วานนี้(17 มี.ค.56) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะคุยกันในเรื่องดังกล่าว เพราะการปรับคณะรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องง่าย และข้อเท็จจริงที่ลงข่าวก็มีทั้งจริงและไม่จริง ไม่ควรเอามาพูดกันเป็นเรื่องสนุกสนาน เพราะอาจทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องเสียหาย อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกัน ขอให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า เมื่อยังไม่ถึงก็ไม่ควรที่จะพูด
ด้านนายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะส.ส.กลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า ขณะนี้ภายในกลุ่มยังไม่มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด ต้องรอให้นายสมศักดิ์ เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ในการตัดสินใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท่าทีการตัดสินใจของพรรคฝ่ายรัฐบาลด้วย แต่เบื้องต้นนั้นยังไม่ได้หารือกันในกลุ่ม แต่รับทราบเพียงกระแสข่าวเท่านั้นจากสื่อมวลชนว่าทางกลุ่มจะเข้าร่วมรัฐบาล
"ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้สนับสนุนในการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ยังไม่ได้พูดคุยถึงขั้นนั้น แต่ยอมรับว่าเคยพบปะนางเยาวภาและร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกันภายในกลุ่ม ก็มีบ้างที่คุยกันในเรื่องของการทำงานรับใช้ประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ตนก็ยินดีถ้าช่วยอะไรได้ก็ทำ"นายมานิต
มีรายงานข่าวแจ้งว่า หากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ 'กลุ่มมัชฌิมา' ก็จะช่วยหาเสียงเลือกตั้ง และพร้อมเข้ามาเป็นรัฐบาลพร้อมกับนางเยาวภา โดยจะฟื้นกลุ่มวังบัวบาน ในอดีตพรรคไทยรักไทยขึ้นมาด้วยด้วย
ขณะที่มีการยืนยันว่า กลุ่มมัชฌิมาในพรรคภูมิใจไทย จะเข้ามาร่วมสนับสนุน โดยให้โควตารัฐมนตรีแก่กลุ่มดังกล่าว 1 ตำแหน่ง
รายงานข่าวแจ้ง่าด้วยว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะมีการสลับสับเปลี่ยนให้ตัวแทนกลุ่มการเมืองอื่นๆ ในรัฐบาลได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารกันบ้าง แต่จะไม่มีการแตะต้องรัฐมนตรีในกลุ่มที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ อชนวัตร เลือกด้วยตัวเอง
กลุ่มแรก เป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานใหญ่ อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่รับผิดชอบการวางโครงสร้างระบบโลจิสติกส์ของประเทศ
กลุ่มสอง เป็นรัฐมนตรีที่เป็นแขนเป็นขา และร่วมเป็นร่วมตายกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยฟันฝ่าวิกฤตมาด้วยกัน เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กลุ่มสาม เป็นรัฐมนตรีที่แม้จะไม่มีผลงานแจ่มชัด แต่ไม่เคยขัดแข้งขัดขา หรือทำลายผลงานของรัฐบาล ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ร่วมทำงานด้วยความสบายใจ
มีรายงานว่า กลุ่มรัฐมนตรีที่ทำงานไม่ได้มาตรฐาน สื่อสารกับสังคมไม่รู้เรื่อง หรือมีปัญหาการทำงาน จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างแน่นอน
ด้านนายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะส.ส.กลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า ขณะนี้ภายในกลุ่มยังไม่มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด ต้องรอให้นายสมศักดิ์ เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ในการตัดสินใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท่าทีการตัดสินใจของพรรคฝ่ายรัฐบาลด้วย แต่เบื้องต้นนั้นยังไม่ได้หารือกันในกลุ่ม แต่รับทราบเพียงกระแสข่าวเท่านั้นจากสื่อมวลชนว่าทางกลุ่มจะเข้าร่วมรัฐบาล
"ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้สนับสนุนในการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ยังไม่ได้พูดคุยถึงขั้นนั้น แต่ยอมรับว่าเคยพบปะนางเยาวภาและร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกันภายในกลุ่ม ก็มีบ้างที่คุยกันในเรื่องของการทำงานรับใช้ประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ตนก็ยินดีถ้าช่วยอะไรได้ก็ทำ"นายมานิต
มีรายงานข่าวแจ้งว่า หากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ 'กลุ่มมัชฌิมา' ก็จะช่วยหาเสียงเลือกตั้ง และพร้อมเข้ามาเป็นรัฐบาลพร้อมกับนางเยาวภา โดยจะฟื้นกลุ่มวังบัวบาน ในอดีตพรรคไทยรักไทยขึ้นมาด้วยด้วย
ขณะที่มีการยืนยันว่า กลุ่มมัชฌิมาในพรรคภูมิใจไทย จะเข้ามาร่วมสนับสนุน โดยให้โควตารัฐมนตรีแก่กลุ่มดังกล่าว 1 ตำแหน่ง
รายงานข่าวแจ้ง่าด้วยว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะมีการสลับสับเปลี่ยนให้ตัวแทนกลุ่มการเมืองอื่นๆ ในรัฐบาลได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารกันบ้าง แต่จะไม่มีการแตะต้องรัฐมนตรีในกลุ่มที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ อชนวัตร เลือกด้วยตัวเอง
กลุ่มแรก เป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานใหญ่ อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่รับผิดชอบการวางโครงสร้างระบบโลจิสติกส์ของประเทศ
กลุ่มสอง เป็นรัฐมนตรีที่เป็นแขนเป็นขา และร่วมเป็นร่วมตายกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยฟันฝ่าวิกฤตมาด้วยกัน เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กลุ่มสาม เป็นรัฐมนตรีที่แม้จะไม่มีผลงานแจ่มชัด แต่ไม่เคยขัดแข้งขัดขา หรือทำลายผลงานของรัฐบาล ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ร่วมทำงานด้วยความสบายใจ
มีรายงานว่า กลุ่มรัฐมนตรีที่ทำงานไม่ได้มาตรฐาน สื่อสารกับสังคมไม่รู้เรื่อง หรือมีปัญหาการทำงาน จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างแน่นอน