระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติขอเปิดเจรจากับประชาชนท้องถิ่นผ่านคณะกรรมการสามฝ่าย
โดยที่ฝ่ายประชาชนที่คัดค้าน ได้เสนอให้มีการกันเขตปลอดภัยจากการขุดเจาะปิโตรเลียม โดยรอบเกาะทั้ง 3 ที่ ระยทาง 100 กม. และ ขอให้หยุด กิจกรรมทุกประเภทของบริษัทสัมปทานทุกชนิด เพื่อรอคำพิจารณาคดีจากศาลปกครองกลางเป็นระยะเวลา 2 ปีเศษ
วานนี้( 20 มี.ค.56 ) ณ ห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มเครื่อข่ายปกป้องเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน เต่า และ อ่าวไทย พร้อมด้วย เครือข่ายต่างๆ ร่วมประชุมหารือ หาทางออกและยับยั้งการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยซึ่งจะเริ่มขุดเจาะในเดือนเมษายนนี้
โดยมาพูดคุยถึงประสบการณ์และแนวทางการต่อสู้และต่อต้านการขุดเจาะน้ำมันในบริเวณต่างๆ นอกจากนั้นยังได้จดหมายเปิดผนึกเชิญประชาชนร่วมแสดงประชามติ หยุดขุดเจาะน้ำมัน รอบเกาะแห่งชีวิต สมุย พะงัน และหมู่เกาะอ่างทองโดยมีเนื้อหาดังนี้ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า พี่น้องชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ได้ร่วมกันคัดค้านโครงการการขุดเจาะสำรวจ และผลิตปิโตรเลียน ในบริเวณโดยรอบเกาะทั้ง 3 มาเป็นเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552
ทั้งนี้เนื่องจากกระหนักดีว่าอาณาบริเวณโดยรอบเกาะทั้ง 3 และหมู่เกาะอ่างทอง เป็นฐานทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสวยงามอุดมสมบูรณ์ ที่มีความสำคัญยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ ไม่ต่ำกว่า 20,000 - 30,000 ล้านบาททุกปี เป็นรายได้ที่มีการกระจายไปยังชุมชน และห่วงโซอุตสาหกรรมและอาชีพต่างๆมากมาย และยังมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิด และอนุบาลสัตว์น้ำที่สำคัญหลายชนิดในอ่าวไทย เช่นปลาทู
การคัดค้านดังกล่าวนำไปสู่การฟ้องร้องหน่อยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ต่อศาลปกครองกลาง ( คดีดำหมายเลขที่ 1785/2553 ) เพื่อให้มีการระงับยับยั้งโครงการดังกล่าว ขณะนี้คดียังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง ผลจากการที่ร่วมคัดค้านโครงการดังกล่าวทำให้บริษัทผู้รับสัมปทานยังไม่สามารถขุดเจาะสำรวจเพิ่มเติมในพื้นที่อันตรายต่อเกาะทั้ง 3 ได้ โดยเฉพาะในแปลงของบริษัทนิวคอสตอล ( CEC ปัจจุบัน ) ระยะหลุมห่าง 40 กม.จากเกาะสมุย และแปลงของบริษัทซาลามานเดอร์ (G4/50 ) ระยะหลุมห่าง 36.7 กม. จากเกาะพะงัน เป็นเหตุให้กระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติขอเปิดเจรจากับประชาชนท้องถิ่นผ่านคณะกรรมการสามฝ่าย
โดยที่ฝ่ายประชาชนที่คัดค้าน ได้เสนอให้มีการกันเขตปลอดภัยจากการขุดเจาะปิโตรเลียม โดยรอบเกาะทั้ง 3 ที่ ระยทาง 100 กม. และ ขอให้หยุด กิจกรรมทุกประเภทของบริษัทสัมปทานทุกชนิด เพื่อรอคำพิจารณาคดีจากศาลปกครองกลางเป็นระยะเวลา 2 ปีเศษ